ดาราสาวร้องกองปราบฯ รับโอนคดีหลานอดีต รมต. ปัดสร้างเรื่องแบล็กเมล์ แฉแชทถูกลบ

ดาราสาวร้องขอโอนคดี ‘หลานอดีตรัฐมนตรี’ ข่มขืนจากสน.โชคชัย มาสอบสวนต่อที่กองปราบฯ ยันมีหลักฐานก่อเหตุจริงไม่ได้พูดลอย ๆ หรือแบล็กเมล์ “หากไม่ได้ทำผิดทำไมต้องเสนอเงินให้ยุติแจ้งความ คำพูดสวยหรูบอกเป็นสุภาพบุรุษแต่การกระทำแย่มาก”

วานนี้ (29 ส.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมด้วยศิลปินนักแสดงสาว ผู้เสียหายที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องขอให้โอนคดีจากสน.โชคชัย มาให้สอบสวนต่อที่กองปราบปราม หลังจากไม่เชื่อมั่นการทำคดีของตำรวจ สน.โชคชัย กรณีที่นำหลักฐานสำคัญที่เป็นแชทไลน์ของผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวซึ่งเป็นหลานชายอดีตรัฐมนตรี ออกจากสำนวน และการสอบสวนผู้เสียหายที่ไม่ละเอียดรอบคอบ  


จากกรณีศิลปินนักแสดงสาว อายุ 21 ปี ร้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังถูกหลานของอดีตรัฐมนตรี มอมยาล่วงละเมิดทางเพศในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 2  โดยผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.โชคชัย

ผู้เสียหาย ยังระบุอีกว่า ในวันเกิดเหตุที่มาแจ้งความ ตำรวจยังพูดจาไม่ดีกับตัวเอง และพยายามให้ไปตรวจร่างกายใหม่ ซึ่งห่างจากเวลาเกิดเหตุมาหลายชั่วโมง ทั้งที่ไปตรวจมาแล้ว และเห็นว่าพยายามที่จะแก้ไขสำนวน ซึ่งก็เห็นด้วยที่ผู้บังคับบัญชาให้รองผู้กำกับสอบสวน สน.โชคชัย ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน


นักแสดงสาว ผู้เสียหาย ยืนยันมีหลักฐานว่าหลานอดีตรัฐมนตรีก่อเหตุจริง และที่มาดำเนินคดีไม่ได้แบล็กเมล์ และถามผู้ก่อเหตุว่าหากไม่ได้ทำผิดจริง ทำไมถึงต้องพยายามโทรศัพท์มาเสนอเงินเพิ่มเพื่อให้ยุติการแจ้งความ ส่วนวันที่เกิดเหตุยอมรับว่ามีการทะเลาะกับพี่สาวก่อนจริง แต่เป็นการทะเลาะเรื่องงานที่รับเท่านั้น ยืนยันว่าตอนที่รับงานนี้ไม่ได้ขาดสติ ส่วนเรื่องการติดต่อโรงแรมที่พักร่วมกับผู้ก่อเหตุยังไม่ขอพูดถึงขอให้เป็นเรื่องในสำนวน

ทั้งนี้ ตนเองไม่รู้จุดประสงค์ที่เขาบอกว่าแบล็กเมล์ ถ้าจะพูดว่าต้องการเงิน ตนไม่เคยเรียกร้องเงินเลย ตนอยากได้ความถูกต้อง ความยุติธรรมให้กับศักดิ์ศรีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีเส้นสาย เขาคงว่างมากที่มาท้าให้สาบาน ตนเชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่า มีที่มาที่ไปอ้างอิง ไม่ใช่คำพูดสวยหรูว่าเป็นสุภาพบุรุษ แต่การกระทำมันแย่มาก 

ตนไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะรู้ความจริงเป็นยังไง มีหลักฐานยืนยันทุกอย่างไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะเสียความรู้สึกไปแล้ว ถ้ามัวนั่งร้องไห้ไม่ลุกสู้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ขอเอาความจริงและหลักฐานมาสู้กันดีกว่า อีกฝ่ายบอกว่ามีหลักฐาน ตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นหลักฐานอะไรหรือว่าสร้างขึ้นมา ขอไปสู้ในศาล ตนพูดทุกอย่างเป็นความจริงไม่ได้พูดลอย ๆ

ด้านพี่สาวของผู้เสียหาย ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุพยายามติดต่อให้รับงานแสดงมิวสิควิดีโอ ซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดว่าทำไมผู้บริหารถึงมาติดต่องานเอง แต่ก็ได้เสนอประวัติ และผลงานของผู้เสียหายให้ และตกลงรับงานไป ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ และอ้างถึงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีของบรรพบุรุษทำให้ตระกูลได้รับความเสียหายนั้น ยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้ต้องหาพยายามใช้เครดิตของบรรพบุรุษของตัวเองมากล่าวอ้างตลอดว่ากำลังจะลงสมัครทางการเมือง

