โจ๋แต่งตัวคล้ายเด็กช่างต่อย นร.ม.ต้น กระดูกตาหัก-โหนกแก้มแตก อ้างแค่หมั่นไส้ ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน

วานนี้ (วันที่ 23 ม.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pongsapas Katakulvisit ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์และข้อความว่า “คนทำผิดต้องรับโทษ กระดูกใต้ตาหัก กระดูกโหนกแก้มแตก หมอศัลยกรรมยืนยันว่าต้องผ่าหรือไม่ หมอนิติเวชยืนยัน อาวุธที่ใช้ และเป็นภาพนิ่ง เด็กนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ถูกทำร้ายร่างกาย ที่ใบหน้าจนบาดเจ็บ”

นอกจากนี้ ทางผู้โพสต์ ยังมีการปล่อยภาพวงจรปิด ชาย 2 คนที่ทำร้ายเด็กนักเรียนดังกล่าว จำนวน 2 คน ที่เดินลงจากรถเมล์ และกลุ่มวัยรุ่นที่แต่งกายคล้ายเด็กอาชีวะ เดินตามไปก่อเหตุชกต่อยและทำร้ายเด็กทั้ง 2 คน

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปในจุดเกิดเหตุ ปากซอยสมเด็จเจ้าพระยา 9 แขวงปากคลองสาน เขตปากคลองสาน กรุงเทพมหานคร ซึ่งในจุดเกิดเหตุ เป็นป้ายรถประจำทาง อยู่ด้านหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์

สอบถามนายธีรภัทร อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านซ่อมจยย. เล่าว่า พอดีวันนั้นตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เหตุเกิดช่วง 17.15 น. ในภาพวงจรปิดที่ร้านเราก็เห็นแต่ตอนรถเมล์จอดแล้วก็เด็กๆลงจากรถ ซึ่งจากภาพผู้ก่อเหตุเดินตามหลังเด็กที่ถูกทำร้ายมา 2 คนแล้วก็หลุดออกหน้าจอไป ประมาณสัก 10 นาทีเด็ก 2 คนนี้ก็เดินถอยหลังกลับมา คาดว่าก็คงจะทำร้ายร่างกายกันแล้ว

แต่ว่าตอนก่อเหตุนั้นเราไม่เห็น เพราะว่าขณะนั้นไปรับลูกกับภรรยา แต่ดูจากกล้องเวลาที่เกิดเหตุจริงๆ ประมาณ 17.17 เพราะว่าตนปิดร้าน 17.00 น.แล้วก็ไปรับลูก อีกอย่างน้องที่ถูกทำร้ายก็ไม่ใช่เด็กเกเรหรือก้าวร้าว เป็นเด็กเรียน ม.ต้น ประมาณ ม.3 ส่วนเด็ก 2 คนนั้นน่าจะเป็นเด็กช่างหรือไม่นั้นก็ไม่แน่ใจ เพราะว่าการแต่งกายเขาไม่ได้ระบุ

ด้านเจ้าของโพสต์ นายพงศพัศ อายุ 43 ปี พ่อของน้องผู้เสียหายที่ถูกต่อย เล่าว่า วันที่เกิดเหตุได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวว่า พี่ชายถูกทำร้าย โดยระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อโดยตลอด ว่าตอนนี้ทางตำรวจได้ให้เด็กชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสิน ก่อนที่จะถูกส่งตัวย้ายไปที่โรงพยาบาลกลาง

โดยทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าตอนนี้กำลังเอ็กซเรย์สมอง อาการบาดเจ็บเบื้องต้นกระดูกใต้ตาหัก กระดูกโหนกแก้มแตกข้อมือมีอาการปวดบวมฟกช้ำ โดยหลังจากเกิดเหตุตนเองก็ได้ไปติดต่อร้านจักรยานยนต์เพื่อขอภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมซึ่งก็ได้ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบผู้ต้องสงสัยลงรถเมล์ตามน้องมาก่อนจะเข้าทำร้ายน้อง ก่อนจะเดินหลบหนีไป

ทางด้านความรู้สึกวิถีชีวิตของลูกผู้ชายเรื่องชกต่อยมันเป็นเรื่องปกติ แต่ลูกเราที่เป็นเด็กเรียน อีกอย่าง ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่ายมรีเรื่องกันมาก่อน เราจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก

ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนก่อเหตุได้หนึ่งคน จากการสอบถามที่ทำไปเพราะด้วยความหมั่นไส้เพียงเท่านั้น ในส่วนผู้ก่อเหตุอีกคนก็อยากจะฝากว่าให้เข้ามามอบตัวกล้าทำก็กล้ารับออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นคุณถ้าโดนรังแกแบบนี้คุณจะยอมไหม

ทางด้านเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บุปผาราม กำลังติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_2hA3aW__iE