อาชญากรรม

ผู้การฯ นครปฐมขอโทษแทนลูกน้อง เล็งเอาผิดทั้งวินัย-อาญา สอนผู้กองเท้าโหดใกล้เกษียณทำไม่ถูกต้อง

โดย taweelap_b

21 พ.ค. 2565

3.1K views

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ สภ.สามพราน จ.นครปฐม นำโดย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม แถลงข่าวความคืบหน้ากรณี ตำรวจสภ.สามพราน จำนวน 2 นาย ที่รุมกระทืบวัยรุ่น กล่าวว่า ในจุดเกิดเหตุตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้นั้น มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกันเพื่อแข่งรถเป็นประจำ ๆ ตำรวจจึงมีแผนสกัดจับเตรียมไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีภาพปรากฏออกไปไม่เหมาะสม ตนก็ต้องออกมาขอโทษสังคมและพี่น้องประชาชน ทันทีที่ตนทราบเรื่องก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้ว หลังจากนี้ต่อไปก็จะต้องสอบปากคำวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บ และดำเนิคดีตามกฎหมายกับตำรวจ 2 นาย ทั้งทางวินัยและอาญา ไม่มีการละเว้นหรือเลี่ยงปฏิบัติอย่างแน่นอน


ทั้งนี้ ตนขอชี้แจงว่าปกติแล้วการทำงานของตำรวจ เมื่อทราบว่ากลุ่มเด็กแว้นที่มักจะแข่งรถกันได้นัดหมายในกลุ่มส่วนตัว ก็จะมีแผนสกัดจับกุม เพราะการไล่จับบนท้องถนนต้องใช้กำลังตำรวจเยอะ และต้องปิดล้อมอย่างดี ไม่เช่นนั้นจะเกิดอุบัติเหตุได้ และกระทบกับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ตำรวจ 2 นายที่รุมกระทืบวัยรุ่น พบว่าจากการตรวจค้นตัวไปเจออาวุธปืน อาจจะเข้าใจผิดว่าในคืนเกิดเหตุเป็นเด็กแว้น ส่วนคู่กรณีของวัยรุ่นก็ยังจับไม่ได้ เพราะพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ดังนั้นในรายละเอียดอื่น ๆ จะต้องรอสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หากในวันนี้สอบแล้วเสร็จและเข้าข่ายความผิดข้อใด ตนก็จะสั่งดำเนินคดีกับลูกน้องทันที


"ที่ผมขอโทษไป ขอเรียนว่าผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมก็สงสัยว่าผู้กองที่ก่อเหตุ อายุใกล้จะเกษียณแล้ว ทำไมไม่ใช้อุดมการณ์ที่สั่งสมมา ทำไมไม่ระมัดระวังให้มากกว่านี้ เมื่อภาพปรากฏออกมแบบนี้ ก็จะต้องสอบในรายละเอียดให้ได้ข้อเท็จริงทั้งหมด ดังนั้นตำรวจจะต้องอดทนต่อความเจ็บใจ และไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก คุณทำงานมา 30-40 ปี ตลอดชีวิตอดทนมาเสมอ ใกล้จะเกษียญแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง ตำรวจต้องใส่ใจประชาชน เราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่สนใจพี่น้องประชาชน"  พล.ต.ต.ชมชวิณ กล่าว 


ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.สามพราน กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจทั้ง 2 นาย ตนรู้สึกเสียใจ และต้องยอมรับว่าดูแลลูกน้องไม่ดีจนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนขอเรียนให้ทราบว่าตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าลูกน้องจะมีข้ออ้างอย่างไรก็จะต้องว่ากันไปตามขั้นตอน สิ่งที่ผู้กระทำควมผิดทุกคนจะต้องเกรงกลัวก็คือกฎหมาย ถ้าตำรวจทำผิดก็จะถูกกฎหมายดำเนินคดีเช่นกัน นอกจากนี้ ตนขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ ไม่เคยไปขอให้ลบคลิปกลองวงจรปิด เพราะไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจดีขึ้น ในวันนี้การสอบสวนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 2 นายไม่ว่าจะมีข้อแก้ตัวอย่างไร ก็จะรับฟัง รวมทั้งข้อมูลฝั่งผู้เสียหายก็จะต้องรวบรวมให้ครบถ้วนเช่นเดียวกัน

คุณอาจสนใจ

Related News