อาชญากรรม

"บิ๊กโจ๊ก"เผยจ่อรวบ "หยู ซิน ฉี" แอบอ้างเบื้องสูงชวนคนจีนทำธุรกิจสีเทาในไทย

17 ก.พ. 2566

238 views

วันนี้ (17 ก.พ.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ (17 ก.พ.) ได้มีการประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตรียมที่จะเพิกถอนวีซ่าของ นาย “หยู ซิน ฉี” กลุ่มทุนจีนสีเทา กรณีเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตั้งสมาคมเถื่อน แอบอ้างเบื้องสูงชักชวนคนจีนเข้ามาลงทุนธุรกิจสีเทา


โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพิสูจน์และทราบพิกัดที่พักอาศัยพบว่า อยู่ในพื้นที่ย่านถนน จตุโชติ เขตสายไหม ตามที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีการโพสต์และแฉข้อมูลจริง โดยคาดว่าจะได้ตัวในวันนี้


จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า นาย หยู ซิน ฉี เป็นกลุ่มทุนจีนสีเทา มีพฤติกรรมชอบแอบอ้างเข้าไปทำความรู้จักสนิทสนมกับกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนในสังคมไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนจีนด้วยกัน ก่อนที่จะชักชวนมาร่วมลงทุน โดยจะใช้ตำแหน่งที่กล่าวอ้างว่าเป็นนายกสมาคมฯที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลไทย ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง


อีกทั้งแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อสร้างเครดิตให้กับตัวเองด้วย พร้อมยอมรับว่าการที่ หยู ซิน ฉี เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย เชื่อว่ามีคนไทยให้การสนับสนุน แต่เป็นคนระดับไหนต้องรอการสืบสวนสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง แต่ยืนยันว่าเครือข่าย หยู ซิน ฉี เป็นคนละเครือข่ายกับนายตู้ห่าว โดยพยายามแอบอ้างว่ารู้จักกับคนมีชื่อเสียงเพื่อประโยชน์ในการธุรกิจสีเทาต่างๆ


อย่างไรก็ตาม ตามขั้นตอนหากมีการควบคุมตัว นายหยู ซิน ฉี แล้วตำรวจจะต้องส่งไปดำเนินคดีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยต้องดำเนินคดีความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก่อน จากนั้นก็จะขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ พร้อมกับผลักดันกลับไปยังประเทศต้นทาง


ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บ้านพักของนาย หยู ซิน ฉี ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสายไหม ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา โดยมีรถยนต์ส่วนบุคคลจอดอยู่ 2 คัน ได้มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองกำกับการ 1 และ 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เฝ้าสังเกตการณ์และวางกำลังโดยรอบ โดยมีรายงานว่า นายหยู ซิน ฉี ยังพักอาศัยอยู่ในบ้านตามแนวทางการสอบสวนที่มีคนแจ้งเบาะแสมา


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง พร้อม ตำรวจนครบาลคันนายาว เข้าสำรวจพื้นที่เป้าหมายซึ่งเป็นที่ตั้ง “สมาคมหยูซินฉี” ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนถนนจตุโชติ ย่านวัชรพล


นายพิพัฒน์ยชญ์ ผอ.ส่วนกำกับและตรวจสอบ สำนักสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ยอมรับว่า ไม่เคยได้ยินชื่อของ สมาคม หยู ซิน ฉี มาก่อน กระทั่งปรากฏเป็นข่าวประกอบกับข้อมูลจากนายชูวิทย์ โพสต์เผยแพร่ แจ้งเบาะแส ความน่าสงสัยของการจัดตั้งและการดำเนินการของสมาคม


“เมื่อตรวจสอบข้อมูลในสารบบทะเบียนการจัดตั้งสมาคมของกรมการปกครอง ก็พบว่า ไม่มีประวัติการขอขึ้นทะเบียน จัดตั้ง จึงมีความผิดการตั้งสมาคม โดยไม่มีใบอนุญาต” โดยจะดำเนินการปิดสมาคมฯ และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ด้วยการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สน. คันนายาว ตามขั้นตอน


ส่วนเป้าหมายในการเข้าตรวจสอบวันนี้นอกจากการปิดสมาคม ก็จะเข้าตรวจค้นภายในที่ตั้งด้วย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลให้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องหรือ มีส่วนในการร่วมจัดตั้ง หรือร่วมกระทำความผิด ตั้งแต่การร่วมจัดตั้งไปจนถึงการใช้ชื่อสมาคมแอบอ้างหาผลประโยชน์ จากประชาชน หรือเพื่อแอบแฝงผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม


ขณะเดียวกัน มีข้อมูลของมูลนิธิหรือสมาคมฯ ที่ต้องสงสัยว่า อาจจัดตั้งไม่ถูกต้องหรือไม่ได้รับอนุญาตมากกว่า 1000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกพื้นที่ ให้ตรวจสอบโดยละเอียดอย่างเร่งด่วน

คุณอาจสนใจ

Related News