เด็ก 7 ขวบถูกกระบะซิ่งชนขณะข้ามถนน โซเชียลเดือดเฟซบุ๊กปริศนาโพสต์เด็กไปขอสามช่าเองจนเกิดเหตุ

วันนี้(30 ส.ค. 65) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุรถยนต์กระบะสภาพค่อนข้างเก่า ชน ด.ช. เอ (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เด็กนักเรียนโรงเรียนหนึ่งใน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ บนถนนสี่เลนหมายเลข 24 สีคิ้ว-เดชอุดม บริเวณแยกบ้านสะกาด ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ขณะกำลังข้ามถนนกลับบ้านหลังเลิกเรียน พร้อมกับเพื่อน รวม 3 คน แต่เพื่อนอีก 2 คนข้ามถนนไปได้ก่อน เหลือเพียง ด.ช.เอ คนสุดท้ายที่กำลังข้ามไปได้เพียงเลนเดียวแต่กลับตกใจเห็นรถยนต์คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะวิ่งกลับมาคืน จนถูกชนเข้าอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสังขะในเวลาต่อมา



ขณะที่เฟซบุ๊กของผู้ใช้รายหนึ่ง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ซึ่งล่าสุดได้ทำการลบข้อมูลไปแล้ว ได้โพสต์รูปภาพในที่เกิดเหตุและ ระบุข้อความว่า เหตุรถชนเด็กนักเรียนแยกบ้านสะดาด เด็กอายุ 7 ขวบ อาการสาหัส กู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาล สังขะ สาเหตุมาจากขอสามช่า รถสิบล้อ ขอเสร็จ จะข้ามถนนมองไม่เห็นกระบะวิ่งมาชน หมายเหตุ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วนะครับ ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวด้วยครับ



หลังจากเฟซบุ๊กดังกล่าว โพสต์ภาพและข้อความได้ไม่นานก็เกิดทัวร์ลง มีชาวโซเชียลมาคอมเมนต์แสดงความรู้สึกและวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ทั้งตำหนิการโพสต์ที่ใช้ข้อความ ในเชิงตำหนิเด็กน้อยซึ่งเขาเสียชีวิตไปแล้วว่า สาเหตุมาจากขอสามช่ารถสิบล้อ ทั้งที่จริงเด็กไม่ได้ขอสามช่า กำลังข้ามถนน และบางคนก็ด่าทอบุคคลที่โพสต์จนเฟซบุ๊กดังกล่าวต้องลบข้อความและภาพออกไปหลังโพสต์ได้แค่เพียง 4-5 ช.ม.เท่านั้น



นอกจากนี้ ชาวโซเชียล ยังได้คอมเมนต์ถึงเรื่องของถนนบริเวณดังกล่าว ที่มักเกิดอุบติเหตุบ่อยครั้ง ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไข ช่วยสร้างสะพานลอยให้ทั้งรถจักรยานยนต์และคนข้าม หรือทำอุโมงค์ลอด หรือไม่ก็มีสัญญาณไฟสัญญาณหรือวิธีการป้องกันอื่นๆ ให้ เพราะเป็นจุดที่เด็กนักเรียนและประชาชนใช้ข้ามถนนไปมาจำนวนมาก อีกทั้งบริเวณยูเทิร์นรถอยู่ไกลเกินไปอีกด้วย



เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเศร้าสลดให้กับครอบครัวและญาติพี่น้องของเด็กชาย รวมทั้งชาวบ้านและเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุ จนท.ตำรวจสภ.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ที่แท้จริงต่อไป พร้อมนำตัวคนขับรถกระบะดังกล่าวไปสอบสวนและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป