อาชญากรรม

จับสองผัวเมียเปิดเพจลักลอบค้าซากเสือไฟ ส่งขายสายมู อ้างเชื่อทำให้ค้าขายรุ่งเรือง ป้องกันภูตผีปีศาจ

โดย kanyapak_w

21 ม.ค. 2566

183 views

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับสองสามีภรรยาแอดมินเพจ ลักลอบค้าซากเสือไฟ ส่งขายสายมู



กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันจับกุม 1. น.ส.พัชราพาณ์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 187/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค.2566



2.นายสิทธิพร  อายุ30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 191/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค.2566 เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักย่านจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2566 เวลาประมาณ 06.30 น. พร้อมด้วยของกลางซากเสือไฟ เช่น ชิ้นส่วนบริเวณหน้าผาก จำนวน 2 ชิ้น, ชิ้นส่วนหาง จำนวน 1 ชิ้น, บริเวณชิ้นส่วนหนัง หลายขนาดจำนวน 19 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังบรรจุในตะกรุด จำนวน 6 ดอก, น้ำมันเสือไฟจำนวน 16 ขวด




พฤติการณ์ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ให้ข้าราชการตำรวจ บก.ปทส.ดำเนินการสืบสวนปราบปรามการกระทำความความผิดเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์ ผบก.ปทส.จึงมอบหมายให้ผกก.1 บก.ปทส. ดำเนินการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 โดยเฉพาะการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์




ต่อมาชุดสืบสวน กก.1 บก.ปทส. พบว่ามีเพจเฟซบุ๊กค้าซากเสือไฟ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกจัดเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของโลกตั้งแต่ปี 2551 และ เป็นสัตว์ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 ของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งเสือไฟประสบปัญหาถูกล่าเพื่อเอาหนังและกระดูกมาขาย โดยเนื้อหาในเพจเฟซบุ๊กมีการประกาศขายซากส่วนหน้าผากเสือไฟ, หนังเสือไฟ, หางเสือไฟ เครื่องรางและน้ำมันเสือไฟ ให้กับผู้ที่นิยมและผู้ที่นำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อเกี่ยวกับมหาอำนาจ บารมี เมตตามหาเสน่ห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ส่งสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบ พบว่าซากสัตว์ดังกล่าวที่ประกาศขายเป็นหนังเสือไฟสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงได้ขออนุมัติหมายจับแอดมินเพจทั้ง 2 ราย คือ




น.ส.พัชราพาณ์ฯและ นายสิทธิพรฯซึ่งเป็นสามีภรรยา และได้ขอหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของแอดมินเพจ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2565 ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปทส. นำหมายค้น และหมายจับ เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 บริเวณบ้านพัก ตรวจยึดซากเสือไฟ เช่น ชิ้นส่วนบริเวณหน้าผาก จำนวน 2 ชิ้น, ชิ้นส่วนหาง จำนวน 1 ชิ้น, บริเวณชิ้นส่วนหนัง หลายขนาดจำนวน 19 ชิ้น, ชิ้นส่วนหนังบรรจุในตะกรุด จำนวน 6 ดอก, น้ำมันเสือไฟ จำนวน 16 ขวด นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส.ดำเนินคดี ส่วนของกลางที่ตรวจพบเพิ่มเติมนำส่ง สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อตรวจสอบต่อไป




สอบถามคำให้การผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้ขายหนังเสือไฟ และน้ำมันเสือไฟให้กับ ผู้นิยม และผู้ที่จะนำไปนำไปใช้เป็นเครื่องรางตามความเชื่อที่ว่า สามารถช่วยเรื่องค้าขายเจริญรุ่งเรือง ป้องกันภูตผีปีศาจ และมหาเสน่ห์โดยผู้ต้องหารับซื้อซากเสือไฟเป็นตัวๆ จากผู้ขายให้อีกทอดหนึ่งในลักษณะพ่อค้าคนกลาง และนำมาตัดแบ่งขายชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจะตัดแบ่งขาย อาทิเช่น หน้าผากเสือไฟ ราคา 2,600 – 2,800 บาท, หนังเสือไฟ ตามขนาด ราคา 200 – 1,000 บาท,หางเสือไฟ ตามขนาด ราคา 400บาท ตะกรุดปลุกเสก ราคา 300 บาท และน้ำมันเสือไฟ ราคาขวดละ 199 บาท





คุณอาจสนใจ

Related News