วินจยย.ร้องสื่อคู่อริคว้ามีดแทงหวิดดับ ตร.จับได้แต่ปล่อยไป เสียค่าปรับ 100 บาท หวั่นมีผู้ใหญ่ช่วยไม่ได้รับความเป็นธรรม

หนุ่มวิน จยย. ย่านประทุมวันร้องสื่อ ขอความช่วยเหลือเมื่อตนเองถูกคู่อริใช้มีดปลายแหลมดัดแปลงฟันเข้าที่หัวหวิดตาย แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมในเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่จับตัวคู่กรณีได้แล้ว แต่กลับปล่อยไปแบบหน้าตาเฉย แถมแค่สั่งปรับเงินแค่ 1 ร้อยบาท แต่เมื่อรู้ความจริงเพราะแอบได้ยินคู่กรณีโทรศัพท์หาพรรคพวกที่เป็นตำรวจอยู่ สน. แห่งหนึ่งเข้าช่วยเหลือ แถมตอนกลับบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ยังเอารถกระบะของราชการไปส่งถึงบ้านอย่างดีอีกด้วย ก็เลยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม



เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00 น. ณ . เวลาดังกล่าวหน้าวินรถจัรยานยนต์รับจ้างปากซอย จุฬา 12 ตัดซอยย่อยซอยที่ 5 ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้เสียหายชื่อนายชัชวาล อายุ 37 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 2 ซึ่งตนเองเป็นวินรถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ถูกนายกฤษกร ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เบอร์ 7 วินปากซอยเดียวกัน (แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย) ใช้มีดปลายแหลมลักษณะเป็นมีดดัดแปลงด้ามโค้ง ตรงบริเวณด้ามมือจับเป็นลักษณะคล้ายสนับมือพันด้วยเชือกสีแดง มีความแหลมคม ฟันเข้าที่กลางหัวจนเป็นบาดแผลเปิดร่องลึก และบริเวณใบหน้า จนถึงลำคอก็มีรอยขีดข่วนเต็มไปหมดแล้วเห็นได้อย่างชัดเจน อาสาสมัครนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน เมื่อถึงมือหมอแล้วได้ทำการช่วยเหลือเย็บบาดแผลไปถึงสองเข็ม ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ปทุมวัน จับได้ภายในที่เกิดเหตุพร้อมกับอาวุธที่ใช้ลงมือก่อเหตุ แล้วนำตัวส่งให้เจ้าพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ดังกล่าวทันที



จากการสอบถามนายชัชวาล ผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่มีผู้โดยสารใช้บริการที่หน้าวินรถจักรยานยนต์บริเวณหน้าปากซอยจุฬา 12 ตัดซอยย่อยที่ 5 ตอนนั้นเป็นคิวของตนเองที่ต้องออกรถเพื่อให้บริการกับลูกค้า แต่แล้วคู่กรณีก็ขี่รถจักรยานยนต์มาตัดหน้าตน เพื่อแย่งผู้โดยสารตนจึงปล่อยให้ไปส่งผู้โดยสารก่อนพอคู่กรณีไปส่งถึงที่แล้วกลับมาที่วิน ตนก็เลยเดินไปถามว่าทำแบบนี้ทำไมตอนนั้นเป็นคิวของตนเอง ส่วนคู่กรณีกลับพูดว่า ก็จงใจที่จะตัดหน้าเพราะอยากมีเรื่อง พอจบคำพูดเขาก็เดินไปที่รถของเขาแล้วเอามีดออกมาจากใต้เบาะรถแล้วก็ฟันตนเลย แล้วก็ชุลมุนกันอยู่สักพักเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจก็มาพอดีแล้วเข้าระงับเหตุ

พอไปถึงที่ สน. เขาก็พยายามโทรหาผู้ใหญ่หลายคนให้มาช่วยเขาจนสุดท้ายโทรหา เจ้ คนหนึ่งขอความช่วยเหลือแล้ว เจ้ คนนี้ก็รู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. แห่งหนึ่ง เขาก็เลยประสานกันจนผู้ก่อเหตุได้เสียค่าปรับเป็นเงิน 100 บาท แล้วปล่อยตัวออกมา ตนก็เลย งง ว่าเหตุการณ์กรณีแบบนี้ทำไมถึงปล่อยตัวออกมาแบบง่ายๆ แล้วยังมีการนำรถกระบะของทางราชการไปส่งคู่กรณีถึงบ้านอย่างดี ก็เลยคิดว่ามันไม่ถูกต้องจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ของตนไปตัดหน้ารถตำรวจคันดังกล่าวเพื่อถามหาเหตุผล



แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ แล้วก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นจนตนเองต้องขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พักพร้อมด้วยคำถามในใจอีกมากมาย แล้วถึงกระทั่งตอนนี้ตนเองก็ยังคิดว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมก็เลยนำเอกสารใบลงบันทึกประจำวันพร้อมด้วยคลิปภาพเหตุการณ์บางส่วนที่ตนเองสามารถจะถ่ายได้นำมาให้ผู้สื่อข่าวเพื่ออยากจะให้เป็นกระบอกเสียงถามหาความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด