อาชญากรรม

'เติ้ล' แก๊งเด็กช่างกลโหด เข้ามอบตัว ปัดบังคับอมนกเขา ย่าเผยหลานหัวอ่อน ผิดก็ว่าไปตามผิด

โดย thichaphat_d

16 พ.ย. 2565

769 views

เติ้ล 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาเด็กช่าง เข้ามอบตัวเดินก้มหน้ายอมรับ ก่อเหตุจริง ปฏิเสธบังคับอมนกเขาตำรวจ คุมตัวส่งศาลเยาวชน ขณะที่ ผู้ปกครองพา 3 นักเรียนช่างกล เหยื่อแก๊งวัยรุ่นรุมซ้อมทรมาน-บังคับอมนกเขา ให้ปากคำ จ่อแจ้งความเพิ่มปล่อยคลิปอนาจารในโซเชียลมีเดีย

ตำรวจพบอีกหลักฐานคลิปตบหน้า-เท้าถีบ-ใช้ไฟแช็คลนขนเพชรและอวัยวะเพศ ในมือถือหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุถ่ายไว้ประจาน พ่อนายอี ถาม “ทำไมต้องแจ้งความเป็นเรื่องใหญ่โต แทนที่จะคุยเคลียร์กันง่าย ๆ”


ความคืบหน้ากรณี 3 นักเรียนช่างกล ถูกแก๊งวัยรุ่นต่างสถาบัน 17 คน จับตัวไปกักขัง รุมซ้อมใช้สายไฟรัดคอ โดนแก้ผ้ามัดมือมัดเท้า บังคับต่อยกันเอง กินน้ำปัสสาวะ บังคับให้จูบปากแลกลิ้นกัน เอาไฟแช็ครนขนเพชรและอวัยเพศ เอาบุหรี่จี้มือและลิ้น ใช้ปืนจ่อหัวมีดจี้คอบังคับอมอวัยวะเพศเพื่อสำเร็จความใคร่


วานนี้ (15 พ.ย.) นายเติ้ล อายุ 17 ปี คนที่ผู้เสียหายระบุว่าบังคับให้อมนกเขาและเป็นนักแสดงซีรีส์ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก พร้อมคุณย่า ตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้นายเติ้ล ได้เดินทางมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ย. ตามหมายเรียก

นายเติ้ล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ยอมรับก่อเหตุจริง แต่สิ่งที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างนั้นเกินความจริง โดยเฉพาะเรื่องแชทที่นายโอ๊ต อ้างว่าตนส่งไปเพื่อล่อลวงนายซับ นั้นไม่เป็นความจริง นายโอ๊ต เป็นคนส่งเอง พร้อมปฏิเสธว่า ตนไม่ได้บังคับให้ผู้เสียหายอมอวัยวะเพศของตนแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเติ้ล จะชี้แจงในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ แต่นายเติ้ล ปฏิเสธที่จะตอบคำถามก่อนเดินเข้าห้องสอบสวนไป

กระทั่งเวลา 13.38 น. ตำรวจคุมตัวนายเติ้ล ไปส่งฟ้องศาลเยาวชนและครอบกลาง โดยมีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อสอบถามถึงการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย นายเติ้ลตอบสั้นๆ ว่า "ไม่ได้ทำ" ก่อนจะเดินขึ้นรถตำรวจออกไป ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเติ้ล เพิ่มเติมว่ามีอะไรอยากชี้แจงหรือไม่ทั้งเรื่องรุมทำร้ายร่างกายและบังคับนายซับเยาวชนอายุ 16 ปี อมนกเขา แต่นายเติ้ล ได้แต่เดินก้มหน้าไม่พูดอะไร

ขณะที่ย่าของนายเติ้ล อายุ 67 ปี เปิดเผยว่า ยินดีให้เติ้ลได้รับผลการกระทำของเขาไป ในเรื่องของทางคดีก็เป็นไปตามที่เติ้ลให้การกับทางตำรวจ ตนคงไม่รับรู้อะไรในส่วนตรงนี้ ส่วนตัวไม่รู้จักกับกลุ่มเพื่อนของเติ้ลที่อยู่ที่โรงเรียนหรือข้างนอก เคยเจอหน้าแค่เพื่อนคนสองคนแถวบ้านเติ้ลแค่นั้น

ส่วนเรื่องอาวุธปืนของเติ้ลที่ปรากฎในสื่อโซเชียล ตนไม่ทราบเพราะเติ้ลไม่มีปืน ส่วนประเด็นที่เคยเล่นซีรีส์ทางออนไลน์ ยอมรับว่าเคยเล่นแต่นานแล้วและไม่ทราบว่าได้ค่าตัวเท่าไหร่ เพราะเขาก็เอาเงินมาใช้ในการเรียน

สำหรับนิสัยส่วนตัวของเติ้ลนั้น เวลาย่าพูดอะไรเติ้ลจะครับตลอด หัวอ่อน เชื่อคนง่าย ด้วยความเป็นเด็ก จึงไม่ทันคน อาจจะเกเรบ้าง เพราะเคยมีคดีเก่าเรื่องลักทรัพย์ และอาจจะดื้อบ้างแต่เป็นเพราะตามเพื่อนตามฝูง จะบอกว่าเพื่อนหรือรุ่นพี่พาเสียคนไหมตนไม่แน่ใจ เพราะเวลาคุยโทรศัพท์กับรุ่นพี่ก็ครับพี่ๆ ตลอด ซึ่งตนเคยเตือนเติ้ลว่า พวกรุ่นพี่เหล่านี้หากสร้างปัญหาให้เราขึ้นมา คงเขาก็ช่วยอะไรเราไม่ได้

