สาวไทยไปทำงานโอมาน ถูกสามีทำร้าย จับโยนตึกดับ เพื่อนขอความเป็นธรรม-นำศพกลับไทย

สลด สาวไทยชาวสกลนคร ดับปริศนาที่โอมาน หลังถูกสามีโหดทำร้ายร่างกาย ก่อนตกตึกเสียชีวิต เพื่อนร้องขอความเป็นธรรม วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยส่งร่างกลับไทย บำเพ็ญกุศลบ้านเกิด

จากการณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pawarisa Oil ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า

“R.I.P แพรว #เพื่อนโดนโยนลงตึกโอมาน ใครมีแฟนที่โอมานอย่ามี อย่าไปทำงานประเทศนี้คนมันเหี้ย หญิงไทยที่มีเยอะมันมีแต่แมงดา มันฆ่าหญิงไทย แบบเหี้ยมาก เที่ยงวันนี้เพื่อนกูกินข้าวข้างล่างตึก ไม่รู้ว่าทะเลาะไร มีคนเห็นมันตีเพื่อนกูในลิฟต์ ขึ้นไปมันก็ตี ตีเสร็จ มันโยนเพื่อนกูลงตึก

#ตอนนี้กูอยากเอาศพเพื่อนกูกลับบ้าน แพรวไม่น่าไปตาย แบบนี้ต่างบ้าน หากมีเพื่อนคนไหนอยากช่วยบริจาคขนศพ ช่วยแพรวทีนะ สงสารแพรวค่าขนส่งศพแพง

#กูทำใจไม่ได้ อยากให้แพรวกลับบ้าน แพรวตัวเล็กๆมันทำกับแพรวแบบนี้ได้ไง หญิงไทย ไม่ควรมีใครโดนมันโยนทิ้งลงตึกอีก

#อย่าไปมันโหดร้ายมาก เตือนภัย #ดูหน้าคนเหี้ยนี่ไว้โยนผู้หญิง ตัวเล็กๆ ลงตึก มึงจะทะเลาะกับเพื่อนกูแค่ไหนมึงก็ไม่ควรฆ่าเขา เพื่อนกูเป็นเสาร์หลักของทางบ้านทำงานส่งเงินให้พ่อให้ลูกมึงมาโยนเขาแบบนี้ได้ไงไอ้เหี้ย ขอให้มึงชิบหาย

#ทิ้งเลขบันชีพี่สาวแพรวไว้เผื่อมีคนอยากช่วยขนศพถือว่าทำบุญ ตอนนี้อารมณ์ ทั้งอยากร้องไห้ ทั้งโมโห ทั้งโกรธ ตัวสั่นไปหมดแล้ว ใครที่ร่วมบริจาคขอบคุณแทนเพื่อนด้วยนะคะ แพรวเขาเป็นคนน่ารักตลก รักเพื่อน ใจดี เขาลำบากจน ทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อป่วยติดเตียงและลูก เขาคือเสาหลักไม่อยากให้พ่อรู้ว่าแพรวตายกลัวแกทรุด

#คนดีๆเลี้ยงพ่อ เลี้ยงครอบครัวควรมาเจออะไรแบบนี้มั้ย ชีวิตเขาน่าสงสารนะลำบากหาเงินเลี้ยงครอบครัว แถมเป็นคนน่ารัก ทำไมถึงโหดได้ขนาดนี้ #เพิ่มเติมขอลบรูปหน้าผู้ชายออกนะคะ เดี๋ยวจะหามาลงให้ดูใหม่”

ด้านความคืบหน้า วานนี้ (29 พ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านน้ำพุงสามัคคี ต.เต่างอย อ.เต่างอย จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านของน้องแพรว หรือน.ส. ศุภรัตน์ งันลาโสม อายุ 30 ปี เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ โดยน้องแพรวอาศัยอยู่กับ นางคุณาทัย มานันที อายุ 34 ปี และได้พบกับ นางจำเนียร หาแก่น อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นน้องของแม่น้องแพรวที่เสียชีวิต

โดยนางจำเนียร บอกว่า น้องแพรวหลานสาวของตน มีบุตรชายและหญิง เลิกกับสามี และได้ไปทำงานที่ประเทศโอมานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็เดินทางกลับมาบ้านเป็นบางโอกาส แต่เมื่อได้รับแจ้งว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว จึงได้มาดูช่วยเผื่อว่าจะช่วยได้บ้าง

ซึ่งแม่น้องแพรวเสียชีวิต เหลือแต่พ่อที่ป่วยจิตเวช เมื่อแจ้งข่าวให้ทราบก็ร้องไห้ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ บอกเพียงว่า รอพ่อ เดี๋ยวพ่อจะตามไป ญาติพี่น้องจึงเฝ้าระวังเกรงว่าจะคิดสั้น ส่วนพี่สาวของน้องแพรวเดินทางไปรับเพื่อนของน้องแพรวที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อมาเตรียมการงานศพ เมื่อศพกลับมาถึงบ้าน

อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบรายละเอียดต้องรอนางคุณาทัยกลับมาก่อน สำหรับข่าวการเสียชีวิตของน้องแพรว ได้แพร่กระจายไปยังโลกโซเชียลและรับรู้ไปยังอำเภอเต่างอย ท่ามกลางการสาปแช่งของผู้ที่รับทราบข่าวนี้

ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นางคุณาทัย มานันที พร้อมด้วย น.ส.ปวริศา มุ่งงาม อายุ 20 ปี เพื่อนสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาถึงบ้านเพื่อเตรียมรับศพ และเปิดเผยว่า เพื่อนคนนี้หนูรักมากจึงได้ติดต่อญาติของเพื่อน เพื่อบอกเรื่องราวให้ทราบว่าจอย หรือแพรว เสียชีวิตแล้ว

โดยสาเหตุมีคลิปเสียงจากเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกันบอกว่า น้องจอยหรือแพรว ทะเลาะกัน จึงถูกสามีตีจากชั้นล่างไปจนถึงชั้น 4 แล้วหันมาดูอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว ไม่รู้ว่าถูกผลักหรือจับโยนก็ไม่ทราบ จึงอยากรู้ว่าคดีนี้เป็นอย่างไร นำคนที่กระทำมาลงโทษหรือไม่ อยากฝากหน่วยงานตรวจสอบด้วย เพราะอยากนำศพกลับไทยไม่ใช่เอากระดูกกลับมา ซึ่งในการนำศพกลับมาต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 150,000 บาท

ขณะนี้เงินที่ได้จากการบริจาคเพื่อนำศพกลับมา มีอยู่ 90,000 บาท แต่มีแม่แอน และนักร้องเพชร สหรัฐ จะช่วยซึ่งก็ขอขอบคุณ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่ ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เพื่อหาทางประสานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง นำศพของน้องแพรวกลับมาบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป

ล่าสุด มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Natalie Neeraphattanakoon ได้ทำการโพสต์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยระบุว่า “ถึงน้อง Pawarisa Oil นะค่ะ การที่น้องโพสต์เรื่อง น้องแพรวที่เสียชีวิตในประเทศโอมาน พี่เข้าใจค่ะว่าน้องเป็นเพื่อนของน้องแพรวผู้เสียชีวิต ต้องการความยุติธรรมให้กับคนตาย แต่!!!กรุณาเถอะค่ะ เอาความเป็นจริงออกมาเปิดเผย ออกมาพูดค่ะ ไม่ใช่เอาสิ่งที่น้องรู้ไม่จริงเอาไปเปิดเผย พี่เป็นคนหนึ่งที่รู้จักกับน้องแพรวผู้เสียชีวิต และรู้เห็นการทำงานของตำรวจที่นี้ การที่น้องได้ออกให้สัมภาษณ์กับทางสื่อต่าง พี่ขอชีแจงความเป็นจริงดังนี้ค่ะ

1. น้องบอกว่าเป็นคนติดต่อกับทางญาติผู้เสียชีวิต แต่ในความเป็นจริง #พวกเพื่อนๆและพี่ได้ติดต่อไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่น้องจะออกมาให้สัมภาษณ์กับทางสื่อ ซึ่งตอนนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับการสื่อสารประสานงาน เพราะน้องไม่รู้ความเป็นจริง

2. #ไม่มีการเผาศพของน้องผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ศพยังอยู่กับทางตำรวจซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีน้องโดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ได้เกิดความเข้าใจผิดกับทางญาติผู้เสียชีวิตเพราะน้องให้ออกมาสัมภาษณ์โดยไม่รู้ความเป็นจริง

3. #แฟนของน้องแพรวผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบตัวกับทางตำรวจตั้งแต่วันเกิดเหตุ ไม่มีการหลบหนีหรือลอยนวลแต่อย่างใด ซึ่งไม่เป็นความจริงที่น้องให้ออกมาสัมภาษณ์กับทางสื่อว่าผู้ต้องหาได้ลอยนวล

4. #เพื่อนของน้องผู้เสียชีวิตบอกกับน้องว่าอยู่ในเหตุการณ์แล้วเป็นคนเล่าเรื่องให้น้องฟัง ในขณะนี้เพื่อนน้องผู้เสียชีวิตยังไม่ได้มีการออกมาให้การแก่ตำรวจแต่อย่างใดทั้งนั้น ซึ่งไม่เป็นจริงที่น้องให้สัมภาษณ์กับทางสื่อแต่อย่างใด

5.#ไม่มีการนั่งทานข้าวข้างล่างตอนเวลาตอนเที่ยงแต่อย่างใด ตามที่น้องให้การกับทางสื่อ ซึ่งความเป็นจริงคือ ร้านอาหารเปิดตอนบ่ายโมง!!!

ณ ขณะนี้ทางคนไทยในโอมาน ได้ติดตามสถานการณ์เรื่องน้องแพรวผู้เสียชีวิตโดยตลอด ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ได้สรุปสำนวนคดีหรือปิดคดีแต่อย่างใด

ทางนี้เราทุกคนก็อยากให้เกิดความยุติธรรมกับน้องแพรวผู้เสียชีวิตเหมือนกับน้องออยเหมือนกัน แต่อยากให้ทางน้องออย #ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อด้วยความเป็นจริง!!

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AvDmIzaMbWU