สกัดจับยาไอซ์ 999 กิโลกรัม ตีมูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท คาดเตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

พ.อ.ภาคภูมิ จันทรักษ์ ผบ.กรม ทพ.44 ได้มอบหมายให้ สิบโท ธนกฤต คังคะสุวรรณ พร้อมพวกตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ บ้านเตราะปลิง ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานีตามแผนเชิงรุกของหน่วย เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบ ปรากฏว่า พบรถกระบะ 4 ประตูสีขาว ยี่ห้อ Ford Ranger ป้ายทะเบียน กทม.กำลังขับมาถึงด่าน


เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้หยุดเพื่อตรวจสอบ เมื่อสอบถามคนขับว่าจะไปไหน ปรากฏว่าคนขับมีท่าทีพิรุธ จึงได้ให้ออกมานอกรถ พร้อมกับทำการตรวจค้นท้ายกระบะ ซึ่งมีผ้าใบสีฟ้าปิดคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปิดผ้าใบออกปรากฏว่าวัตถุต้องสงสัยทรงสี่เหลี่ยมบรรจุในกระสอบสีขาว จำนวน 78 กระสอบ เมื่อแกะดูปรากฏว่าเป็นยาไอซ์


เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมคนขับรถ สอบสวนทราบชื่อ นาย ซุลกิฟลี ชาวต.ราโหม อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมยึดของกลางเป็นยาไอซ์ น้ำหนัก 999 กิโลกรัม จากการจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการขยายผลและดำเนินคดีต่อไป


พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ซึ่งกำลังทหารพรานที่ 44 ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่จุดเกิดเหตุ ด้วยไหวพริบของเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้จำนวนมาก


ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ยาเสพติดดังกล่าวได้ขนมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างในการขนยาเสพติดจำนวน 3 แสนบาท แต่ได้เงินมาก่อน 5 หมื่นบาท เมื่อส่งถึงมือผู้รับจึงจะได้เงินค่าจ้างเต็มจำนวน ซึ่งก่อนจะถูกจับกุมได้ขับออกมาจาก ชุมชนบ้านมะพร้าวต้นเดียวอ.หนองจิก จ.ปัตตานีเพื่อนำไปส่งปลายทาง และจะมีผู้มารับต่อ ที่ปั๊มน้ำมัน ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่ถูกจับกุมได้ก่อน


และเชื่อว่ายาเสพติดล็อตดังกล่าว น่าจะส่งต่อปลายทางไปยัง อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาสและอาจจะส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามการจับกุมและยึดยาไอซ์ในพื้นที่อ.สายบุรี ถือเป็นการจับกุมเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกยึดได้ จำนวน 300 กิโลกรัม และครั้งนี้ถือว่ายึดได้มากที่สุดในพื้นที่ คาดว่าการยึดยาไอซ์ จำนวน 999 กิโลกรัมครั้งนี้มีมูลค่าเกือบ 2 พันล้าน