ชาวบ้านเชื่อ นายหรั่ง ไม่ได้ลักพาตัวน้องต่อ เด็ก 8 เดือนที่หายตัวไป หากถูกจับจริงพร้อมเป็นพยานช่วย

จากกรณีกรณี น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน หายไปจากบ้าน ที่ ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา อย่างปริศนา และมีการออกตามหากันตลอด ผ่านมากว่า 10 วัน ยังไม่พบ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง จ.นครปฐม นำตัว น.ส.นิ่ม อายุ 17 ปี และนายพุด อายุ 19 ปี แม่และพ่อน้องต่อ เข้าเครื่องจับเท็จที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จ.ปทุมธานี รวมทั้ง นายแจ้ หลังพบว่าดีเอ็นเอ ตรงกับน้องต่อ ยืนยันว่าเป็นพ่อแท้ๆ ของน้องต่อ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น




ล่าสุด เมื่อเมื่อวานนี้ 20 ก.พ.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้ใหญ่บ้านได้นำตัว นายหรั่ง ซึ่งเป็นชายที่คล้ายมีอาการทางจิตในพื้นที่ หลังมีผู้แจ้งเบาะแสว่า เห็นนายหรั่ง นำน้องต่อใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยาน ปั่นเข้าไปในซอยตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด ซึ่งเช้าวันนี้ 21 ก.พ.66 พบว่านายหรั่งไม่อยู่บ้าน สอบถามชาวบ้านในพื้นที่เผยว่าเมื่อเช้าผู้ใหญ่บ้านมาหานายหรั่ง คาดว่าจะนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม



ต่อมาทีมข่าว ได้พูดคุยกับ นางนิลรัตน์ หรือนีน อายุ 29 ปี เพื่อนบ้านของนายหรั่ง เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเป็นเพื่อนบ้านกับนายหรั่ง จะเห็นพฤติกรรมของนายหรั่งตลอด เชื่อว่านายหรั่งไม่ได้เป็นคนเอาเด็กไป

หลังจากที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้ามาที่นายหรั่ง ซึ่งเป็นคนสติไม่มีในหมู่บ้าน คนรู้จักกันทั้งหมู่บ้าน ส่วนตัวตนเองไม่เชื่อว่านายหรั่งจะเป็นคนเอาเด็กไป เนื่องจากปกติแล้วนายหรั่งจะไม่เข้าบ้านใคร หรือไม่ไปยุ่ง นอกจากบ้านพี่น้องของนายหรั่งเอง เพราะระแวกใกล้เคียงไม่มีใครให้นายหรั่งเข้าบ้านเลย แทบจะไม่ได้เข้าใกล้เด็กๆ เลย ซึ่งหากชาวบ้านเห็นนายหรั่ง ทุกคนต้องทักหรือเห็นว่าผิดสังเกตุตั้งแต่แรกแล้ว



ที่ผ่านมานายหรั่งมีเพียงพฤติกรรม ชอบเอาหินไปป้าบ้านชาวบ้าน ป้ารถชาวบ้าน เวลาหงุดหงิดหรือขาดยา แต่ถ้าพฤติกรรมปกตินายหรั่งจะเป็นคนเอื่อยๆ เชื่อยๆ



ซึ่งวันที่เกิดเหตุน้องต่อหายตัวไป ตนเองจำได้ว่า ขี่รถออกจากบ้านช่วง 8.00 น. หัวรถหันไปเห็นจุดที่นายหรั่งนั่งกินเหล้าอยู่กับญาติพอดี ซึ่งอยู่กัน 3-4 คน ตนสามารถยืนยันได้ว่าเห็นจริง และเห็นว่านายหรั่งใส่เสื้อสีน้ำเงิน



ตนเองยืนยันไม่ได้ปกป้องหรือเข้าข้าง แต่พูดถึงความเป็นไปได้และเป็นไปได้



ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้าน ยายสุรินทร์ เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า วันที่น้องต่อหายไป ยายวรรณตื่นมาประมาณ 6.00นาที จึงออกจากบ้านไปซื้อกับข้าว เห็นนายหรั่งนั่งกินเหล้าอยู่กับญาติๆ ซึ่งวันนั้นมีหลานๆเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีตารวย ตาชาย ตาหวัง และนายหรั่งนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ ตนเองยังจำได้ว่านายหรั่งใส่เสื้อสีอะไร หลังจากนั้นยายสุรินทร์ได้เดินออกไปซื้อกับข้าว ตอนกลับมา 6.30 นาที ก็ยังเห็นนายหรั่งนั่งอยู่ หลังจากนั้นตนเองได้เข้าบ้านไปหยอดยาที่ตา ถึงได้ยินเสียงคนโวยวายว่ามีคนลักเด็ก ตนจึงเดินมาชะเง้อดู แล้วกลับเข้ามากินข้าวในบ้าน หลังจากกินข้าวเสร็จ ตนก็ออกไปถามว่าลูกใครหาย ซึ่งตอนนั้นยังเห็นนายหรั่งนั่งดื่มเหล้าอยู่



ขณะเดียวกัน ยายวรรณเผยว่า เป็นไปไม่ได้ที่นายหรั่งลักเด็กไป เพราะหรั่งไม่สามารถเข้าบ้านใครได้ หลังจากที่ชาวบ้านรับรู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยนายหรั่ง ก็ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความเครียด เพราะชาวบ้านเข้าข้างนายหรั่ง เพราะรู้พฤติกรรมของนายหรั่งเป็นอย่างดี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเด็กหรือผู้หญิง ชาวบ้านรู้สึกเสียใจมาก ที่ชายคนนี้คล้ายมีอาการทางจิตแล้วยังถูกสงสัย ถ้าหากนายหรั่งถูกจับขึ้นมาจริงๆ ชาวบ้านทุกคนพร้อมช่วยเหลือนายหรั่งเพราะนายหรั่งไม่ผิด ในวันที่เกิดเหตุมีชาวบ้านหลายคนที่พบเห็นนายหรั่งอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ได้หนีหายไปไหน