ผวาน้องชายคลั่งยาขู่ฆ่าแม่ แจ้งตำรวจบอกจับไม่ได้เพราะเหตุยังไม่เกิด

จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ชุมชนข่าวขอนแก่น” โพสต์ข้อความแชตของหญิงรายหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ต่างประเทศ ขอความช่วยเหลือมาทางสื่อมวลชน เนื่องจากน้องชายแท้ๆ ติดยาเสพติดถึงขั้นขู่ฆ่ายายและแม่ เอามีดปลายแหลมไล่แทงคนในครอบครัวภายในบ้านจนต้องหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ พร้อมส่งคลิปจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบ้านที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ โดยในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งระบุว่าเป็นน้องชายของหญิงที่ทำงานต่างประเทศคนนี้ กำลังโวยวายอาละวาดปาข้าวของใส่บ้านข้างเคียงทั้งสองฝั่ง พร้อมทั้งตะโกท้าทายใครบางคนให้มาหา



นอกจากนี้ยังมีคลิปจังหวะที่น้องชายตะคอกขอเงินจากแม่และยายที่กำลังเตรียมร้านอาหารจนจำใจต้องให้ไปเพราะกลัวจะเกิดอันตราย ซึ่งในข้อความแชตที่โพสต์นั้นหญิงรายดังกล่าวได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า “ตนเองเป็นคนบ้านโนนงิ้ว ตำบลหัวหนอง อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น อยากร้องทุกข์กับสื่อ โดยน้องชายของตนเองเสพยาบ้าและอาละวาดทุบทำลายข้าวของในบ้าน ถือมีดวิ่งไล่จะฆ่าแม่ฆ่าหลาน จนต้องไปขออาศัยหลับนอนอยู่บ้านคนอื่น วันดีคืนดีก็หูแว่วว่ามีคนข้างบ้านพูดด่าตัวเอง โยนมีดโยนขวดไปใส่บ้านเขา แจ้งตำรวจมาระงับเหตุ อยากให้เอาไปบำบัดก็ไม่มีใครเหลียวแลเลยค่ะ ตำรวจก็บอกเหตุยังไม่เกิด ยังจับไม่ได้ ต้องให้เขาทำร้ายคน ให้เขาฆ่าคนตายก่อนถึงจะจับได้



ล่าสุดเมื่อคืน ตนเองไม่ได้อยู่บ้านเพราะทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่ได้บันทึกเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่บ้านไว้บางส่วน รูปตอนถือมีดไม่มีใครกล้าถ่ายไว้ วิ่งหนีตายกันหมด ถามคนบ้านใกล้เคียงหรือผู้ใหญ่บ้านได้ ทุกคนรู้เหตุการณ์ดีเพราะไม่ได้เพิ่งทำ ทำมาตลอดเข้าออกเรือนจำหลายรอบแล้ว แต่ครั้งนี้คือหนักมาก เพราะทั้งวิ่งไล่ฆ่าแม่และหลานๆ พากันวิ่งหนีตาย ตั้งแต่เดือน พ.ค.65 ถึงล่าสุดเมื่อวานนี้ พอตำรวจมาเขาก็จะทำตัวนิ่งสงบ พอตำรวจออกไป ที่บ้านเตรียมหาที่หลบทันที น้องขู่บังคับเอาเงินจากแม่ทุกวัน วันละ 500 ถึง1,000 บาท ต้องได้ มีไม่พอก็ต้องได้ตามที่ขอ ไม่งั้นตาย

พอตำรวจมาเขาจะอ้างว่าไม่ได้เมา แต่ที่โวยวายเพราะแม่ทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก ไล่เมียและลูกเขาหนี ตำรวจก็จะคิดว่าเป็นเรื่องครอบครัว ให้คุยกันให้เข้าใจ แต่มันไม่ใช่ แม่ไม่เคยไล่ใครหนี แต่เมียเขาหอบลูกหนีกลับบ้านเอง น้องหลอนแล้วพูดเรื่องราวต่างๆขึ้นมาเอง เหมือนสร้างภาพหลอนขึ้นมาเอง พอหลอนก็ไล่ฆ่าแม่ว่าแม่ไล่เมียหนี ตอนนี้คือหูแว่วได้ยินว่าคนข้างบ้านด่าตัวเอง แล้วโยนขวดโยนมีดไปใส่บ้านเขา ทั้งที่ข้างบ้านฝั่งนั้นเป็นบ้านร้างค่ะ ไม่มีใครอยู่เลย แล้วก็ทำลายข้าวของร้านแม่ เพราะหน้าบ้านเปิดขายอาหาร บังคับข่มขู่เอาเงินไปซื้อยาค่ะ หลานๆ พากันวิ่งหนีตายหมดเพราะกลัว สงสารเด็กๆ มาก ช่วยหนูด้วยนะคะ หนูได้แต่นั่งมองกล้องแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะอยู่ไกล ทรมานใจเหลือเกินค่ะ



