เปิดคลิปลุงวัย 70 เกาะประตูรถ ก่อนโดนลากไปไกลกว่า 5 เมตร ด้านคู่กรณีอ้างไม่ได้หนี รีบไปเยี่ยมคนป่วย

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Joy Joylalita โพสต์คลิปกล้องหน้ารถยนต์บันทึกภาพเหตุการณ์ เก๋งสีบรอนซ์ทอง ขับลากลุงวัย 70 ปี ที่ใช้มือจับประตูจนเสียหลักกลิ้งล้มลงไปนอนกลางถนน พร้อมระบุข้อความว่า

“ฝากตามหาคนขับคะ คือมันขับรถมาชนท้าย รถพ่อจอย ซึ่งไม่ได้หนักเลยแค่กันชนบุบ พ่อก็ลงไปคุยแล้วระหว่างที่พ่อกำลังโทรคุยกับประกัน มันก็ทำท่าเหมือนจะหนี พ่อเลยจับประตูมันไว้ ประเด็นคือ มันรีบขับออกตัวไปเลยจ้า ด้วยความที่พ่อตกใจมือก็ยังจับประตูรถมันอยู่เลย มันก็ขับเหวี่ยงพ่อกระเด็นไปเลยจ้าดีที่รถฝั่งตรงข้ามเห็นเลยหยุด

แต่ที่พีคสุดคือ แม่กับพ่อไปแจ้งความที่ สน. ตอนแรกตำรวจจะไม่รับเรื่อง สุดท้ายน้องชายไปถึงเลยคุยนี่มันทำร้ายร่างกายนะ เลยยอมรับแจ้ง และตำรวจก็บอกว่าอย่าลงคลิปนะเดี๋ยวตำรวจจะตามหาเอง ตอนนี้ป้าไปทำแผล ตรวจร่างกายที่ รพ. แล้วปลอดภัยแล้วคะ”


โดยกล้องหน้ารถยนต์บันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 9 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 12.42 น. ขณะที่รถยนต์ผู้เสียหายจอดรอรถยนต์สีดำบริเวณด้านหน้ากำลังเลี้ยวขวาเข้าซอย ต่อมาจึงได้ยินเสียงชนจากด้านหลัง ก็พบว่าคนชนเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 40-50 ปี ใส่เสื้อยืดสีเขียว กางเกงขายาว ผ้าใบสีขาว เดินลงจากรถยนต์รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีบรอนซ์ทอง มายกมือไหว้ขอโทษกับทางด้านนายสมเกียรติ ผู้เสียหาย และมีการเจรจาพูดคุยกันที่รถยนต์ของผู้ก่อเหตุ

โดยผู้เสียหายอยู่ด้านนอกรถ ส่วนผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ด้านใน ผ่านไปไม่ได้นานทางผู้ก่อเหตุก็เร่งเครื่องขับรถหลบหนีขณะที่ผู้เสียหายเอามือจับประตูผู้ก่อเหตุบริเวณด้านคนขับเพื่อจะยื้อหรือรั้งไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนี ด้วยความเร็วของรถยนต์ทำให้ต้องวิ่งไปตามรถยนต์กว่า 4-5 เมตรก่อนจะเสียหลักกลิ้งล้มลงไปนอนกองกับพื้นถนนได้รับบาดเจ็บในเวลาต่อมา

ความคืบหน้าวานนี้ (วันที่ 12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังนายสมเกียรติ  อายุ 70 ปี อาชีพ อดีตครูพละปลดเกษียร และนางรติยา อายุ 67 ปี ผู้เสียหายสองสามีภรรยา นัดลุงติ๊ก อายุ 58 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว คู่กรณีเข้ามาพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งทางลุงติ๊กได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียให้ให้ แต่ทางผู้เสียหายไม่ตกลงด้วย เพราะจะดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง

นางรติยา กล่าวว่า จากการที่ได้พูดคุยกับทางคู่กรณีแล้ว ทางคู่กรณียินยอมจะชดใช้ค่าเสียหายต่างๆให้ และพร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาลและเยียวยา แต่ตนไม่รับเพราะค่าเสียหายต้องรอให้ทางประกันมาประเมินความเสียหายก่อนและจะต้องชดใช้ในส่วนนี้อยู่แล้ว ส่วนค่ารักษาพยาบาลและเงินเยียวยาครอบครัวตนไม่ต้องการ ไม่ยอมรับตรงจุดนั้น เพราะว่าเขาอ้างว่าไม่ได้มีเจตนา แต่พฤติกรรมของเขา ขนาดที่สามารถขับรถเหวี่ยงคนที่เกาะประตูรถอยู่จนล้มลงไปบนถนนและยังไม่จอดรถลงมาดูมาเกิดอะไรขึ้น คุณก็มีเจตนาทำร้านร่างกายแล้ว

ตนก็จะไม่ปล่อยให้คนประเภทนี้อยู่ในสังคมและทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะถ้าเขาเคลียร์กับเราได้แค่จ่ายเงินแล้วก็จบๆไป เขาก็จะไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เราจึงมาแจ้งความเพิ่มเติมในเรื่องของการทำร้ายร่างกายด้วย เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่จร.ดำเนินคดี

โดยทางเจ้าหน้าที่ตร.ตั้งข้อหาทั้งหมด 2 ข้อหาด้วยกันคือขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทำร้ายร่างกาย หลังจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล

ด้านนายติ๊ก อายุ 58 ปี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า วันเกิดเหตุตนจะไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยหนักที่โรงพยาบาลก็เลยต้องรีบออกรถไป แต่ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะมีการรับผิดชอบ เขาก็บอกว่าต้องรอประกันก่อน ตนก็มีมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถออกไป เพราะจะรีบไปเยี่ยมพี่ชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง ตอนขับรถออกมานั้นก็เห็นเขาเกาะอยู่ที่ประตูแต่สักพักเขาก็ปล่อยมือ ตนไม่เห็นว่าเขาล้มลงไปบนถนน

ต่อมาช่วงเย็นวันนั้นตนมาเห็นคนโพสต์คลิปก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการพูดคุยและขอโทษไปแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้ขับหนีเพราะประกันไม่มี แต่ต้องรีบไปเยี่ยมพี่ชายจริงๆ วันนี้ตนพร้อมชดใช้และจ่ายค่าเสียหายเยียวยาให้เขาทุกอย่าง แต่เขาไม่ได้เรียกร้องอะไร จะดำเนินคดีตามกฏหมาย เราก็ต้องยอม ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย ศาลจะสั่งฟ้องสั่งปรับอะไรยังไงตนก็ยอม และอยากขอโทษทางผู้เสียหายอีกครั้ง ตนไม่มีเจตนาขับรถหนี

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7CxwcwZ0W5g