อาชญากรรม

9 วันยังไร้วี่แวว น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือนหายตัว เตรียมพาพ่อแม่เด็กเข้าเครื่องจับเท็จ

โดย kanyapak_w

13 ก.พ. 2566

282 views

ย่างเข้าสู่วันที่ 9 ในการหายตัวไปของน้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ที่พ่อแม่แจ้งความว่า มีคนอุ้มหายไปจากที่นอน ในตอนเช้าของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังค้นหา แต่ก็ยังไร้วี่แวว ล่าสุดเตรียมเอาพ่อแม่เด็กเข้าเครื่องจับเท็จในเร็วๆ นี้




หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับกู้ภัยฯ และชาวบ้านได้ช่วยกันรื้อผักตบชวาในคลองท่อ ริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งห่างออกจากบ้านของน้องต่อเด็กชายวัยแปดเดือน ประมาณ 200 เมตร ที่หายออกจากบ้านไปแล้ว 8 วัน แต่ยังไม่พบ เพื่อทำการค้นหาน้องต่อ เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า เด็กอาจจะถูกอุ้มหรือถูกทำร้ายแล้วนำมาทิ้ง แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการลอกคลองใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ไม่พบหลักฐาน หรือตัวน้องต่อแต่อย่างใดโดยก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันชุดสืบสวน และกู้ภัยฯ พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ระดมกำลังกว่า 60 นาย เข้าตรวจสอบ




ซึ่งมี น.ส นิ่ม และ นายพุด แม่และพ่อของน้องต่อ ร่วมกันเข้าค้นหาน้องต่อภายในป่าหญ้าเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุแต่ก็ไม่พบน้องจนกระทั่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้นำอุปกรณ์พร้อมสารเคมี ในการตรวจหาคราบเลือด เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่น้องต่อหายตัวไป ซึ่งมีการตรวจสอบตั้งแต่ที่นอน และบริเวณในห้องรวมไปถึง ห้องน้ำและท่อ น้ำต่างๆ ภายในตัวบ้านทั้งหมด และได้เก็บผ้าห่มของน้องต่อไปตรวจสอบ เนื่องจากพบคราบติดที่ผ้าห่ม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคราบอะไร



โดยแม่เด็กบอกว่าเป็นคราบอ้วกที่น้องต่อเหวอะนมออกมา ส่วนการตรวจคราบตามพื้นห้องนอนและห้องน้ำไม่พบสิ่งผิดปกติส่วนความคืบหน้าในทางคดี มีรายงานจากตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีว่า อยู่ระหว่างปรึกษากับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตั้งคำถามเตรียมที่จะเอาพ่อและแม่ของน้องต่อที่หายตัวไปเข้าเครื่องจับเท็จในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตำรวจได้วางแนวทางการสืบสวนไว้ 2 ประเด็น คือมีคนนอกมาอุ้มน้องออกไป ส่วนประเด็นที่สอง คือแม่และพ่อของเด็กมีส่วนรู้เห็นแต่จะเป็นการอุ้มนำไปให้ใคร หรือเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นนั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ตำรวจให้น้ำหนักไปทางประเด็นที่สองมากกว่า เพราะจากการตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุไม่เคยมีประวัติที่มีการลักพาตัวเด็กแต่อย่างใด



ขณะที่วันนี้พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกตำรวจเจ้าของพื้นที่มาสอบถามความคืบหน้าคดี เพราะหลายวันแล้วแต่กลับยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องเรียกมาสอบถามถึงประเด็นที่ทางพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจพบคราบเลือด ในพื้นที่จุดเกิดเหตุ และต้องตรวจสอบว่าการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเก็บมาครบถ้วนหรือไม่ หากไม่ครบต้องเก็บหลักฐานใหม่ เนื่องจากพยานหลักฐานดังกล่าวจะสามารถใช้ตรวจดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวบุคคลที่จะทำความผิดได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า ฝ่ายสืบสวนไม่มีใครทำงานเก่งกว่ากัน มีแต่ใครที่ขยันมากกว่ากันเท่านั้น หากต้องการให้ความจริงปรากฏตำรวจคณะทำงานต้องขยันมากกว่านี้



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,เด็กหาย ,น้องต่อ

คุณอาจสนใจ

Related News