อาชญากรรม

ญาติวอนช่วยรักษา ชายหลอนยาปีนบ้านสาว 3 ปี เผยปมผิดหวังสอบบรรจุ ทำชีวิตเปลี่ยน

โดย nattachat_c

26 ต.ค. 2565

37 views

จากกรณี ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวภิญญดา อายุ 34 ปี ชาวบ้าน อ.หาดใหญ่ ถูกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน มีพฤติกรรมบุกปีนกำแพงเข้ามาในบริเวณบ้าน ช่วงเวลายามวิกาล ซึ่งพฤติกรรมของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว ได้ทำแบบนี้มานาน 3 ปี และทุกครั้งหลังเกิดเหตุ ก็ได้มีการแจ้งไปทางญาติ แต่กลับถูกปฎิเสธความรับผิดชอบ จึงเป็นสาเหตุร้องทุกข์สื่อ


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักส่วนตัวของนางสาวภิญญดา พบกับนางสาวภิญญดาและสามี ซึ่งทางสามีของนางสาวภิญญดา กล่าวว่า หลังเจอเหตุการณ์เพื่อนบ้านบุกปีนกำแพงบ้านเข้ามา ทำให้นางสาวภิญญดามีอาการคล้ายคนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หวาดระแวง ไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน


ก่อนมีการมอบคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดให้กับผู้สื่อข่าว ซึ่งคลิปดังกล่าวที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 2564 จนถึงล่าสุดวันที่ 16 ต.ค. 2565 


โดยพฤติกรรมเพื่อนบ้านรายนี้ ได้ก่อเหตุบุกปีนกำแพงบ้าน เข้ามาช่วงที่สามีของนางสาวภิญญดาไม่อยู่ มานาน 3 ปี ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน พร้อมพาไปดูจุดที่เพื่อนบ้านได้ปีนกำแพงบ้านเข้ามา ก่อนจะเดินมาที่บริเวณหน้าประตูและหน้าต่างห้องพักส่วนตัว


ต่อมา พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ หลังรับเรื่องจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนวิน สวป.สภ.หาดใหญ่ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านพักส่วนตัวของ นางสาวภิญญดา ผู้เสียหาย ก่อนมีการสอบถามข้อมูลล่าสุด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านผู้ก่อเหตุ ซึ่งห่างจากบ้านผู้เสียหายเพียง 20 เมตร ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายสุวัฒชัย อายุ 40 ปี ซึ่งได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่


จากการตรวจสอบประวัติเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2563 เวลา 08.40 น. ทางผู้เสียหายได้มีการเข้าแจ้งความและเจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าจับกุมมาแล้ว 1 ครั้ง ในข้อหาบุกรุก โดยพฤติกรรมของนายสุวัฒน์ชัย ได้บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและพยายามบิดลูกบิดประตูเข้ามาในห้องผู้เสียหาย


ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2564 ศาลได้ตัดสินจำคุกนายสุวัฒน์ชัย 1 ปี แต่ทางนายสุวัฒน์ชัยได้มีการรับสารภาพศาล จึงลดโทษจำคุกเหลือ 2 เดือน


ล่าสุด นางสาวภิญญดา และสามีได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เพื่อเข้าให้ปากคำพร้อมนำหลักฐานต่างๆ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่


ทางด้าน พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนวิน สวป.สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากคดีที่เกิดขึ้น ทางสภ.หาดใหญ่โดยผู้กำกับ พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบรายละเอียด เนื่องจากคดีนี้รับแจ้งจากผู้เสียหาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้ง ในแต่ละครั้งก็จะถือเป็นความผิดแต่ละครั้งแต่ละคราวไป


เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป รวมถึงประสานกันทางโทรศัพท์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจกับผู้เสียหาย ซึ่งในส่วนของผู้เสียหายก็อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการพักอาศัยอยู่ เนื่องจากบุคคลภายนอกเข้ามาก่อกวนให้เกิดความเดือดร้อน โดยบุกรุกเข้าไปในบ้านของตนเอง ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หากมีเหตุการณ์ทางผู้เสียหายก็สามารถแจ้งตรงกับตำรวจได้ทันที


สำหรับคดีนี้ มีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์ไว้แล้ว ในส่วนการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุก่อนหน้านี้ได้มีการนำภาพถ่ายกล้องวงจรปิด ได้ก่อเหตุเมื่อปี 2563 จากคดีในครั้งนั้นได้ขออนุมัติศาลในการออกหมายจับ โดยสารได้มีคำพิพากษา เนื่องจากมีการรับสารภาพ มีการลงโทษจำคุก 2 เดือน โทษปรับ 5,000 บาท ส่วนโทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี


เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีการกระทำความผิดซ้ำๆ จะต้องดำเนินการต่อไป คือต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ๆ ทางท้องถิ่น อำเภอ สาธารณสุข เพื่อตรวจสอบอาการ แนวทางในการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากผู้ก่อเหตุกับผู้เสียหายอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน จากการซักถามข้อมูลผู้ก่อเหตุไม่ได้ไปก่อเหตุบ้านหลังอื่น ถือว่ายังโชคดีที่ไม่มีเหตุอะไรรุนแรง


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายสุวัฒชัย อายุ 40 ปี โดยนายสุวัฒชัยได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องสาว ได้พบกับนายอนันต์ อายุ 72 ปี (พ่อ) และ นางสาวศิริยากร อายุ 24 ปี (น้องสาว)


