หนุ่มวอนตำรวจเร่งตามคดี แฟนสาวถูกกระบะชนดับ ลากร่างไกลกว่า 2 กม. ก่อนหนีหายลอยนวล

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพตามหารถกระบะต้องสงสัย ขับรถชนเพื่อนเสียชีวิต โดยลากร่างไกลกว่า 2 กิโลเมตร หนำซ้ำถูกรถทับซ้ำสอง

โดยระบุข้อความว่า "ขออนุญาตแอดมินโพสต์ข่าว เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวนนทบุรี เมื่อวันที่11-10-22 เวลาประมาณ 03.00 น.เพื่อนเราโดนรถกระบะพุ่งชน แล้วลากร่างจากบริเวณเยื้องหมู่บ้านศรีประวัติ ฟลอร่า (โครงการ2) ไปประมาณ2-3กิโลเมตร จนร่างไปหลุดอยู่ที่หน้าหมู่บ้านนนทรีเสียชีวิตคาที่

จากวันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ เรายังตามหาคนชนไม่ได้ เพราะมีภาพกล้องวงจรปิดที่เห็นเพียงลักษณะรถแต่ไม่เห็นแผ่นป้ายทะเบียน

หากใครมีข้อมูลเบาะแสของเจ้าของรถกระบะหรือมีกล้องวันเกิดเหตุ หรืออะไรใดๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าจะมากหรือน้อยช่วยติดต่อแจ้งข้อมูลให้ทางเราทราบ เพื่อทวงความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิต และครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยค่ะ

ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 11 ต.ค.65 เวลาประมาณ 02.00 น. บันทึกภาพสองคู่รักเดินลงจากรถแท็กซี่ที่มาส่งหน้าบ้าน ด้วยความเมา ก่อนแฟนหนุ่มเดินเข้าบ้านไปหยิบเงินค่าโดยสารให้แท็กซี่ ส่วนตัวแฟนสาวหรือผู้ตายได้นอนหลับด้วยความเมาอยู่หน้ารั้วบ้าน ซึ่งทั้งสองคนมีอาการเมา จึงเดินล้มลุกคุกคลานอยู่บริเวณหน้าบ้าน ไม่ต่ำกว่าคนละ 2-3 ครั้ง ขณะที่บริเวณหน้าบ้านมีน้ำท่วมขังกว่า 10 ซม. ทำให้ตัวของทั้งสองเปียกน้ำกันทั้งหมด

ต่อมาทางด้านแฟนหนุ่มก็พยายามปลุกแฟนสาวที่นอนอยู่ ด้วยการใช้เท้าวิดน้ำที่ท่วมขังอยู่หน้าบ้านใส่แฟนสาวหลายครั้ง จนกระทั่งแฟนสาวตื่นมาแล้วเดินเซล้มลงบนน้ำที่ท่วมถนนอีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินเซลุยน้ำท่วม ออกไปยังหน้าปากซอย แล้วเดินเท้าเลี้ยวขวาไปบนฟุตบาตริมถนนใหญ่

ส่วนแฟนหนุ่มก็ยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนกางเกงใช้เวลากว่า 8 นาที ก่อนเดินออกไปตามหาแฟนสาว โดยเดินออกจากบ้านแล้วล้มลงหน้าบ้านก่อนหนึ่งครั้ง แล้วเดินออกไปตามหากว่า 2 นาที จึงเดินกลับมาก่อนเข้าบ้านก็ได้นั่งลงอยู่กับพื้นบริเวณหน้าบ้านกว่า 1 นาที ก่อนจะเข้าบ้านตัวเอง

ส่วนกล้องวงจรปิดภายในร้านขายของชำที่อยู่หน้าหมู่บ้านนนทรีฟลอร่า บันทึกภาพเหตุการณ์เวลาประมาณ 03.05 น. พบรถกระบะแคปยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ 2 ประตู ติดราวแสตเลส ขับผ่านมาก่อนศพของผู้เสียชีวิตจะตกอยู่บนถนน หลังกระบะคันดังกล่าวขับผ่าน ต่อมาก็มีรถเก๋งขับทับศพของผู้เสียชีวิตอีก 1 คัน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาที่เกิดเหตุ

-------------

ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 26 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านศรีประวัติฟลอร่า2 ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบนายมาตประสมอายุ 38 ปี อาชีพ ฟรีเเลนซ์ออกแบบ เจ้าของบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นแฟนของผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางสาวนลินี อายุ 23 ปี อาชีพ แม่ค้าออนไลน์ ถูกรถทับลากไกลกว่า 2 กิโลเมตร ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านศรีประวัติฟลอร่า2 จนถึงหน้าหมู่บ้านนนทรีฟลอร่า ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

นายมาตประสม กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปดื่มกินเลี้ยงสังสรรค์กันที่ร้านเพื่อนกับแฟน ขากลับตนนั่งแท๊กซี่กลับมากับแฟน มีอาการเมาเล็กน้อย แต่แฟนตนอาจจะเมามากกว่า กลับมาถึงบ้านประมาณ 02.00 น. ตนพยายามลากแฟนลงมาจากรถ แต่บ้านตนมีน้ำท่วม จึงให้แฟนไปรอที่หน้าบ้านและตนก็เก็บของทุกอย่าง ก่อนที่จะเข้าบ้านไปเอาเงินเพื่อที่จะจ่ายค่ารถ หลังจากนั้นตนก็จำความอะไรไม่ได้

ยอมรับว่าเมาแล้วภาพตัด จนกระทั่งเช้ามาแม่เข้ามาปลุกตนบอกว่าแฟนถูกรถชนให้ไปดูว่าใช่แฟนตนหรือไม่ พอตนออกไปที่โรงพักก็ไม่สามารถดูได้ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ญาติติดต่อมาอย่างเดียว แต่ตนก็ไม่ทราบว่าแฟนออกจากบ้านไปตอนไหน ไม่มีการทะเลาะกันมาก่อน แต่พักหลังแฟนเริ่มเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เวลาเมาก็จะมาโวยวายแต่ตนก็เข้าใจ

วันก่อนเกิดเหตุในแท็กซี่ แฟนตนก็บ่นเรื่องเดิม แต่ตนไม่ทราบว่าหลังจากที่ถึงบ้านแล้วเขาออกจากบ้านไปตอนไหน เพราะปกติจะกินอยู่แต่ที่บ้าน ถ้าเมาก็นอนหลับตื่นอีกทีก็ช่วงเย็น ปกติแฟนตนไม่เคยเมาแล้วเดินออกไปไหนแบบนี้

ส่วนในเรื่องของคดีเหตุเกิดวันที่ 11 ต.ค.65 แฟนถูกรถชนเสียชีวิต ในวันที่ 12 ต.ค.65 พ่อแม่ของแฟนตนเข้ามาติดต่อเพื่อรับศพ หลังจากนั้นตนก็พยายามไล่ดูกล้องวงจรปิดทั่วพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นแต่ภาพรถต้องสงสัยแต่ไม่เห็นหมายเลขทะเบียน ตนจะต้องไปดูเพิ่มที่ทวีพัฒนาเพราะกล้องที่หามาได้เป็นกล้องในเขตพื้นที่ปลายทาง เพราะช่วงนี้ตนยังไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะยังคงตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและเสียใจ นอนไม่หลับ

จึงอยากให้รถกระบะที่ชนแฟนของตนเข้ามารับผิดชอบและชดใช้ในสิ่งที่ทำ และอยากจะถามว่าทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนี้ เพราะทุกคนบริเวณนี้ก็เห็นว่ารถคันนี้ขับเร็ว ก่อนเกิดเหตุมีกู้ภัยเห็นว่ารถกระบะคันนี้ขับเร็วมาก ตอนนี้อยากให้เข้ามามอบตัว ตนอยากจะถามถึงคนขับรถกระบะว่าตอนชนไม่รู้สึกอะไรบ้างเพราะชนแฟนตนแล้วยังขับลากตัวแฟนตนไปหลายเมตร

ตอนนี้ตนเป็นห่วงเรื่องพ่อแม่ของแฟน เพราะแฟนตนเป็นเสาหลักของบ้าน พ่อแม่ยากจน อยากให้คดีจบเร็วๆเพราะไม่อยากให้พ่อแม่เขาลงมาที่นี่บ่อย เพราะต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัดต้องมีค่าใช้จ่าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกให้พ่อและแม่ของแฟนตนมาตลอด

นายไพบูลย์ เอี่ยมอิ่ม อายุ 67 ปี รปภ. ผู้พบศพผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ในวันเกิดเหตุมีรถกระบะขับผ่านหน้าป้อมยาม ต่อมาตนก็พบศพอยู่บนถนนจึงเดินไปตรวจสอบ จากนั้นจึงประสานรถกู้ชีพและตำรวจมาที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา ซึ่งตนไม่ได้ยินเสียงชนหรือเสียงศพที่หล่นกระแทกพื้น มีแต่ชาวบ้านมาบอกตนให้ไปดูแล้วก็เดินกลับไปปล่อยให้ตนอยู่ที่ป้อมคนเดียว หลังจากที่รู้ว่าผู้เสียชีวิตถูกลากมากว่า 2 กิโลเมตร ก็รู้สึกตกใจและขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติ

ร.ต.อ. วีระพงษ์ ศรีสุภา ร้อยเวรรับผิดชอบคดี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปลายบางได้รับแจ้งเหตุรถชนคนเดินเท้า วันที่ 11 ต.ค.65 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุแต่ไม่พบผู้บาดเจ็บแล้วรถคู่กรณี ถัดไปบริเวณหน้าหมู่บ้านนนทรีฟลอร่า พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่ซึ่งห่างจากจุดที่ถูกชนกว่า 2 กิโลเมตร สภาพศพมีร่างกายและหน้าอกฉีกขาดจมกองเลือด ไม่พบเอกสารในตัว

หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ติดตามไล่กล้องวงจรปิดหลายจุด โดยดูกล้องย้อนหลังตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุบริเวณบนทางด่วน สามารถบันทึกภาพรถคันดังกล่าวได้แต่เลขทะเบียนไม่ชัดเจน ทราบเพียงหมวดจังหวัดเป็นของ กทม. เพราะคืนเกิดเหตุฝนตกกล้องมัวไม่ชัด ตำรวจจึงยังไม่สามารถระบุได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถผู้ต้องหา

ต่อมาก็ไล่กล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุพบว่า รถต้องสงสัยคันนี้ขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุจนวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวอยู่ตลอด ซึ่งทางญาติผู้เสียชีวิตก็เดินทางมาพบหรือสอบถามตำรวจแล้ว ทางตำรวจจะให้ข้อมูลกับทางญาติแท้ๆ ของผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่ทางแฟนผู้เสียชีวิตนั้นไม่มีการจดทะเบียนสมรสตำรวจจึงไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้

เหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจก็ยังไม่ทราบว่า สาเหตุมาจากเพราะแฟนกับผู้ตายอยู่ด้วยกันสองคนในวันเกิดเหตุ ตำรวจจึงเรียกแฟนผู้ตายมาสอบปากคำในวันนี้แต่ถูกเลื่อนไปเป็นวันพรุ่งนี้ก็จะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากตำรวจสืบสวนแล้วพบหมายเลขทะเบียนที่ชัดเจน แล้วทราบชื่อผู้ขับขี่ ก็จะดำเนินการออกหมายเรียก ตามขั้นตอนตามกฎหมาย จากการตรวจสอบเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8hCtL5-TuUc