ทำแผนหนุ่มลวงโชเฟอร์หญิงฆ่าชิงรถ รับเตรียมการมาก่อเหตุ แถมเนียนเป็นคนดี ช่วยลูกผู้ตายตามหาแม่

ตำรวจคุมตัว หนุ่มลวงฆ่า หญิงขับรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยอมรับ เตรียมการก่อเหตุมาก่อน หาเงินใช้หนี้ยาเสพติด  ด้านลูกสาวผู้ตายเผย ผู้ต้องหาทำทีเป็นคนดี หลังก่อเหตุ บอกจะช่วยตามหาแม่ ตีเนียนไม่รู้เห็นเหตุการณ์ แถมขู่จะฟ้องหากทำเสียหาย

ความคืบหน้ากรณี นายวีระณัฐภูมิ หรือ อู๋ ผู้ต้องหา ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางเกศยุคนธ์  หญิงขับรถโดยสาร ผ่านแอปพลิเคชัน แล้วนำศพไปทิ้งที่ป่ากก ในซอยวัดท่าเกวียน จ.นนทบุรี ก่อนนำรถของผู้ตาย ไปขายต่อ

วานนี้ ตำรวจสภ.บางบัวทอง นำโดย พันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง คุมตัว นายอู๋  มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ช่วงนำตัวออกจากห้องควบคุมตัว นายอู๋ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมด ก่อเหตุเพียงลำพัง และเตรียมการก่อเหตุมาก่อน โดยหวังทรัพย์สินของผู้ตาย เพราะต้องการนำเงินไปจ่ายหนี้ค่ายาเสพติด ไม่ได้นำเงินไปให้แฟนตามที่เป็นกระแสข่าว ยอมรับ ขณะก่อเหตุ อยู่ในอาการเมายาเสพติด

ส่วนสาเหตุที่นำศพมาอำพราง ริมถนนข้างทางในซอยวัดท่าเกวียน ก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน แต่เป็นคนพื้นที่นี้ และเคยขับรถผ่านเห็นว่าเปลี่ยว เหมาะแก่การทิ้งอำพรางศพ

ระหว่างคุมตัวออกมานั้น พบว่า มีชายคนหนึ่งตะโกนออกมาระหว่างคุมตัวนายอู๋ ว่า “ไอ้อู๋มึงเอารถกูไปไว้ไหน” ตำรวจต้องรีบนำตัวขึ้นรถในทันทีเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย

จากข้อมูลพบว่า ชายที่ตะโกนถาม นายอู๋ คือ นายกฤษดากร  หรือนายวิทย์ ซึ่งเป็นอดีตพ่อตานายอู๋ เผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 รถกระบะคันของตนถูกคนร้ายขโมยไป ขณะจอดอยู่ภายในหมู่บ้านสินธร ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต  และได้ไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของนิติ จึงพบว่าคนร้ายคือนายอู๋ อดีตลูกเขยที่เพิ่งเลิกรากับลูกสาวตนไปไม่นาน

โดยคาดว่านายอู๋ ใช้กุญแจสำรองขับรถของตนหลบหนีไป จนมาทราบข่าวว่า นายอู๋ก่อคดีฆ่าคนตาย จึงต้องการมาถามนายอู๋ ว่าขโมยรถตนไปไว้ที่ไหน เพราะทุกวันนี้ยังต้องผ่อนรถคันนี้กับไฟแนนท์

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนายอู๋ กับลูกสาวตน คบหากันได้ประมาณ 4 เดือน โดยรู้จักกันผ่านแอปหาคู่ ซึ่งเมื่อเห็นว่ามาอยู่ด้วยกันก็คิดว่าเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ตนจึงให้กุญแจสำรองรถกระบะให้เอารถไปใช้ในเวลาจำเป็น จากนั้นจู่ๆ นายอู๋ ก็มาขอเลิกกับลูกสาวตน ตนจึงทวงรถกระบะพร้อมกุญแจสำรองคืน นายอู๋ จึงขับรถมาคืน แต่ไม่มีกุญแจสำรอง จนกระทั่งรถถูกขโมยไป ทั้งนี้ ไม่คิดว่านายอู๋ จะเป็นคนใจคออำมหิต โชคดีที่ไม่มาก่อเหตุทำร้ายลูกสาวตน

ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ นุชแจ้งบง น้องสาวนายวิทย์ เผยว่า หลังจากนายอู๋ขโมยรถไป ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากคลองรังสิต แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งถ้าในตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเร่งติดตามตัวนายอู๋ มาได้หลังเกิดเหตุ ก็คงจะไม่เกิดเหตุร้ายกับผู้เสียชีวิตรายนี้อย่างแน่นอน

น.ส.ธิดารัตน์ ได้ให้ข้อมูลอีกว่า นายอู๋และแฟนสาวมีพฤติกรรมสมรู้ร่วมคิดกันมาตั้งแต่การขโมยรถของพี่ชายตนเองไปแล้ว เพราะมีหลักฐานนายอู๋มีการส่งข้อความไปหา นางสาวปนัดดาบอกว่า เดี๋ยวโอนเงินให้ 50,000 บาท แล้วเอาไปจ่ายค่าห้องให้แม่ด้วย จากนั้นนางสาวปนัดดา แฟนสาวผู้ก่อเหตุได้แคปภาพแล้วโพสต์ในสตอรี่ว่า เงินแฟนเท่ากับเงินฉันจ๊ะ นอกจากนี้ก็ยังโพสต์รูปภาพบนสตอรี่อีก 1 รูป ซึ่งเป็นยอดเงินที่โอนเข้ามาจำนวน 50,000 บาท และโพสต์โชว์เงินอวดชาวโซเชียล

นอกจากนี้ น.ส.ธิดารัตน์ ยังระบุว่าสิ่งที่นางสาวปนัดดา ให้การกับตำรวจว่าไม่รู้เรื่อง ตัวเองถูกหลอกนั้นไม่น่าจะเป็นความจริงเพราะทั้งคู่มีพฤติกรรมแบบนี้มาแล้ว ซึ่งครั้งล่าสุดที่ไปก่อเหตุฆ่าชิงรถ นายอู๋ก็โอนเงินให้นางสาวปนัดดาอีก แล้วก็โพสต์ลักษณะเดียวกันด้วย

จากนั้น ตำรวจคุมตัวรวจคุมนายอู๋ ไปทำแผน 3 จุดหลักๆ  

จุดแรก บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นจุดที่จอดรถ แล้วก่อเหตุ ใช้เชือกจำนวน 2 เส้นที่เตรียมมารัดมือผู้ตาย และรีดไถ่เงิน แต่ผู้ตายไม่มีเงินให้ จึงตัดสินใจนำเชือกอีกเส้นรัดคอ จนเสียชีวิต แล้วนำร่างผู้ตายไว้เบาะหลัง    

จุดที่ 2 จุดทิ้งศพ ภายในซอยวัดท่าเกวียน ตำบลคลองข่อย นายอู๋  นำร่างผู้ตาย มาทิ้งอำพราง โดยจอดรถริมถนน แล้วเปิดประตูหลัง อุ้มศพลงจากรถ เข้าไปในป่า แต่อุ้มไม่ไหว จึงวางลงที่พื้น แล้วจับขาผู้ตายสองข้าง ลากไปกับพื้น เข้าไปในป่ากก แล้วก็เดินออกมาอย่างใจเย็นแล้วขับรถออกจากจุดนี้

จุดที่ 3 เป็นร้านขายของชำ ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 500 เมตร ซึ่งทีมข่าวเราได้ภาพกล้องวงจรปิดจากร้านนี้ จุดนี้ นายอู๋ หลังก่อเหตุ ขับรถผู้ตายออกมาแบบไร้พิรุธ ลงมาซื้อน้ำอัดลมดื่ม และบุหรี่ 1 ซอง ก่อนจะขับรถออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมก่อเหตุเสร็จเราไม่กลัวหรือตกใจ กับสิ่งที่ก่อเหตุลงไป นายอู๋บอกว่า  ไม่ได้รู้สึกอะไรและมาซื้อน้ำก็เพราะหิวน้ำ และพยายามตั้งสติเท่านั้น

ในส่วนของคดี พันตำรวจเอกพฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับ สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า จากการสอบปากคำ ทำแผน และหลักฐานกล้องวงจรปิด ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุสอดคล้องกัน ซึ่งจะนำตัวฝากขังที่ศาลนนทบุรี วันนี้ (18 ม.ค.66 )

ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหานายอู๋ คือ ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วน นางสาวปนัดดา แฟนสาว รวมถึง คนรับซื้อรถอีก 3 ราย ถูกดำเนินคดี ข้อหา รับของโจร และจากนี้ ตำรวจจะขยายผลการจับกุมทั้งประเด็นยาเสพติดที่นายอู๋ให้การ และยังพบว่า นายอู๋และแฟนสาวไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่พบเส้นทางการเงินเมื่อปลายปีมีเงินเข้าบัญชี 8 หมื่นบาท ซึ่งไม่ทราบที่มา และอาจเป็นไปได้ว่า นายอู๋อาจจะเคยก่อคดีอื่นมาก่อน แต่ในประวัติไม่พบ

ทางด้านครอบครัวผู้เสียชีวิต วานนี้ก็ได้ติดต่อรับศพ ที่สถาบันนิติเวชรพ.ธรรมศาสตร์ โดยมีสามี ลูกสาว และญาติๆ มารอรับศพ

ทีมข่าวได้สอบถาม นางสาวบัว อายุ 21 ปี ลูกสาวของผู้ตาย ระบุว่า หลังจากที่ฟังการแถลงข่าวเมื่อวานแล้ว อยากบอกพี่ๆ นักข่าวว่า ตอนเกิดเหตุที่แม่หายตัวไป ครอบครัวเรา ทั้งตัวหนู พ่อ และเพื่อนๆ คุณแม่ ได้คุยโทรศัพท์กับนายอู๋ ผู้ต้องหา ว่าแม่ได้ส่งแฟนสาว นายอู๋ หรือยัง เพราะติดต่อแม่ไม่ได้ นายอู๋ ก็ตอบด้วยน้ำเสียงปกติว่า ส่งแฟนเรียบร้อยแล้ว และไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร ทั้งที่ตอนนั้นเขาฆ่าแม่แล้ว และยังบอกว่าจะช่วยตามหาแม่ให้ทุกวิถีทาง

นอกจากตนแล้ว นายอู๋ ยังคุยโทรศัพท์กับพ่อ บอกว่า “พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมจะช่วยตามหาแฟนพี่ให้”

จากนั้นวันที่ 15 มกราคม 66 ช่วงเช้า ครอบครัวก็ติดต่อนายอู๋อีกครั้ง และโทรบ่อยขึ้น ทั้งญาติ และเพื่อนแม่ด้วย ทุกคนไม่คิดว่านายอู๋จะเป็นคนก่อเหตุ ที่โทรหาเพื่อจะได้ข้อมูลตามหาหลังเกิดเหตุ แต่ปรากฎว่า นายอู๋ เริ่มเกิดความรำคาญ แล้วบอกว่า “จะอะไรกับผมอีก” พร้อมทั้งข่มขู่ว่าจะไปแจ้งความ แล้วจะพาตำรวจไปจับหากทำให้เสื่อมเสีย

ช่วงนั้นทุกคนในครอบครัวที่ติดต่อนาย อู๋ เริ่มสงสัยเพราะนายอู๋ บอกเวลาที่แม่ไปส่งแฟนสาวกับแต่ละคน ไม่ตรงกัน แต่ก็ไม่คิดว่า จะเป็นคนฆ่า

พอมารู้ว่าคนที่ฆ่าแม่คือนายอู๋ ก็เสียความรู้สึกมาก อยากบอกผู้ก่อเหตุว่า “เหตุใดถึงไม่มีจิตสำนึก เหมือนเขาไม่ใช่คน” จากนี้ ขอให้ผู้ต้องหารับกรรมตามกฏหมาย ไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีก และไม่ติดใจเรื่องคดีความ

และอยากบอกแม่ว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ตนเองจะช่วยดูแล คุณพ่อ และครอบครัวของเราจะช่วยดูแลกันและกัน แม่ไม่ต้องเป็นห่วง


นอกจากนี้ลูกสาวผู้เสียชีวิตยังบอกว่า หลังเกิดเหตุของคุณแม่ มีผู้เสียหายที่ถูกขโมยรถไปก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว เมื่อช่วงวันที่ 20 ธ.ค. 65 ได้ส่งข้อความมาหาตนเอง พร้อมทั้งบอกว่านายอู๋ เคยขโมยรถ โดยช่วงที่ติดต่อกับนายอู๋ก็ขโมยกุญแจรถ แล้วขับรถออกไปเลย และไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งไม่แน่ใจว่า นายอู๋ นำรถไปขายแบบกรณีของแม่หรือไม่

หลังจากนั้นครอบครัวก็รับศพ โดยลูกสาวเป็นคนถือรูปคุณแม่ นำร่างไปประกอบพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรม ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน  บรรยากาศในงานศพ เป็นไปด้วยความเศร้าเสียใจ เพราะผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เพื่อนๆ ญาติพี่น้องรัก

ช่วงที่รดน้ำศพ ก็พบว่า สามีของผู้ตายก็ยืนไว้อาลัยและพูดกับภรรยา ก่อนจะเดินไปลูบรูปถ่าย ซึ่งสามีผู้ตายให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า รักภรรยามากและยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

สำหรับงานศพจะสวดอภิธรรมถึงวันที่ 21 มกราคม และ ฌาปนกิจวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/zjn5wbVQ-hY