นายอนันต์ ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนทราบมาตลอดว่าลูกชายของตนได้ไปก่อเหตุปีนบ้านเค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ถูกดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังกลับมาบ้านก่อได้เหตุซ้ำอีก ซึ่งตนไม่รู้จะทำยังไงเพราะตนต้องไปขายของกับภรรยาในช่วงเช้า และจะกลับบ้านมาอีกทีก็ช่วงเวลา 15.00 น. ทุกวัน


ส่วนลูกชายก็ไม่ทำงานอยู่แต่บ้าน ตนก็ทำได้แต่เพียงตะโกนห้ามปราม และได้แค่พูดคุยกับลูกชายเท่านั้น ทุกวันนี้ตนกับภรรยาเครียดมาก ซึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายตนลงมือก่อเหตุนั้น น่าจะมาจากการเสพยาเสพติดจึงมีอาการจิตหลอน


ก่อนหน้านี้ได้ไปสมัครงานเป็นช่างโฟร์แมนก่อนจะโดนไล่ออกไม่ทำงานมา 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนสาเหตุที่โดนไล่ออกนั้นน่าจะมาจากเสพยาเสพติด และเกิดอาการหลอนต่อหน้าเจ้าของบริษัท จึงถูกไล่ออกจากงาน


ช่วงที่ผ่านมา ศาลตัดสินและให้เจ้าหน้าที่พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ พอออกมาก็เหมือนเดิมอีก จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ช่วยเข้ามาช่วยเหลือนำตัวลูกชายของตนไปทำการรักษาให้หายขาด จะกี่เดือนกี่ปีก็ได้แค่ขอให้หายขาด


นางสาวศิริยากร ได้เดินเข้าไปในบ้านหยิบยาที่ใช้รักษานายสุวัฒชัยมาให้ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบ และยืนยันว่านายสุวัฒชัยเป็นผู้ป่วย และอยู่ระหว่างรักษาตัว แต่ไม่ถึงกับอาการหนัก


ซึ่งเบื้องต้นได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนกับพ่อก็ได้ช่วยกันดูแลพี่ชายมาตลอด แต่ไม่ตลอดเวลา เพราะต้องไปทำงาน ส่วนสาเหตุที่พี่ชายเป็นแบบนี้นั้น เกิดจากการที่พี่ชายนั้นย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว พี่ชายเป็นคนเก่ง และได้สอบเข้าบรรจุเป็นลูกจ้างประจำของกรมทางหลวง อันดับ 4


ซึ่งก่อนหน้าที่จะสอบบรรจุเป็นลูกจ้างประจำ พี่ชายเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ ซึ่งได้ทำงานที่เดียวกันกับพ่อที่กรมทางหลวง โดยพ่อทำหน้าที่เป็นพลขับ หลังพี่ชายทราบผลสอบในช่วงเช้ามีชื่อติดอยู่ที่บอร์ดกระดาน ก่อนจะมีการเลี้ยงฉลองกับครอบครัวที่บ้านในช่วงเย็น


จากนั้นมาช่วงเช้าปรากฎว่า รายชื่อพี่ชายมีการนำออกไปและเอาชื่อคนอื่นมาใส่แทน จึงทำให้พี่ชายเสียใจอย่างหนักกับการกระทำดังกล่าว ส่วนพ่อก็ไม่สามารถพูดทักท้วงอะไรได้ เนื่องจากพ่อเป็นข้าราชการเล็กๆ จึงได้แต่เงียบ จนกระทั่งพ่อได้เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันน้้นมา พี่ชายก็กินเหล้า เสพยามาตลอด จนเกิดอาการหลอน ก่อเหตุปีนบ้านของผู้เสียหาย ตนอยากฝากถึงหน่วยงานใดก็ได้ช่วยเข้ามานำตัวไปรักษาให้หายขาดและกลับมาเป็นคนเดิม


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ถามหานายสุวัฒชัยว่าได้ไปไหน ก่อนที่พ่อของนายสุวัฒชัยตอบว่านั่งอยู่ในบ้านพร้อมกับเรียกนายสุวัฒชัยออกมาข้างนอก หลังนายสุวัฒชัยเดินมานั่งที่เก้าอี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้พูดคุยกับนายสุวัฒชัยว่าทำไมจึงไปก่อเหตุปีนบ้าน โดยทางนายสุวัฒชัยตอบกลับมาว่า ตนเองได้ยินเสียงคนมากมายวิ่งไปวิ่งมาและก่อกวนผม ผมไปไล่แล้วก็ไม่ออก และมีคนบอกว่า มีคนรู้จักผมอยู่ในบ้านเค้า และผมจะเข้าไปในบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ


ซึ่งเจ้าของบ้านคิดว่าผมจะเข้าไปทำร้าย แต่จริงๆ แล้ว ผมได้ยินเสียงเรียกจากคนในบ้านซึ่งเจ้าของบ้านไม่เปิดประตู จากนั้นคนในบ้านได้บอกว่าให้ยืนรอสักแป๊บนึง เค้าอาจจะเปิดให้ ที่นี่ผมรอแล้วเค้าไม่เปิดให้ ผมก็เลยเดินออกมา


จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามต่อว่า ได้ก่อเหตุมากี่ครั้งแล้ว นายสุวัฒชัยได้ตอบกลับมาว่า ได้ดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ยุ่งมาเป็นปีแล้ว จนกระทั่งตนพึ่งเข้าไปในบ้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อว่า หลังจากนี้จะก่อเหตุปีนกำแพงอีกไหม นายสุวัฒชัยจึงได้ตอบกลับมาว่า ไม่แล้วครับ เพราะทุกวันนี้ตนพยายามอยู่แต่ในบ้านของตน ตนอยู่ของตน
---------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/312XB0jD-e8

คุณอาจสนใจ