ด้านทนายษิทรา ยืนยันว่า ตนเองได้ให้ข้อมูลทุกอย่างตามข้อเท็จจริง และไม่ได้มีการระบุชื่อแต่อย่างใด ซึ่งผู้เสียหายสาว ก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนเองเคยได้ยินผู้ต้องหาพยายามใช้เครดิตของบรรพบุรุษของตัวเองมากล่าวอ้างตลอด ว่าอยากเป็นแบบบรรพบุรุษ จึงอยากสอบถามกลับว่าใครกันแน่ ที่นำบรรพบุรุษออกมาหาประโยชน์กันแน่

ส่วนกรณีที่ผู้ก่อเหตุมีการเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าทนายษิทรา กำลังเข้าข้างคนผิดและทางครอบครัวของทางผู้ก่อเหตุยังมีการท้าให้ผู้เสียหายไปดื่มน้ำสาบานที่วัดพระแก้ว ทนายษิทรา ระบุว่า ในส่วนของการรับทำคดีของตนเองจะมีการตรวจสอบความถูกต้องหรือความเป็นไปได้ของทางข้อเท็จจริงทั้งหมดจากหลักฐาน

--------------------------------------------------------------------

‘ทนายตั้ม’ พาดาราสาวแจ้งความเพิ่ม เอาผิด พ.ร.บ.คอมฯ ‘หลานอดีตรัฐมนตรี’ ลบข้อความในแชทไลน์ขณะหมดสติ หลังเกิดแหตุไล่ยกเลิกข้อความที่เจ้าตัวขอโทษ ยอมรับก่อเหตุกับผู้เสียหายจริง รู้ตัว-ทั้งคู่มีอารมณ์จูบกัน-เอายาคุมให้กินหลังมีเพศสัมพันธ์

วานนี้ (29 ส.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ  ได้โพสต์ข้อความแชทที่ผู้เสียหายคุยกับผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า “นี่คือหนึ่งในหลักฐานที่แนบไปแจ้งความคดีหลานอดีตรัฐมนตรีก่อเหตุล่วงละเมิดก่อเรื่องโดนไป 8 ข้อหาหนักแบบนี้ ถ้าขอโทษง่าย ๆ แล้วจบ คงไม่ต้องมีทนายแบบผมไว้ว่าความแล้วล่ะครับ จำไว้เลยนะ ถ้าผู้หญิงเขาไม่ให้ Consent ตั้งแต่แรก อย่ามโนหลงตัวเอง ว่าผู้หญิงเขายอมครับ แล้วตอนนี้มาออกข่าวว่าตัวเองเป็นผู้ชายน่าสงสารถูกรังแก คุณไปทำอะไรเขาโดยไม่ได้รับความยินยอม ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อครับ”

จากนั้น 16.00 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พานักแสดงสาว ผู้เสียหาย อายุ 21 ปี ที่ถูกนายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม ข่มขืนที่พูลวิลลา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางไปที่ สน.โชคชัย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายอภิดิศร์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องเข้าถึงระบบโดยมิชอบ และเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลในโทรศัพท์ และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

นายษิทรา กล่าวว่า หลังไปร้องทุกข์ที่กองปราบฯ ได้มีการตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่าแชทที่มีการคุยกับผู้ต้องหา ได้ถูกลบออกไปตอนน้องหมดสติในคืนเกิดเหตุ  จึงเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม โดยแชทข้อความที่ถูกลบ มีการพิมพ์ตอบโต้กับผู้ต้องหาเรื่องงาน ก่อนเกิดเหตุถูกลบออกไปหมด ผู้ต้องหาลบข้อความไปในระหว่างที่น้องหลับ โดยโทรศัพท์สามารถสแกนใบหน้าของน้องได้ขณะหลับตา ทนายตั้ม จึงจำลองเหตุการณ์ให้ดู

นายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนและให้สัมภาษณ์สื่อ ในทำนองว่าน้องผู้เสียหายทำการแบล็คเมล์ จึงขอแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา วันเกิดเหตุน้องทะเลาะกับพี่สาว จึงแชทถามว่ามีที่พักแนะนำไหม เป็นการที่เขาไปนอนคนเดียว ไม่ได้ชวนผู้ต้องหาไปนอนด้วย แต่แชทดังกล่าวหายไปหมดเลย ถ้าหากผู้ต้องหาจะแสดงแชท ก็ขอให้เอาออกมาให้หมดเลย ภายหลังแชทได้หายไป

หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้พยายามทักแชตไลน์คุยกับนายเอ็ม ผู้ก่อเหตุเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้เสียหายไปแคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาภายหลังที่เป็นข่าว นายเอ็ม ผู้ก่อเหตุ ได้ไล่ยกเลิกข้อความบางส่วนที่คุยกับผู้เสียหายในแชตไลน์

นอกจากนี้มีแชทที่ผู้เสียหาย ได้ติดต่อขอข้อความจากที่คุยปรึกษากับทางผู้จัดการคนหนึ่ง ในวงการบันเทิงเพื่อนำมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน เกี่ยวกับขอคำแนะนำในการเลี่ยงไม่รับงานกับผู้ต้องหารายนี้ สำหรับการดำเนินคดีแจ้งความในพื้นที่สนโชคชัยนั้น ก่อนหน้านี้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 8 ข้อหา และวันนี้แจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/VyZAaOQW8AM