อาชญากรรม

พ่อแม่ยันแพมเพิร์ส ไม่ใช่ของ 'น้องต่อ' ชาวบ้านหวั่น ตร.จะจับแพะ - มูลนิธิกระจกเงา กระตุกสังคม

โดย passamon_a

20 ก.พ. 2566

82 views

สารวัตรกำนันระดมค้นหา เจอเบาะแสน้องต่อใหม่ พบแพมเพิร์สเด็กถูกทิ้งข้างคลอง ใกล้จุดนายหรั่งบอกเอาเด็กมาทิ้ง ประสานเจ้าหน้าที่เก็บรายละเอียดเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ ขณะที่พ่อแม่เด็ก ยืนยันแพมเพิร์สไม่ใช่ของน้องต่อ เพราะมีขนาดใหญ่กว่าที่น้องใช้ เชื่อนายหรั่งไม่ได้เอาเด็กไป ชี้หากเอาไปจริงต้องมีคนรู้ ด้านชาวบ้านหวั่นตำรวจจับคนสติไม่ดีไปเป็นแพะ คนร้ายตัวจริงยิ้มแน่


เมื่อวันที่ 19 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติม ในกรณีของนายหรั่ง ชายหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ป้าบุญล้อม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเห็นนายหรั่งเป็นคนพาน้องต่อวัย 8 เดือน ขึ้นรถใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานขี่ไปยังเส้นทางริมถนน ของวันที่วันที่ 5 ก.พ.66


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มายังบริเวณหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของนายหรั่ง พบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายหรั่งออกไปแล้ว คาดว่านำไปสอบปากคำเพิ่มเติมหรือนำไปชี้จุด ทั้งนี้นายหรั่งอยู่ในอาการไม่สมประกอบ เดินยิ้มไปยิ้มมา แต่ไม่มีท่าทีที่จะอาละวาดหรือคลุ้มคลั่งแต่อย่างใด


โดยบ้านของนายหรั่งนั้น อยู่ด้านหลังบ้านของที่นิ่มกับพุดอาศัยอยู่ โดยเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงที่ใต้ถุนบ้านมีมุ้งกางและเป็นที่นอนของนายหรั่ง ใกล้กับเตียงนอน พบรถจักรยานของนายหรั่งซึ่งจอดอยู่ไว้ที่ใต้ถุนบ้าน เป็นจักรยานผู้ชาย แต่จักรยานคันดังกล่าวที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้านนั้น กลับไม่มีตะกร้าหน้ารถอย่างที่ป้าบุญล้อมได้พบเจอในวันที่ขี่รถสวนทางกับนายหรั่ง


ต่อมาตำรวจ สภ. บางหลวง จ.นครปฐม ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ได้เดินที่บริเวณรอบ ๆ บ้านที่นายหรั่งพักอาศัยอยู่ เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยเพียงว่า มาหาจักรยานของนายหรั่ง เนื่องจากจักรยานคันที่จอดอยู่นั้นไม่ตรงกับคำให้การที่ป้าบุญล้อมบอกว่าขี่สวนทางกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินหาบริเวณรอบ ๆ บ้าน ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่า มีจักรยานอีก 1 คัน หรือถูกนำไปเก็บซ่อนไว้ที่ใด เพราะนายหรั่งให้การไม่รู้เรื่อง


ต่อมาตำรวจ สภ.บางหลวง นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของน้องต่อ ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีเบาะแสว่าอาจมีคนนำร่างน้องต่อมาทิ้งไว้บริเวณนี้ ซึ่งตำรวจกว่า 10 นายได้กระจายกำลังปูพรมค้นหาตามพงหญ้าและริมขอบบ่อ แต่ยังไม่พบ พบเพียงซากปลาที่ตายแล้ว หลังที่มีกระแสที่ว่านายหรั่งเป็นคนอุ้มเด็กไปทิ้ง


ด้าน นางสาวกำไร อายุ 43 ปี พี่สาวนายหรั่ง ออกมาขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งน้ำตาว่า ขออย่านำตัวน้องชายไปเป็นแพะรับบาปเลย เพราะว่าน้องชายของตนเองสติก็ไม่ดีอยู่แล้ว จะนำตัวไปรักษาก็ยังไม่มีเงิน และน้องก็จะโดนไล่ออกไปนอนที่ศาลาข้างถนนแล้ว ส่วนรถจักรยานที่นายหรั่งขี่เป็นประจำก็ไม่มีตะกร้าหน้ารถมา 2 ปีแล้ว ตามที่มีชาวบ้านเห็นและเสื้อสีเหลืองที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่บ้านที่ นายหรั่งพักอยู่นั้น ตนเองก็เป็นคนให้เสื้อสีเหลืองกับน้องชายไปเอง หลังจากที่เกิดเรื่องเด็กหายไปแล้ว ส่วนชาวบ้านในชุมชนก็ไม่มีใครเชื่อว่า นายหรั่งจะทำแบบนั้น


ด้าน น.ส.นิ่ม คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะนายหรั่ง มาซื้อน้ำบ่อย แต่ไม่เคยมาวุ่นวายภายในร้าน มาถึงจะมานั่งตรงบริเวณช่องปูนหน้าบ้านเท่านั้น หลังจากที่ป้าบุญล้อมออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เห็นคล้าย ๆ นายหรั่งเอาเด็กหัวเกรียนใส่เสื้อลายขาวดำใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานและขี่ผ่านหน้าบ้านไปในช่วงเช้า


ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุ ไม่พบภาพของนายหรั่งผ่านเลยแม้แต่นิดเดียว ยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นนายหรั่งแน่นอน และคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแพะหรือเปล่า


ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.ส.ภ.บางหลวง พร้อมชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่กระจายการค้นหา ทางสารวัตรกำนันนำเรือประสาน เพื่อทำการแหวกคลองที่มีหญ้าขึ้นรกอยู่ที่ริมตลิ่ง บริเวณหมู่ 8 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยมีนักประดาน้ำลงพื้นที่ในการควานหา เพื่อแหวกผักตบชวา เจ้าหน้าที่ 4-6 นาย ช่วยกันแหวกกวาดบึงคลองเล็ก ๆ ที่คิดว่าเป็นจุดสำคัญในการค้นหาเด็ก เนื่องจากมีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามาว่าเด็กอาจมาอยู่ในจุดนี้ก็เป็นได้ แต่กลับไม่พบ


การค้นหายังไม่สิ้นสุด เจ้าหน้าที่ร่วมกันค้นหาในจุดที่สอง ห่างจากบริเวณจุดค้นหาแรกเพียง 1 กิโลเมตร อยู่บริเวณถนนไผ่แสงคน หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน บริเวณคลองเข้าทุ่งริมถนน ซึ่งพบแพมเพิร์สเด็กที่ใช้แล้ว ถูกนำมาทิ้งไว้ในกอหญ้า บริเวณริมตลิ่ง โดยเจ้าหน้าที่เก็บรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อรอการพิสูจน์ผลและเตรียมเก็บมาตรวจดีเอ็นเอ ให้ทราบแน่ชัดว่าแพมเพิร์สนี้เป็นของใคร แต่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณริมป่าข้างคลอง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการค้นหาวันนี้เช่นกัน


ขณะเดียวกันทางนายพุด และน.ส.นิ่ม เมื่อทราบข่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดู โดย น.ส.นิ่ม ยืนยันอย่างมั่นใจว่าแพมเพิร์สผืนนี้ไม่ใช่ของน้องต่อ เพราะน้องต่อใช้แพมเพิร์สขนาดไซซ์เอ็ม แต่ที่พบเจอนี้มีขนาดใหญ่กว่า พร้อมแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ใช่ของลูกอย่างแน่นอน แต่ในการปฏิบัติการค้นหาทางน้ำของเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการไปอย่างต่อเนื่อง โดยนิ่มเผยว่าตอนแรกรู้สึกดี จึงรีบมาดู แต่ปรากฏว่าไม่ใช่


ทั้งนี้ วันที่ 19 ก.พ. ครบรอบ 2 สัปดาห์ ที่น้องต่อ อายุ 8 เดือน หายตัวไปปริศนา เพจ ศูนย์คนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ภาพวาดรูปเหมือนน้องต่อ มีสีหน้าเศร้า คิ้วขมวด "ผมชื่อน้องต่อ" และในโพสต์ได้เขียนข้อความ มีเนื้อหาว่า "ไม่ว่าผมจะมีลมหายใจ หรือจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม เรื่องราวของผมและคนรอบตัวผม กำลังถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ โลกที่ผมสงสัยว่า พวกเขาห่วงใยผมจริง ๆ หรือไม่"


ในข้อความต่อมา ระบุว่า "ผมมีพ่อตามชื่อในเอกสารราชการ แต่มีคนประกาศให้โลกรู้ว่าพ่อไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของผม ..ผมอาจไม่อยากรับรู้เรื่องนี้จากคนอื่น ผมควรรับรู้เพียงในครอบครัวของผม และในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือสิทธิพื้นฐานที่ผมควรได้รับจากคนที่ทำตัวเหมือนห่วงใยผม"


"ไม่ว่าผมจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่คนรอบตัวผมได้ตายทั้งเป็นไปแล้ว ตายจากคำดูหมิ่นดูแคลน ตายจากความยุแยงให้เกลียดชังกัน สุดท้ายแล้วทุกคนจะกลับไปนอนที่บ้าน ส่วนบ้านของผมนั้น… อาจเป็นบ้านที่ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม"


"แม่ผมอาจตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถึงการหายตัวไปของผม หรือมีใครอื่นพาผมออกจากบ้านไป นั่นเป็นสิ่งที่ผมก็บอกไม่ได้"


"ผมรู้เพียงว่า เด็กหญิงอายุเพียง 17 ปี ที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตด้วยวัยเพียงเท่านี้ คือ แม่ที่คลอดและเลี้ยงผมมา 8 เดือนเต็ม / และคือเด็กสาวที่ถูกพิพากษาในทุกการกระทำ แต่กลับไม่มีใครมองว่า แม่ผมถูกใครกระทำต่อชีวิตมาบ้าง"


"ผมขอขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยตามหาผมด้วยความเป็นห่วง ถ้าผมยังมีชีวิตรอดกลับไป ให้คิดเสมือนว่าผมคือลูกของคุณ คือ เด็กคนหนึ่ง ที่ต้องเติบโตต่อไปบนโลกใบนี้"


ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าว มีผู้แสดงความเห็นจำนวนมาก อาทิ จริงนะ แม่ก็คือเด็กคนนึงเหมือนกัน บางรายบอกว่า ดีคะที่เขียนสะท้อนความเป็นสังคม ขณะที่อีกราย บอกว่า ขอให้น้องรอดปลอดภัยนะลูก และขอให้คุณแม่เข้มแข็ง



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/GboUrcgjWWA


คุณอาจสนใจ

Related News