อาชญากรรม

ปิดคดี 'ฆ่ายายยัดถัง' หลานสารภาพ 'วางแผนฆ่า' - แม่ฝ่ายชาย ยันลูกเป็นคนดี แต่โดนผู้หญิงหลอก

โดย thichaphat_d

18 ก.พ. 2565

1.3K views

เมื่อเวลา 15:00 น. วานนี้ (17 ก.พ. 65) พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง


ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายปฏิพล จันทรมณฑล หรือพล อายุ 23 ปี และหญิง 1 ราย น.ส.อร (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ตามหมายจับศาลสุพรรณบุรี และ ศาลเด็กและเยาวชน ในคดีฆาตกรรมอำพราง กรณีพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในถังขยะพลาสติกสีน้ำเงิน ที่บริเวณชายเขาชะโอย จ.สุพรรณบุรี ทราบภายหลังว่าผู้เสียชีวิตชื่อนางสมศรี ม่ามกระโทก หรือยายหวาน อายุ 62 ปี โดยใช้เวลาสอบผู้ต้องหาเพิ่มเติมกว่า 30 นาที


พล.ต.ท.ธนายุตม์ ผบช.ภ 7 ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพ ว่าร่วมกันวางแผนก่อนลงมือฆ่ายายหวาน ซึ่งได้ก่อเหตุในห้องพักที่ จ.นครราชสีมา และนำศพมาทิ้งไว้ในดงหญ้า บริเวณลานดินของเอกชนที่ชายเขาชะโอย จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากฝ่ายชายเคยมาเรียนหนังสือในพื้นที่ อ.สามชุก มาก่อน


จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเดิมที่แจ้งไว้ 2 ข้อหาคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายศพ และต้องของแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต เราจะเร่งสรุปคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทางผู้ตาย และต้องขอขอบคุณทีมสืบสวนที่เร่งรัดจนปิดคดีได้โดยเร็ว


พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า น.ส.เอ ได้เห็นเงินในบัญชีของผู้ตาย ซึ่งนายดำรง (สามีผู้ตาย) บอกเป็นเงินที่กู้มาจากที่ทำงาน 100,000 บาท พอหลานเห็นเงินจึงได้วางแผนที่จะฆ่ายาย แต่นี่คือคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง ตอนนี้จากการสอบสวนก็ร่วมกันฆ่า จากการไปตรวจที่ห้องเช่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลับฐานพบคราบเลือด และวัตถุพยานเพิ่มเติม ตอนนี้กำลังหาเชือกที่ใช้รัดคอว่านำไปทิ้งที่ไหน


จากการสอบปากคำเพิ่มเติมนายพล อ้างว่ารู้จักกับ น.ส.อร มาประมาณ 1 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊ก และเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกในวันที่เกิดเหตุ และ น.ส.อร (นามสมมุติ) ได้แบ่งเงินมาให้ 30,000 บาท ส่วนเรื่องอื่นตอนนี้อยู่ในขั้นสอบสวนเพิ่มเติม หลังก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาช่วยกันนำศพที่มัดไว้แล้วขนขึ้นรถกระบะ และวางไว้หลังเบาะ โดยเอนเบาะมานิดนึง


ส่วน น.ส.อร (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นหลานสาวของนางสมศรี ทราบว่า อยากมีเงินเพื่อไปลงทุน และอยากแยกตัวออกจากยาย เพราะยายเป็นคนเจ้าระเบียบ ชอบบ่นเรื่องการเรียน และเรื่องคบหาผู้ชาย  และทราบว่าตาได้ไปกู้เงินมาจากที่ทำงานประมาณ 100,000 บาท เอาเงินไปเก็บไว้ที่ยายทั้งหมด จึงวางแผนก่อนหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ โดยให้นายปฏิพล แฟนหนุ่ม ซึ่งอยู่ที่ จ.ตาก ขับรถลงมารอที่ จ.นครราชสีมา


น.ส.อร (นามสมมุติ) ได้มาเช่าห้องอยู่กับยาย เพื่อเรียนหนังสือ หลัง น.ส.อร (นามสมมุติ) เดินทางกลับมาที่ห้องเช่าพร้อมยาย หลังกลับไปบ้านที่ จ.สระบุรี


