อาชญากรรม

แม่ไม่พร้อมตอบปมส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค อัจฉริยะ ลั่นไม่เชื่อจะกู้คลิป-ภาพคืนได้

โดย taweelap_b

27 พ.ค. 2565

51 views

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 65 ที่อาคารรัฐสภา นางภนิดา แม่ของสาวแตงโม แถลงข่าวร่วมกับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ และทีมทนายของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หลังจากแม่ของสาวแตงโม ออกมายอมรับว่าส่งโทรศัพท์มือถือขงลูกสาวไปให้บังแจ็คที่สหรัฐ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น


นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าคุณแม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องคดีฆาตกรรมอำพราง และขณะนี้อัยการจึงให้มีคำสั่งเลื่อนรับฟังคำสั่งฟ้อง สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ แนวทางของการฟ้องร้องคดีที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม แต่บางส่วนก็ไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนดูได้ ตนได้เชิญอดีตผู้พิพากษา ซึ่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ร่างคำฟ้องในคคีฆาตกรรมอำพราง ส่วนผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาอาชีพซึ่งจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษา ประมาณ 15 คน ทั้งหมอพรทิพย์ และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ ที่ยืนยันว่าไม่ได้ตกท้ายเรือ และผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบ GPS


ที่ผ่านมาคุณแม่เสียเวลาไปมากแล้ว เพราะคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุจากการนั่งปัสสาวะท้ายเรือจนพลัดตกน้ำเสียชีวิต เมื่อตนได้รับมอบอำอาจจากคุณแม่ ก็จะทำงานได้ง่ายมากขึ้น วันจันทร์นี้จะใช้โดรนสำรวจใต้น้ำหาวัตุสำคัญในทางคดี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ในวันนั้นก็จะมีพยาน 2 คน มาชี้จุด แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจออะไรมาก ซึ่งโดรนใต้น้ำไม่มีใครเคยใช้มาก่อน คดีนี้เป็นครั้งแรกที่นำมาใช้


นอกจากนี้ การที่อัยการรับข้อเสนอ 8 ข้อของตน และมีคำสั่งเลื่อนรับฟังคำสั่งฟ้อง นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะท่านอัยการจะได้เห็นอะไรมากมายว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ ต่อไปตนจะดำเนินคดีกับพยานเท็จที่เราตรวจสอบได้ ซึ่งตำรวจนำมาอ้างอิงเรียกว่าเป็นพยานปั้นขึ้นมา หรือพยานปรุงแต่ง คนเหล่านี้ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตนยังไม่สามารถเปิดเผยทั้ง 8 ข้อได้ เพราะตนกำลังสู้กับหลาย ๆ คน แต่วัตถุประคงค์ คือ ให้ความยุติธรรมกับคนตาย มีตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ไปบอกกรรมาธิการชุดหมอพรทิพย์ ว่ามีแก้วบนเรือแตก 1 ใบ แต่ไม่ให้พฐ.เก็บ


"ถ้าวันนี้ท่านอัยกรเล็งเห็นถึงทั้ง 8 ข้อ ก็จะได้ข้อเท็จจริงว่าคดีไม่ใช่ข้อหาประมาท ซึ่งเป็นข้อหาสถานเบา ถ้ามีการสอบ 8 ข้อ ก็สามารถแจ้งข้อหาฆาตกรรมอำพรางได้ วันนี้คุณแม่ก็เหมือนแม่ของผมคนหนึ่ง น้องโมก็เป็นลูกผมได้ ผมอายุ 55 แล้ว ผมทำคดีเพื่อประเทศชาติ"  นายอัจฉริยะ กล่าว


นายอัจฉริยะ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนทราบจากแม่ว่าเหตุผลที่ให้กู้ภาพต่าง ๆ เพราะมีคลิปวิดีโอถูกลบออกไป 2 คลิป และภาพอีก 550 ภาพ เรื่องนี้ไม่ได้จะแบล็กเมลใครอย่างแน่นอน ตนก็ควบคุมบังแจ็คไม่ได้ เพราะโทรศัท์อยู่ในมือของเขา ก็รอดูว่ามันจะเป็นจริงตามที่บังแจ็คอ้างว่ากู้คืนได้ 4 หมื่นภาพหรือไม่ เพราะตนก็ยังไม่เชื่อ ดังนั้น ในวันที่ 2 มิ.ย. 65 ตนและคุณแม่จะไปแถงข่าวเรื่องนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ตนคิดว่าข้อครหาต่าง ๆ จะให้ตำรวจไซเบอร์เป็นผู้แถลง ทุกคนจะได้สิ้นสงสัยเสียทีว่าตนทำงานร่วมมือกับบังแจ็คหรือเปล่า ไม่ใช่วันนี้เลี่ยงตอบคำถาม แต่ต้องเข้าใจว่าแม่โดนโจมตีอย่างหนัก จึงต้องรอดูต่อไป แต่วันนี้แม่ยังทำใจไม่ได้ ร้องเพลงยังผิดเลย แม่ถูกบีบกั้นทุกอย่าง ตนก็จะได้ทวงถามบังแจ็คด้วยว่าทำได้จริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ทวงโทรศัพ์คืนมา 

คุณอาจสนใจ

Related News