ย่ายังระบุอีกว่า “เคยสอนเติ้ลแล้วว่าอย่าทำอะไรไม่ดี มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ย่าก็ต้องดูแลหลานคนอื่นอีก 7 คน และเติ้ลเองไม่มีพ่อแม่ มีแต่ย่าที่เลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก ถ้าจะให้ประกันก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะย่าไม่มีเงิน เลยพยายามบอกให้เติ้ลยอมรับความจริง ทำใจและรับผลในสิ่งที่กระทำเอาไว้ ผิดก็ว่าไปตามผิด เพราะหลานไปกับพวกเขาเอง”

จากนั้นคุณย่าได้ทิ้งท้ายว่าตนได้เตือนเติ้ลมาโดยตลอด อยากบอกครอบครัวของเหยื่อทั้งสามคนว่าย่าเสียใจและขอโทษในสิ่งที่เติ้ลทำลงไป ทั้งที่เติ้ลก็เคยเป็นเพื่อนกับกลุ่มพวกนี้ แต่คุณย่าก็ไม่รู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามีมูลเหตุจากอะไรแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ยอมรับว่าเครียดมากกับคดีนี้ ซึ่งระหว่างการให้สัมภาษณ์ คุณย่าก็มีน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้

ทางคดี พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า หมายจับและหมายเรียกล็อตแรกที่มีผู้ใหญ่ 8 รายและเยาวชน 5 รายนั้น ตอนนี้มีเพียงผู้ใหญ่ 3 ราย ที่จับกุมได้ และนายเติ้ล เยาวชน 1 ราย ที่มาติดต่อมอบตัว จากการสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ นายเติ้ล ให้การรับสารภาพส่วนหนึ่งขณะที่รายละเอียดขอไม่เปิดเผยเนื่องจากอยู่ในสำนวนและเป็นเยาวชนด้วย

สำหรับการออกหมายจับผู้ใหญ่อีก 3 คน และหมายเรียกเยาวชน 1 คนนั้น ต้องสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการขอหมายต่อศาล ตอนนี้ทราบชื่อหมดแล้ว ส่วนเยาวชน 5 คนแรกที่ถูกออกหมายเรียก มีเพียงนายเติ้ล คนเดียวที่มอบตัว อีก 4 คน ยังไม่มีใครแสดงตัว ซึ่งต้องมารายงานตัวภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน มิเช่นนั้นจะขอศาลออกหมายจับต่อไป เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี

กรณีที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ร้องต่อรอง ผบ.ตร. ให้ทางตำรวจส่วนกลางมาคลี่คลายคดีแทนตำรวจ สน.หัวหมาก นั้น ผู้กำกับการฯ ระบุว่า ตอนนี้ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก และ บก.น.4 เร่งทำงานไล่ล่าตัวผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ ส่วนที่มีการร้องเรียนกับ ตร. นั้น ทาง สน.หัวหมาก ก็ยินดีที่จะให้ตำรวจส่วนกลางมาช่วยเนื่องจากคดีนี้มีผู้ต้องหามีจำนวนมาก

ประเด็นความจำเป็นในการเข้าค้นบ้านที่ก่อเหตุเพิ่มเติมนั้น ผู้กำกับการฯ ระบุว่า ต้องพิจารณาจากคำให้การเพิ่มเติมว่ามีความเชื่อมโยงหรือน้ำหนักที่จะขอหมายค้นเพิ่มหรือไม่ ส่วนการขยายผลผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม ตอนนี้สิ้นสุดที่ 17 คน ยังไม่มีการขยายผลเพิ่ม แต่หากการสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วพบความเชื่อมโยงก็สามารถขยายผลถึงผู้ก่อเหตุรายอื่นได้

ส่วนกรณีความผิดอั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงินตามที่กล่าวหากันนั้น ตอนนี้ยังไม่พบพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดนี้ และยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยง แต่พนักงานสอบสวนก็ต้องค่อยๆ แกะคลี่คลายคดีไป ส่วนที่ทนายรณณรงค์ไม่ไว้วางใจให้ สน.หัวหมาก ทำคดีต่อ ผู้กำกับการฯ ระบุว่า ตอนนี้ทางตำรวจหัวหมากทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับแจ้ง หากติดขัดใด ๆ ต้องขออภัยด้วยและไม่กดดันที่มีกระทรวงยุติธรรมลงมาช่วยเร่งคดี เพราะตำรวจทำตามขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมาย ยิ่งเป็นคดีเยาวชนต้องรอบคอบสูง

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความมีอิทธิพลของเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้ปกครองผู้ต้องหา ผู้กำกับการฯปฏิเสธเรื่องนี้และระบุว่า ลูกชายของบ้านนี้ก็เคยถูกดำเนินคดีและที่ว่ามีอิทธิพลเนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทสนมใกล้ชิดกันจึงดูเหมือนจะมีอิทธิพลในพื้นที่ส่วนที่มีรายงานว่านายเติ้ล เคยมีผลงานในวงการบันเทิง และนางสาวพลอย อ้างเป็นญาติกับดารานักแสดงชื่อดัง ผู้กำกับการฯ ระบุว่า เป็นเพียงข้อมูลไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบ เพราะไม่ใช่สาระสำคัญของคดี


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/b0-C8hbF-BI

คุณอาจสนใจ

Related News