สามี"ซาร่า"ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาคดี Forex-3D ดีเอสไอจ่อยกระดับดำเนินคดี

จากกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาจำนวน 16 ราย (กลุ่มเดียวกับดีเจแมนและใบเตย) เพื่อสอบปากคำและส่งเอกสารชี้แจง ซึ่งทั้งหมดได้ถูกแจ้ง 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน


อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 16 ราย มีชาวต่างชาติ 2 รายได้ ได้แก่ นายแดริล ชาวสิงคโปร์ และนายอดัม ชาวฮังการี ซึ่งได้หนีออกจากราชอาณาจักรไทยตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน จนเป็นเหตุให้กรมสอบสวนคดีพิเศษขอศาลมีคำสั่งออกหมายจับ


ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้มีรายงานว่า พบว่ามีรายการพูดคุยรายการหนึ่ง ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา ทางช่องโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดยมีพิธีกรดำเนินรายการเป็นชายและหญิง ขณะที่แขกรับเชิญ คือ ซาร่า คาซิงกินี แฟนสาวของนายแดริล (ผู้ต้องหารายสำคัญของดีเอสไอ ในคดีแชร์ Forex-3D)


ระหว่างในรายการ ซาร่า ได้เปิดเผยถึงเรื่องคดีความของแฟนหนุ่ม สรุปใจความได้ว่า นายแดริล ได้ขอเธอแต่งงานที่ประเทศสิงคโปร์ และทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกันแล้ว เหลือเพียงการจัดงานแต่งงานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ในประเทศไทย


ซึ่งการกลับเข้ามาภายในประเทศไทยครั้งนี้ของแฟนหนุ่มก็เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ พิสูจน์ความจริงให้เธอ ครอบครัวและสังคมได้รับรู้ อีกทั้งแฟนหนุ่มยังบอกกับเธอด้วยว่า การกลับมาต่อสู้คดีเป็นการเดิมพันทั้งชีวิต เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น


หลังจากกลับมาในประเทศไทย แฟนหนุ่มก็ได้ดำเนินการเกี่ยวกับขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การกลับมาครั้งนี้แฟนหนุ่มยังไม่ถูกจับกุม และตนก็เชื่อในตัวเขา ขณะนี้แฟนหนุ่มอยู่ระหว่างการเคลียร์ตัวเอง และพร้อมสู้คดี


ขณะที่ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ให้ข้อมูลว่า ได้รับการประสานว่านายแดริล เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ซึ่งมีการนัดหมายกันในเวลา 10.00 น. วันนี้ แต่ล่าสุดพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อติดต่อไปทางทนายความ ทราบว่ายังไม่พร้อมเรื่องการประกันตัว ซึ่งขณะนี้ได้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณายกระดับดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี


นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการติดต่อไปทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เพื่อสอบถามถึงกรณีที่มีภาพปรากฏว่านายแดริล ไปร่วมอยู่ในสตูดิโอรายการ


อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 12.10 น. ทางผู้ผลิตรายการได้เดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและเปิดเผยกับดีเอสไอว่า ไม่ทราบว่านายแดริล ยังมีหมายจับ


ทั้งนี้ ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา นายแดริล ได้ปิดโทรศัพท์และยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ทั้งมีรายงานต่อว่า สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยของนายแดริล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 65 นั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่สามารถจับกุมตัวนายแดริล ไว้ได้ เนื่องจากชื่อของนายแดริล ไม่ถูกบันทึกเข้าระบบ


ซึ่งก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้มีการส่งหมายจับไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร ให้ประกาศสืบจับกุมให้ แต่พบว่าไม่มีการนำเข้าสู่ระบบสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงเป็นสาเหตุให้การเดินทางเข้าประเทศไทยของนายแดริลครั้งนี้ เป็นไปอย่างง่ายดาย


นอกเหนือจากนี้ ทางดีเอสไอจะต้องรีบเร่งติดตามไปควบคุมตัวนายแดริล มาที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เพื่อสอบสวน


สำหรับตัว นายแดริล ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 65 และได้กลับเข้าไทยอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคม 65 ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเป็นการเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยพาสปอร์ตสิงคโปร์ โดยวีซ่า 90 วัน (3 เดือน) เพื่อขอทำธุรกิจในไทย


ส่วนระยะสิ้นสุดของวีซ่าดังกล่าวจะอยู่ที่เดือนพฤษภาคม ซึ่งในส่วนของหมายจับของนายแดริล ได้มีการบันทึกเข้าสู่ระบบสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเมื่อช่วงต้นปี 2566 ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากนายแดริล ได้อยู่ในประเทศไทยไปแล้ว