สารวัตรสืบฯระงับเหตุคนคลั่งยา ถูกปังตอสับหัวลึกถึงสมองเข้าไอซียู

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 65 เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย เปิดเผยถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ไชยยันต์ กุลแก้ว สว.สส.สภ.โคกโพธิ์ไชย ถูกนายสุพัฒน์ ทัดเที่ยง อายุ 37 ปี ชาวต.โพธิ์ไชย อ.อโคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นคนติดยาบ้า เกิดอาการคลั่งฟันศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ ขณะเข้าระงับเหตุ จนถูกนำตัวเข้ารักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 20 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์ไชย รับแจ้งเหตุ ชายคลั่งที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โพธิ์ไชย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงนำอุปกรณ์ออกไประงับเหตุ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลโพธิ์ไชย ร่วมระงับเหตุด้วย

เมื่อถึงบ้านที่เกิดเหตุ จุดที่มีชายรายดังกล่าวคลั่งนั้น ปรากฏว่าชายคลั่งกำลังถือมีดอีโต้อยู่ในมือทั้ง 2 ข้าง และอาละวาดอยู่ริมถนน ซึ่งเป็นช่วง พ.ต.ท.ไชยยันต์ ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ทราบเหตุการณ์ จึงเข้ามาช่วยระงับเหตุด้วย โดยนำเหล็กง่ามเข้ามาระงับชายคลั่ง จนเกิดการยื้อยุดกันไปมา ทำให้พ.ต.ท.ไชยยันต์ พลาดล้ม ชายคลั่งจึงใช้มีดอีโต้ฟันที่ศีรษะ 1 ครั้ง และกำลังจะฟันซ้ำอีก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าระงับเหตุได้ทัน ด้วยการใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ชายคลั่งจนล้มลงกับพื้นถนน จากนั้นจึงช่วยกันเข้าไปจับตัวไว้ และนำตัว พ.ต.ท.ไชยยันต์ ออกมา ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพมารับตัวส่งไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ เป็นการด่วน

ส่วนชายคลั่ง มีสติฟื้นกลับมา เพราะมีคนทำสายสัญญาณของกระสุนไฟฟ้าขาด ชายคลั่งจึงลุกขึ้นวิ่งหนีไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน จากอู่ซ่อมรถยนต์ในหมู่บ้าน ขี่หลบหนีไป ต่อมาเวลา 22.00 น. ในคืนวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.มัญจาคีรี ว่ามีคนขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ติดทะเบียน มาขอความช่วยเหลือ แจ้งว่าถูกคนไล่ทำร้ายและรถจักรยานยนต์ล้ม ต้องการให้แพทย์รักษาบาดแผล แต่เนื่องจากที่บริเวณหางคิ้วขวามีวัตถุคล้ายกระสุนไฟฟ้าติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันที่ถูกชายคลั่งขโมยไปจริง ส่วนชายคลั่งรักษาตัวที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น

พ.ต.อ.ชลิต กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ไชยยันต์ รักษาอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ศรีนครินทร์ เนื่องจากถูกฟันที่ศีรษะซีกซ้ายเป็นแผลลึกถึงสมอง มีเลือดออกในสมอง รอการผ่าตัดอยู่ ส่วนนายสุพัฒน์ ทัดเที่ยง อายุ 37 ปี ชายคลั่งนั้น รักษาตัวอยู่ที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ เพื่อจับกุมตัวในข้อหา ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุอันสมควร และข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งขณะนี้ก็ได้อายัดตัวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อหมายจับออกมาก็จะจับกุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบว่าบนถนนเต็มไปด้วยคราบเลือด มีเจ้าหน้าที่ของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลโพธิ์ไชย

นายวิทยา พิลาดี อายุ 34 ปี เจ้าพนักงานป้องกันเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย กล่าวว่า หากมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชุมชน หมู่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบ พนักงานป้องกันเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย จะออกมาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อระงับเหตุ ในครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อรับแจ้งเหตุจากชาวบ้าน ก็รีบออกมาดู มาร่วมกับตำรวจเข้าระงับเหตุ แต่ชายคลั่งมีอาวุธมีดอีโต้ถืออยู่ จึงลำบากที่จะล็อกตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้เหล็กง่ามและอุปกรณ์ระงับเหตุ เข้าควบคุม ซึ่งในช่วงที่พ.ต.ท.ไชยยันต์ ใช้เหล็กง่ามค้ำตัวาชายคลั่งไว้นั้น ปรากฏว่าชายคลั่งสู้ ทำให้พ.ต.ท.ไชยยันต์ ล้มและถูกฟันที่ศีรษะ จนต้องนำส่งโรงพยาบาล ส่วนชายคลั่งถูกยิงด้วยปืนไฟฟ้าจนล้มฟุบกับพื้น แต่ช่วงชุลมุนทำให้มีคนสะดุดสายนำกระแสไฟฟ้าขาด ชายคลั่งจึงฟื้นและวิ่งหลบหนีไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านแล้วขี่หลบหนีไป

นางประยวน ทัดเที่ยง อายุ 66 ปี มารดาของชายคลั่ง เปิดเผยว่า ลูกชายติดยาบ้าอย่างหนัก คลั่งเช่นนี้มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ขอเงินทุกวัน ๆ ละ 100-200 บาท หากไม่ได้ก็อาละวาด เป็นลูกที่ไม่เคยสร้างคุณงามความดี ให้พ่อแม่ภูมิใจ ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ขอเงินทั้งวัน เมื่อไม่ได้ก็เริ่มหาอาวุธในบ้าน และกลายเป็นอาละวาดคลั่ง จึงต้องแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ และก่อเหตุฟันศีรษะตำรวจ จึงอยากให้ตำรวจจับกุมตัวไป ดำเนินคดีตามกฎหมาย หากกลับตัวเป็นคนดี ค่อยกลับมาอยู่บ้าน ถ้าอาการยังไม่ดี ก็ขอให้คุมขังตลอดไป

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังไปที่อู่ซ่อมรถยนต์ช่างเขียว เซอร์วิส ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พบกับนายบุญเกิด แก้วมูลมา อายุ 43 ปี เจ้าของอู่ซ่อม กล่าวว่า มีลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ที่จอดซ่อมภายในอู่ ขี่รถจักรยานยนต์มาดูรถของตัวเอง ขณะกำลังดูรถในอู่ ก็ถูกขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าอู่ซ่อมรถไป ซึ่งทราบว่า ตำรวจตามพบรถและคืนให้กับเจ้าของรถเรียบร้อยแล้ว