ล่าได้เกือบครบ ขบวนการหลอกเด็ก 15 ลงทุน ขยายผลจับคนกดเงิน ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอีก 1 ราย

ความคืบหน้ากรณีตำรวจไซเบอร์ออกหมายจับบรรดาบัญชีม้า ที่อยู่ในขบวนการหลอกเยาวชน 15 ให้ทำงานออนไลน์ แล้วหลอกเงินกว่า 14,000 บาท จนสุดท้ายผู้เสียหายต้องจบชีวิตตัวเอง ล่าสุด ตำรวจจับได้แล้ว 9 คน 1 ในนั้น คือ เจ้าของบัญชีอินสตราแกรม ที่โฆษณาหาคนทำงานออนไลน์

เมื่อวานนี้ (12 ม.ค. 66) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เชิญตัวนายรัชชานนท์ สายจินดา อายุ 38 ปี นายชัยวัฒน์ วิระษร อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มาทำการสอบปากคำ

หลังทั้งสองรายนั้น มีความเชื่อมโยงของเส้นเงินของกลุ่มคนร้าย ออกอุบายชักชวนให้เยาวชนอายุ 15 ปี ดูโฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ ก่อนที่หลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จนเหยื่อหลงเชื่อฉกเงินแม่โอนไปให้ต่อเนื่องรวม 14,000 บาท

ภายหลังเด็กคนดังกล่าวรู้ตัวว่าจะถูกหลอก จึงของทวงเงินคืน แต่คนร้ายก็ไม่ยอมโอนเงินให้ จึงก่อเหตุสลดขึ้น โดยทันทีทั้งสองพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางตำรวจได้แสดงหมายจับพร้อมกับคุมตัวทั้งสองไปสอบปากคำที่บก.สอท.2  

ทั้งนี้ มีรายงานว่าทั้ง 2 คนเป็นระดับผู้ร่วมขบวนการที่สูงกว่าผู้ถือบัญชีม้า เนื่องจากพบเส้นทางการเงินโอนไปถึงผู้ต้องหากลุ่มนี้ และทำหน้าที่เป็นพ่อค้าเงินคริปโตโดยกดเงินจากบัญชีม้าไปแลกเปลี่ยนกับคริปโตเคอร์เรนซี

ภายหลังสอบปากคำทางพล.ต.ต.วิวัฒน์ เผยว่า จากแนวทางการสืบสวนขณะนี้ตำรวจสามารถแกะรอยขบวนการดังกล่าวได้ทั้งหมด โดยได้ออกหมายจับไปแล้ว 9 ราย ซึ่งเป็นบัญชีม้าที่รับโอนเงินและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ติดตามจับกุมได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายเมื่อได้เงินมาก็นำเงินไปเทรดในสกุลเงินดิจิตอล ซึ่งทางตำรวจได้แกะรอยจนพบความเชื่อมโยงของเงินไปที่ทั้งสองราย ซึ่งเป็นพ่อค้ารับแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอล โดยทั้งสองได้แสดงตัวขอให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่เนื่องจากทั้งสองมีหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองให้การรับว่ามีเงินเข้ามาผ่านบัญชีจริงแต่ในรายละเอียดนั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำและขยายผล ทั้งนี้ขบวนการดังกล่าวได้ออกอุบายจากเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้เงินจากเหยื่อก็จะนำเงินที่ได้ไปแปลงเป็นเงินสกุลดิจิตอลเพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ซึ่งในกรณีนี้อยู่ระหว่างการขยายผลพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย

นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ยังจับกุมเจ้าของบัญชีอินสตราแกรม ที่โพสต์ชักชวนทำงานหารายได้เสริม ได้อีก 1 คน เป็นผู้ชายอายุ 23 ปี ถูกจับได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบัญชีอินสตราแกรมของผู้ต้องหารายนี้มีผู้ติดตามกว่า 1 แสน 2 หมื่นคน ถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่สามารถซักทอดเชื่อมโยงทั้งขบวนการได้ เบื้องต้นอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างให้โพสต์ชักชวนเหยื่อ

นอกจากนี้อยู่ระหว่างการขยายผล ติดตามจับกุมคนกดเงินที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน 1 ราย และกำลังจะจับได้แล้ว

อย่างไรก็ตามในวันนี้ (13 ม.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จะแถลงข่าวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลการจับกุมดังกล่าวต่อไป 

-----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/6XCMI8HApi4