จากนั้ันเมื่อวันที่ 10 ก.พ. หลังยายหลับสนิท จึงติดต่อให้นายปฏิพลที่มารออยู่แล้ว เข้ามาหาที่ห้อง ก่อน น.ส.เอ ลงมือบีบคอยายขณะนอนหลับอยู่ และเรียกแฟนให้เข้าไปช่วยจนยายเสียชีวิต หลังจากยายเสียชีวิตก็พยายามหาที่ซ่อนเร้นอำพรางศพ จนกระทั่งมาถึงชายเขาชะโอยที่ จ.สุพรรณบุรี ก็ได้นำศพใส่ถังขยะพลาสติกที่พบกลางทางในพื้นที่ อ.สามชุก และนำมาทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว


ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ 2 ผู้ต้องหา ขณะเข้าพักที่ห้องพักแห่งหนึ่งที่อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเวลาเข้าพักเป็นช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่11 ก.พ. โดยระหว่างเข้าพักจะเห็นว่า นายปฏิพลได้เดินเอาเสื้อมาปิดตรงกระจกรถด้านซ้าย เหมือนพยามจะไม่ให้คนมองเข้าไปในรถตนเอง ซึ่งหลังจากเข้าพักไม่นานก็ขับรถออกไปช่วงเวลา 11.00 น.


และภาพอีกจุดริมถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตรถึง 900 เมตร กล้องวงจรปิดจับภาพ รถบรรทุกถังผ่านไปช่วงเวลา 13.57 น.


นอกจากนี้ ตำรวจยังพบของกลางคือ เงินสด 70,000 บาท อยู่ที่นายพล ส่วนอีก 50,000 บาทอยู่กับ น.ส.อร (นามสมมุติ) ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน คาดว่ามาจากบัตร ATM ของยาย


โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเวลา 15.30 น. ที่จุดเกิดเหตุชายเขาชะโอย ได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ทราบข่าวเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก


โดยชาวบ้านที่มาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากมาดูหน้าฆาตกร ว่าหน้าตาเป็นอย่างไรทำไมถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ ฆ่าได้แม้กระทั่งยายแท้ ๆของตัวเอง ส่วนนายพล ผู้ต้องหาไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี


ด้านนางเจริญศรี ลูกสาวยายหวาน ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.อร ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อยู่ในสภาพที่เศร้าโศกเสียใจ ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะเป็นคนวางแผนฆ่ายายแท้ๆของตัวเอง


ส่วนตัวมองว่าประเด็นการขอเงินไปตั้งตัวไม่ใช่ปมในการฆาตกรรม เพราะตนเองได้สอบถามกับลูกแล้ว แต่เป็นเพราะถูกกดดันมาตั้งแต่เด็ก และถูกกีดกันเรื่องความรัก ส่วนการดำเนินคดียืนยันว่าพร้อมที่จะให้ตำรวจดำเนินการให้ถึงที่สุดรับโทษกับสิ่งที่ทำไว้


ส่วนเรื่องประกันตัวลูกสาว คงไม่กล้าประกันออกมา เพราะตนเองและสามีต้องไปทำงาน ถ้าประกันตัวออกมาลูกต้องอยู่ตัวคนเดียว ประกอบกับสังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ เกรงว่าลูกจะมีปมด้อยและความกดดันซ้ำเติมไปอีก


ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อ้างว่าลูกสาวตนเองและยายเคยรับยารักษาอาการทางจิตนั้น นางเจริญศรี ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง มีสภาพจิตใจปกติและรักกันดี และขอยืนยันว่าน้องอร (นามสมมุติ) คือลูกสาวของตน และเป็นหลานสาวแท้ๆ ของยายหวาน


ด้านนางมะเดี่ยว แม่ของนายปฏิพล ก็ได้เดินทางมาถึงที่ สภ.เดิมบางนางบวช เมื่อเวลา 04.00 น. เมื่อวานนี้ 17 ก.พ.เช่นกัน เพื่อมารอพบลูกชาย โดยได้นำยารักษาโรคไตมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำไปให้ลูกชาย เนื่องจากลูกชายป่วยเป็นโรคไตมาตั้งแต่เด็ก พร้อมกล่าวยืนยันว่าลูกชายเป็นคนดี แต่ถูกผู้หญิงที่เพิ่งคบได้ไม่นานหลอกให้ร่วมก่อเหตุ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CdTI72C0JqU

คุณอาจสนใจ

Related News