ล่าสุดบอกว่าจะเอารถยนต์ไปขายซื้อปืนมายิงทิ้งทั้งหมดค่ะ เพราะเขาเคยเอารถไปขายลอยๆหลายครั้งแล้ว ล่าสุดเพิ่งขายมอไซต์ไปค่ะนอนอยู่ในห้องนอนของหนูค่ะที่บ้านเลยค่ะล็อกห้องนอนอยู่ถ้าตื่นหลานๆ ก็เตรียมตัวหนีได้เลยค่ะเหตุการณ์มันร้ายแรงมากค่ะพี่ แต่ภาพบันทึกได้แค่บางส่วนตอนนี้หนูยิ่งร้อนใจเลยค่ะ เขาทับไวไฟทิ้ง เปิดดูกล้องไม่ได้เลยหนูมีคลิปตร.ถามเขาว่าเสพยาเขายอมรับ ว่าเสพแต่ไม่จับไปค่ะหนูเลยอยากร้องสื่อเอาผิดตร.ด้วยค่ะโทรแจ้งความดึกๆ แม่พาหลานๆโดดหน้าต่างหนีตาย ตร.บอกว่ามาช่วยไม่ได้ โรงพักมีตร.แค่ 2 คนทิ้งโรงพักไปไม่ได้หมายความว่าไงค่ะพี่หนูงงค่ะ เมื่อคืนแม่บอกตร.เอาไปบำบัด ตร.บอกว่าจับไปขังไม่ได้ เพราะเขายังไม่ก่อเหตุแต่เขาจุดไฟเผาข้าวของในบ้านตร.ก็เห็นยังมาบอกแม่หนูอีกว่าเดี๋ยวนี้ยาเสพติดจะเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว ตร.พูดแบบนี้คืออะไรคะพี่

หนูจะบินกลับไทยไปร้องถึงสื่อทุกที่เลยค่ะอันนี้ตอนแม่จะฆ่าตัวตายค่ะเพราะที่บ้านไม่มีเงินซื่อข้าวกิน เงินหลานไปโรงเรียน เพราะหนูโอนให้เท่าไหร่ ขู่เอาไปหมดค่ะคนข้างบ้านมาช่วยจับแม่ไว้ค่ะคือหนูเหนื่อยค่ะพี่ เป็นเสาหลัก หาเงินเลี้ยงดูครอบครัว บ้านหนูก็สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง แล้วต้องมานั่งดูเขาทุบทำลายสิ่งที่เราสร้างมาด้วยสองมือ กว่าจะหามาได้แต่ล่ะบาทอ่ะค่ะพี่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดหนูห่วงชีวิตลูกชายของหนู และหลานชายก็คือลูกของน้องชายแหล่ะค่ะ เพราะหนูเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนด้วยเงินหนูทั้งหมด รับผิดชอบให้ทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเองเลย สร้างแต่ปัญหาให้หนู จนหนูคิดอยากฆ่าตัวตายเลยค่ะพี่หนูท้อแท้มากตอนนี้



น้องจากหญิงรายดังกล่าวเล่าเหตุการณ์แล้วยังส่งคลิปนอกจากตอนที่น้องชายอาละวาดแล้ว เป็นคลิปในวันที่น้องชายถือมีดปลายแหลมไล่จะทำร้ายแม่แต่คลิปที่ถือมีดเป็นกล้องตัวในบ้าน ตนเองไม่สามารถดูย้อนหลังทางโทรศัพท์ได้ โดยในคลิปมีทั้งยาย หลานชาย 2 คน และเพื่อนบ้านมากอดแม่เอาไว้เพราะคิดจะฆ่าตัวตายหนีลูกชายตัวเองที่ติดยาเสพติดอย่างหนัก ตอนนี้ชีวิตหนูไม่มีทางเลือกแล้วค่ะพี่ มันพังลงหมดแล้ว หนูอยากตายวันล่ะหลายร้อยครั้งเลยค่ะพี่หนูพูดจากใจจริงเลยหนูห่วงชีวิตลูกหนูมากถ้าลูกหนูเป็นอะไรหนูคงไม่อยู่แน่ๆค่ะพี่



ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2565 พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงษ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพร้อมอุปกรณ์ระงับเหตุ ลงพื้นที่ ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อระงับเหตุชายคุ้มคลั่ง ทำร้ายคนในบ้าน



ซึ่งเมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวก็พบกับ นางกัลยา 54 ปี เจ้าของบ้านและเป็นมารดาของชายคุ้มคลั่ง ชื่อว่า นายเอ (นามสมุติ) อายุ 29 ปี แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่บ้านนั้น อาการคุ้มคลั่งสงบแล้ว และนอนหลับในห้องนอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปลุกให้ตื่นและเชิญตัวไปสอบสวน และตรวจร่างกายที่รพ.บ้านไผ่ ก่อนส่งตัวเข้าสู่ขบวนการรักษาผู้ป่วยทางจิตเวช



พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงษ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวถึงการลงพื้นที่และควบคุมทตัวชายรายดังกล่าวส่งตัวไปรักษาในครั้งนี้ เนื่องจากว่า มีพี่สาวที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาว่า น้องชายติดสารเสพติด อาละวาดขู่บังคับ ขอเงินแม่วันละ 500-1,000 บาท เอาไปซื้อสารเสพติด เมื่อไม่ได้ดังใจก็จะอาละวาด ทำร้ายแม่ จนแม่ต้องพาหลานชาย 2 คนหนีตายออกทางหน้าต่าง ไปขออาศัยอยู่บ้านคนอื่น บางครั้งก็คุ้มคลั่งทำลายสิ่งของและร้านค้าของแม่



เมื่อรับทราบรายละเอียดดังกล่าว จึงนำทีมสายตรวจพร้อมอุปกรณ์ ระงับเหตุลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว ก็พบกับแม่ ส่วนลูกชายนอนในห้อง จึงปลุกขึ้นมาสอบถาม ซึ่งยอมรับว่า ก่อเหตุจริง แต่ในเบื้องต้นมีอาการสงบ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวไปพบแพทย์ เพื่อเข้าสู่ขบวนการรักษาทางจิตเวช ซึ่งขณะนี้การตรวจร่างกายผ่านไปด้วยดี และอยู่ระหว่างการส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.จิตเวชราชนครินทร์ ซึ่งก็หวังว่าเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการรักษา นายเอกลับมาอยู่บ้าน จะกินยาตามแพทย์สั่ง และไม่หวนคืนไปยุ่งกับสารเสพติดอีก