อาชญากรรม

จับตำรวจเชียงราย 4 นายรับเงิน เปิดทางแก๊งจีนถ่ายหนังโป๊ไลฟ์สด

โดย taweelap_b

24 มิ.ย. 2565

12.2K views

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จิระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมแถลงดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจพบว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งชาวจีน ลวงหญิงสาวชาวสปป.ลาว ถ่ายทำคลิปการร่วมเพศ หรือ หนังโป๊ ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย ในวันที่ 26 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา เพื่อขายทางแอปพลิเคชันออนไลน์


ทั้งนี้ มีนายตำรวจถูกดำเนินคดีจำนวน 4 นาย เป็นระดับยศ พ.ต.ท. ปฏิบัติหน้าที่ใน จ.เชียงราย อายุ 42 ปี และระดับ ร.ต.อ.อีก 2 นาย อายุ 48 ปีและ 50 ปีตามลำดับ รวมถึงตำรวจชั้นประทวนยศ ส.ต.อ. อายุ 30 ปี จำนวน 1 นาย ในเบื้องต้นมีการแจ้งข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือมาหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”


สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กก.4 บก.สอท.4 สืบทราบว่าได้มีกลุ่มคนจีนลักลอบถ่ายทอดสด หนังโป๊ในบ้านพัก 4 หลัง พื้นที่ดอยเขาควาย อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้สืบหาข่าวอย่างต่อเนื่อง ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค.65 กระทั่งวันที่ 31 มี.ค.65 พ.ต.ท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านทั้ง 4 หลัง พบอุปกรณ์การไลฟ์สด เช่น โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ถุงยางอนามัย อุปกรณ์ทางเพศ หรือ Sex toy และตรวจพบบุคคลต่างด้าวภายในด้วย แต่ไม่มีการดำเนินคดีกับบุคคลใด และรายงานผลตามหมายค้นว่าไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย


ต่อมาทางตำรวจ สอท. หรือตำรวจไซเบอร์ สืบทราบว่าหลังจากนั้นได้มีชายชื่อนายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาสถานที่ในการถ่ายทำไลฟ์สด ได้ไปถอนเงินสดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สาขาเชียงราย จำนวน 800,000 บาท เพื่อนำไปให้กับตำรวจชุดหนึ่งในวันที่ 1 เม.ย.65 และวันที่ 4 เม.ย.65 ได้เดินทางไปรับอุปกรณ์ที่ถูกยึดไว้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งใน จ.เชียงราย และวันที่ 11 เม.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. สืบทราบอีกว่ากลุ่มแก๊งชาวจีนดังกล่าวได้ทำการถ่ายหนังโป้แบบไลฟ์สดกันอีก ก่อนที่นายอนุสรณ์จะไปถอนเงินที่เดิม จำนวน 180,000 บาท เพื่อนำไปมอบให้กับตำรวจ จำนวน 100,000 บาท


กระทั่งวันที่ 20 เม.ย. 65 แก๊งชาวจีนดังกล่าวได้ย้ายไปเช่าโฮมสเตย์ในพื้นที่ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย และนายอนุสรณ์ ได้ไปถอนเงินสด 180,000 บาท ไปมอบให้กับตำรวจชุดหนึ่งที่ร้านกาแฟพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จำนวน 100,000 บาท


ต่อมาวันที่ 26 พ.ค.65 ตำรวจ สอท. สืบทราบอย่างชัดเจนว่าแก๊งชาวจีนได้นำหญิงสาวชาวไทยและสปป.ลาว หลายคนไปทำการถ่ายทำหนังโป๊แบบไลฟ์สดอีกครั้ง จึงนำกำลังบุกเข้าจู่โจมตรวจค้นภายในรีสอร์ต ซึ่งสามารถจับกุมนายซังเกอร์ อายุ 47 ปี คนดูแลการไลฟ์สด แต่ผู้จัดการถ่ายทำทราบชื่อต่อมาว่านายเออเกอร์ หลบหนีไปได้


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.สอท.4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถจับกุมตัวหญิงไทย 2 คนที่เป็นผู้จัดหานักแสดงหนังโป๊ชาวไทย และสาวสปป.ลาว นายอนุสรณ์ ที่เป็นคนจัดหาสถานที่และประสานงานระหว่างแก๊งชาวจีนและตำรวจบางชุดเอาไว้ได้ โดยนักแสดงหนังโป๊ชาวไทยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ เป็นชายอายุ 31 ปี หญิงอายุ 25 ปี และอายุ 22 ปี ส่วนชาวจีนเป็นชายอายุ 22 ปี อายุ 20 ปี อายุ 34 ปี อายุ 32 ปี อายุ 30 ปี อายุ 30 ปี และอายุ 25 ปี ขณะที่ชาวสปป.ลาว เป็นหญิงสาวอายุ 20 ปี และอายุ 17 ปีตามลำดับ


เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับแก๊งชาวจีนในข้อหา “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าเพื่อแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลฯ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”


จากนั้นได้ขยายผลทราบว่ามีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางชุดในพื้นที่ เพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดีขณะถ่ายทำหนังโป๊ผ่านระบบออนไลน์ไปให้กับกลุ่มสมาชิกที่จ่ายเงินดูทางแอปพลิเคชันของจีน ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงอำนวยการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายตำรวจจำนวน 3 นาย และตำรวจชั้นประทวนอีก 1 นายดังกล่าว


พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ โดยได้มีการประชุมเร่งรัดและติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องต้องหาได้เพิ่มเติมจำนวนมาก ได้มีการกำชับชุดพนักงานสอบสวนให้มีความรัดกุมในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งให้มีความละเอียดรอบคอบและใช้หลักผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางในการสอบปากคำเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังได้มีการสืบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์และไม่จับกุมผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้น หากพบว่ามีการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริงจะดำเนินการทั้งทางวินัยและกฎหมายโดยเด็ดขาด

คุณอาจสนใจ