ผกก.ทองหล่อ รับ 2 ลูกน้องบุกร้านทำเล็บจริง อ้างไม่รู้เป็นร้าน ‘ดิว อริสรา’ - ‘ไผ่ ลิกค์' จี้พูดความจริงได้แล้ว

เปิดวงจรปิดตำรวจบุกค้น ร้านทำเล็บ ‘ดิว อริสรา’ ผู้จัดการร้าน เผย ถูกชาย 2 คนคล้าย ตร. คุกคาม ขณะที่ ผกก.สน.ทองหล่อ รับเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนจริง แต่เข้าตรวจไม่รู้เป็นร้านดิว ด้าน ไผ่ ลิกค์ โพสต์ พูดความจริงได้แล้ว 

เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพบุคคลมีพิรุธ 2 ราย ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบนิเวณหน้าร้านทำเล็บแห่งหนึ่งภายในซอยทองหล่อที่ ดิว อริสรา เป็นหุ้นส่วนกับเพื่อน พรัอมกับนำโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพหน้าร้าน คล้ายส่งให้ใครบางคนดู และขับรถออกจากร้านไป ซึ่งเหตุการณ์นี้เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.16 น. ของวันที่ 7 ก.พ. 66 ทำให้ ดิว อริสรา เกิดความไม่ปลอดภัยจึงร้องขอความคุ้มครองจากตำรวจ

โดยจากภาพจะเห็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน ก่อนที่ชายที่ซ้อนท้าย จะลงมายืน และกดโทรศัพท์ และคล้ายกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่หน้าร้าน และจากนั้น ชายอีกคน ที่ขี่รถจักรยานยนต์ได้เดินมาสมทบอ และเดินอยู่หน้าร้าน

ก่อนที่ในเวลา 19.28 น. ชายคนหนึ่ง เริ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพหน้าร้าน และมาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าร้าน

ขณะที่อีกคลิป เป็นคลิปวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลา 13.34น. สายสืบทั้ง 2 นาย ได้เข้าไปภายในร้านทำเล็บของคุณดิว และพูดคุยกับพนักงานในร้าน และคล้ายกับเรียกตรวจเอกสารบางอย่างจากพนักงานในร้าน ก่อนที่จะออกจากร้านไป

เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านทำเล็บของคุณดิว ย่านทองหล่อ และได้พูดคุยกับผู้จัดการร้าน เล่าว่า มีเจ้าหน้าที่สายสืบเข้ามาที่ร้าน 2 วัน คือ วันอังคาร และวันพุธ

โดยวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ สายสืบทั้ง 2 ไม่ได้เข้ามาภายในร้าน เพราะร้านมีระบบรักษาความปลอดภัย มีตัวล็อก ก่อนที่สายสืบทั้ง 2 จะถามคนในร้านว่า “ใช่ร้านคุณดิวหรือเปล่า” แล้วบอกว่า “เจ้านายอยากทำเล็บ ก็เลยให้มาดูก่อน” โดยวันนั้น ก็มาด้อมๆ มองๆ และถ่ายรูปร้าน ก็เลยแจ้งไปว่า ถ้าจะจองคิว ต้องจองผ่านไลน์แอด ไม่รับลูกค้า walk in ก่อนที่สายสืบทั้ง 2จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ และบอกว่า เจ้านายทำงานอยู่แถวนี้ เจ้านายอยากมาทำมาเสริมสวย แต่ไม่ได้แสดงตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พอวันรุ่งขึ้น วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ สายสืบ 2 คน ก็ขี่รถมาจอดหน้าร้านเลย คุณแอมมี่นั่งอยู่ในร้าน ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นลูกค้า เลยชะโงกหน้าออกมาดู ถามว่ามาจากไหน เค้าบอกว่ามาจาก สน.ทองหล่อ และบอกว่ามีคนแจ้งมาว่า “ที่นี่มีต่างด้าวมาทำงาน” เลยตอบไปว่าไม่มีนะคะ ตำรวจเลยบอกว่า “ถ้าไม่มีแล้วคนจะมีคนแจ้งมาได้ยังไง”

ตนจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เข้ามาในร้าน และให้ตรวจบัตร แต่ก่อนจะตรวจบัตร สายสืบคนหนึ่งก็ขอเซลฟี่กับตนก่อน ตนก็งงเลยถามไปว่า จะเซลฟี่ไปทำไม แต่ท้ายสุดก็ให้เซลฟี่ ก่อนยื่นบัตรของพนักงานในร้านทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นพนักงานทำเล็บ และพนักงานต่อขนตา มาให้ตรวจสอบ ซึ่งก็ไม่มีต่างด้าวเลย ก่อนที่สายสืบจะถามว่า ร้านนี้เป็นร้านใครหรอครับ ตนก็งง เพราะเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นร้านของใคร ตนจึงถามย้ำว่ามาจากไหน ทั้งคู่ก็ยื่นบัตรให้ดู ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง และออกไป และทั้งคู่ก็ขี่รถวนมาดูทุกชั่วโมง จนถึง 5 โมงเย็น

ทั้งนี้ ผู้จัดการร้าน มั่นใจว่า ทั้ง 2 คนที่มาในร้าน เป็นคนเดียวกันกับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ (วันแรกที่มา)  ส่วนตัวมองว่า การมาของสายสืบไม่ใช่การมาตรวจตราตามปกติ มองว่าเป็นการคุกคามมากกว่า ซึ่งหากมาตรวจตราจริง เธอตั้งข้อสังเกตว่า ควรมาตรวจตราตั้งนานแล้ว เพราะร้านเปิดมาได้ 3 เดือนแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมาตรวจ มันทำให้พวกเธอหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ สน.ทองหล่อ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับ ตร.สายสืบทั้งสองนาย ทราบว่า เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ทั้งคู่ไม่ได้เข้าเวร แต่สอบถามจากเพื่อนร่วมงาน ให้ข้อมูลว่า เท่าที่ทราบทั้งคู่น่าจะติดตามคดีเกี่ยวกับลักทรัพย์อยู่ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องคุณดิวอย่างแน่นอน แต่ในรายละเอียด ต้องสอบถามทางผู้บังคับบัญชา

ขณะที่ต่อมาพันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ไปตรวจสอบที่ร้านทำเล็บ บาร์ ออฟ บิวตี้ (bar of beauty) ในโครงการ ซีน สเปซ (seen space) ซอยทองหล่อ 13 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ซึ่งเป็นร้านของ ดิว อริสรา เพื่อทำความเข้าใจ หลังจากที่มีตำรวจสืบสวน สน. ทองหล่อ เข้าไปตรวจสอบ จนทำให้เกิดความหวั่นเกรง

พันตำรวจเอก พันษา ยอมรับว่ามีตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ยศสิบตำรวจเอก 2 นาย ของ สน.ทองหล่อ ไปตรวจสอบร้านทำเล็บของ ดิว อริสรา จริง  ซึ่งทางฝ่ายสอบสวนได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย มาสอบถามแล้ว ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบตามปกติ สืบเนื่องจากมีตำรวจสังกัดกองบัญชาการหนึ่ง กำลังติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ของ สน.ทองหล่อ เนื่องจากผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับคดีที่ก่อเหตุในพื้นที่ของกองบัญชาการดังกล่าว จึงประสานมายังเพื่อน ซึ่งเป็นตำรวจสืบสวน สน. ทองหล่อให้ช่วยลงพื้นที่หาข่าว เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามจับกุม โดยไม่ทราบมาก่อนว่า ร้านทำเล็บดังกล่าวเป็นของ ดิว อริสรา

ส่วนที่ทางพนักงานบอกว่าตอนไปตรวจค้นตำรวจทั้ง 2 นาย อ้างว่าไปตรวจสอบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายนั้น ก็เป็นวิธีการการทำงานเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหารู้ตัว หรือแหวกหญ้าให้งูตื่น ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบร้านดังกล่าว ไม่มีหมายค้น เนื่องจากเป็นสาธารณะสถาน เป็นร้านให้บริการ มีประชาชนผู้ใช้บริการเข้าออก จึงไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นต่อศาล กรณีการตรวจค้นที่จะต้องใช้หมายค้นนั้น จะต้องเป็นเคหะสถาน หรือบ้านพักอาศัย

จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำของตำรวจทั้ง 2 นาย ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งหากตำรวจ สน.ทองหล่อ ประพฤติตนไม่ชอบ ก็จะต้องถูกดำเนินการตามวินัยและขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน

ส่วนข้อสงสัยว่า ทำไมร้อยวันพันปีตำรวจจึงเพิ่งมาตรวจ เห็นว่ามีตำรวจไปตรวจคอยดูแลความปลอดภัยดีกว่าไม่มี เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน แต่สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่หาข้อมูลผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ซึ่งเป็นหน้าที่ตำรวจที่จะต้องอธิบายการปฎิบัติงาน หากประชาชนไม่เข้าใจ

ส่วนกระแสข่าวเรื่องที่มีตำรวจระดับรองสารวัตร เป็นหุ้นส่วนเปิดร้านผับบาร์ย่านทองหล่อ กับ เบนซ์ เดม่อน นั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลว่ามีนายตำรวจของสน.ทองหล่อ ไปมีหุ้นส่วนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องร้านผับบาร์กับ นายเบนซ์ เดม่อน ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะต้องขอเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่าเป็นเรื่องจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

-------------------------

เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.66 ) ไผ่ ลิกค์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด 2 ตำรวจค้นร้านทำเล็บของ ดิว อริสรา พร้อมข้อความระบุว่า  เรื่องที่มีผู้ชาย 2 คนเข้าไปในร้านทำเล็บของดิว ซึ่งตอนหลังเราพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ

ซึ่งการเข้ามาไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเข้ามาทำอะไร จนต้องไปสืบทราบเองว่าเป็นตำรวจภายหลัง เหมือนอย่างที่ทราบในข่าว ต่อมาคำตอบแรกที่บอกเข้ามาเพื่อตามหาคนต่างด้าวที่ขโมยของมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาหลังจากที่ข่าวออกอีกครั้ง เพื่อตามหาคนในรูปซึ่งยื่นให้พนักงานในร้าน ซึ่งน้องคนนั้นเป็นคนสนิทของดิว อ้างว่ามาตามหมายจับตามที่เป็นข่าวตามจับคนร้ายหนีคดี

เมื่อผมได้ไปเช็คและตามเอกสารในรูปที่ลงไว้คดีหมดอายุความไปแล้ว และหมายจับก็ยกเลิกไปแล้วเช่นกัน และที่สำคัญน้องคนนี้คือพยานที่สำคัญในคดี “มาเก๋า888” เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้คืออะไรใช่การข่มขู่หรือไม่ ตำรวจควรทำอะไรให้คนที่ต่อสู้กลัวจริงๆเหรอ และพฤติกรรมของคนในมาเก๋า888 เป็นเหมือนในแชตที่ลงไว้ยิ่งเป็นแบบนี้ใครจะกล้าออกมาพูดต่อครับ ถ้าท่านไม่มีคำอธิบายที่ดีวันจันทร์ผมจะพาน้องคนนี้ไปหาตำรวจเองที่ สน.ทองหล่อ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_IC5c5NA6yI