อาชญากรรม

ผัวชาวจีนฆ่าอำพรางเมีย หวังฮุบมรดก 70 ล้าน เพื่อนเอะใจ เมียสั่งเสีย 'เป็นอะไรไป ให้สงสัยผัว' ตร.อายัดศพทันก่อนเผา

โดย nattachat_c

26 ก.ค. 2565

1.1K views

ผัวโหด จัดฉากฆ่าเมีย อำพรางศพ หวังฮุบมรดก 70 ล้านบาท อ้างพยายามผูกคอตาย กินยาลดความอ้วน ดื่มเหล้า และเสพกัญชาจนเสียชีวิต ญาติแคลงใจ เพราะผู้ตายเคยเล่า ถูกผัวทำร้ายและขู่ฆ่า มีปัญหาถึงคงขั้นจะหย่าร้าง แต่แบ่งสมบัติไม่ลงตัว แจ้งตำรวจ บุกอายัดศพในวัด พบพิรุธเร่งรีบดำเนินการ บรรจุศพใส่โลง ไม่มีพิธีรดน้ำศพ และไม่มีใครเห็นสภาพศพ ตำรวจเชื่อฆ่าหวังฮุบมรดก


วานนี้ (25 ก.ค. 65) เวลา 11.30 น. ที่สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม จากเหตุการณ์สาวนักธุรกิจผูกคอตายปริศนา สุดท้าย หลักฐานมัดตัวคนร้ายอำพรางคดี


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 14 ก.ค. 65 เวลา 01.35 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ได้รับแจ้งว่า มีชายคนหนึ่งนำร่างของผู้หญิงมาส่งโรงพยาบาลวิชัยเวช อ้อมน้อย จากการตรวจสอบพบว่า ผู้หญิงได้เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว โดยชายที่นำร่างผู้หญิงมาส่งบอกว่าเป็นสามี อ้างว่าภรรยาใช้สายไฟฟ้าผูกคอตายที่บ้านพัก อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่รพ.จึงแจ้งตำรวจทำชันสูตรศพเบื้องต้น ทราบชื่อ ปารวี เฉิน


ตอนแรกไม่ได้เป็นข่าวเพราะ หลายคนคิดว่าเป็นเหตุฆ่าตัวตาย โดยผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวนักธุรกิจ ใช้สายไฟฟ้าผูกคอกับราวผ้าม่านภายในบ้าน ซึ่งผู้มาพบศพคือสามี ตำรวจพบพิรุธ สืบจากศพเนื่องจากรอยเชือกที่คอผิดปกติ อีกทั้งจุดที่สามีให้การว่า ภรรยาผูกคอตายก็ไม่สอดคล้องกัน รวมถึงคนรอบตัวเองก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย


จากการตรวจสอบบ้านเกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์3ชั้นครึ่งหลายคูหา พบว่าทั้งภายในบ้านและโดยรอบ มีการติดกล้องวงจรปิด ทั้งหมด 18 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบ ภาพในช่วงวันเวลาที่เกิดเหตุ แต่กลับพบพิรุธว่า ฮาร์ดิสของกล้องวงจรปิดถูกถอดไป จากนั้นทางตำรวจพยายามเค้นสอบถามสามีผู้ตาย เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดแต่ไม่ยินยอม


ทางเจ้าหน้าที่ สภ.โพธิ์แก้ว พยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบแทน และพบว่ามีกล้องวงจรปิด บริเวณจุดจอดรถของบ้านเกิดเหตุ ที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ พบว่าช่วงกลางดึก ของวันที่ 14 ก.ค. 65 นายตี๋ สามีของนางสาวหมวยได้ลากร่างขึ้นรถ ด้านหน้าข้างคนขับ โดยไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนอะไร ใช้เวลานานกว่า 5 นาที จากนั้นปิดประตูรถ แล้วเดินอย่างใจเย็นเข้าไปในบ้าน หายไปอีก 2 -3 นาที ก่อนจะเดินออกมาขึ้นรถ และขับออกไปทางปากซอย


กล้องจับภาพได้ตอนถอยรถกลับมาแต่จู่ๆ กล้องวงจรปิดก็จับภาพ ว่า นายตี๋ถอยรถกลับมาจอดหน้าบ้าน และลงจากรถเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ถึงออกมาขับรถไปที่โรงพยาบาลวิชัยเวช อ้อมน้อย ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1.8 กม. ปกติใช้เวลาเดินทาง 2 นาที แต่นายตี๋กลับใช้เวลาเดินทางเกือบ 16.20 นาที ซึ่งตำรวจมีหลักฐานชัดเจน ทางตำรวจได้เรียกตัวพนักงานของบริษัทของผู้ตายและสามี มาสอบปากคำ


ซึ่งมีลูกน้องคนหนึ่งให้การว่า ช่วงเที่ยงของวันที่ 15 ก.ค. 65 นายตี๋ ใช้ให้ไปซื้อฮาร์ดดิสก์ ในนามบริษัท ขนาดความจุ 1 tb ซึ่งเขาซื้อผิด จึงกลับไปเปลี่ยนเป็น ความจุ 2tb โดยมีกล้องวงจรปิดของร้านที่ขายของเป็นหลักฐานยืนยันคำให้การพนักงานชายรายนี้


ซึ่งพฤติกรรมของนายตี๋ ส่อเจตนาปกปิดสาเหตุการตายของนางสาวหมวย ซึ่งเป็นภรรยา หลังภรรยาตายเขาบอกกับเพื่อนและคนอื่นๆว่า นางสาวหมวย กินยาลดน้ำหนัก กินเหล้า และเสพกัญชาจนตาย และนำร่างภรรยาใส่โลง โดยไม่ให้ใครเห็นศพ และไม่ให้รดน้ำศพ


ตำรวจได้สอบปากคำคนใกล้ตัวผู้ตาย เพื่อหามูลเหตุจูงใจในการฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่พบ มีข้อมูลว่า นางสาวหมวย วางแผนบินไปเสริมความงามที่เกาหลีในเดือนหน้ากับกลุ่มเพื่อน


แต่พบว่าก่อนหน้านี้นางสาวหมวยมีปัญหาชีวิตคู่กับนายตี๋และขอหย่าเพื่อแยกทางกันกับนายตี๋ แต่ตกลงเรื่องทรัพย์สินไม่ได้ ซึ่งนางสาวหมวยได้ปรึกษาทนายความ ทำให้รู้ว่า นายตี๋นั้นใช้บัตรประชาชนปลอมจดทะเบียนสมรสกับเธอ ทำให้การสมรสเป็นโมฆะ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนหย่าและไม่จำเป็นต้องแบ่งทรัพย์สิน ไม่มีสิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย เชื่อว่านี่อาจเป็นมูลเหตุจูงใจ แต่จนถึงตอนนี้ นายตี๋ยังให้การปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเมียตัวเอง พร้อมหาทีมทนายสู้คดี


ขณะที่มีข้อมูลจากเพื่อนของนางสาวหมวย บอกว่า ก่อนหน้านี้ นางสาวหมวยมักมาปรับทุกข์เรื่องถูกสามีทำร้ายเป็นประจำ ซึ่งเคยพูดถึงขั้นว่า หากวันหนึ่งเป็นอะไรไป ก็เพราะถูกสามีทำ และจากข้อมูลคนรอบตัวพบว่านายตี๋ มีพฤติกรรมชอบเสียงดัง โวยวาย และโมโหร้าย ระหว่างที่ตำรวจสืบสวนคดีก็ยังมีการข่มขู่ พยานและคนรอบตัว ไม่ให้ยุ่งกับคดีนี้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1TAUviJdzTQ


คุณอาจสนใจ

Related News