อาชญากรรม

คุมตัวทำแผน 3 คนร้าย ลวงชายฆ่าหวังเงินประกัน 14 ล้าน รับจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ ยังหลบหนีอีก 1

โดย panwilai_c

10 มี.ค. 2568

243 views

ตำรวจ สภ.วานรนิวาส จ.สกลนคร คุมตัว 3 ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปชี้จุดเพื่อประกอบในสำนวนคดีฯ หลังตัวแทนบริษัทประกันภัยเข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบความผิดปกติฆ่าผู้อื่น เพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท



เมื่อเช้านี้ ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายสมศักดิ์ , นายพีรพัฒน์ , นายสกล ไปชี้จุดเพื่อประกอบในสำนวนคดีฯ หลังเมื่อวานนี้เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คน แล้วนายพีรพัฒน์ เปิดปากให้รับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุฆ่า นายวิเชียร โดยจุดแรกที่บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ เป็นจุดรวมตัวนัดแนะกัน มีรถยนต์ 4 คัน 1 ในนั้นเป็นรถตำรวจ นายวิเชียร ผู้ตาย มากับรถนายสมศักดิ์ หลังพูดคุยนัดแนะกันเสร็จแล้ว



จากนั้นนายสามศักดิ์กับนายพรชนก พานายวิเชียร ขึ้นรถออกไป จากนั้นประมาณ 10 นาที มีโทรศัพท์มาหานายป้อมให้ออกไปยังจุดนัดหมายได้เลย นายนายพีรพัฒน์จึงขับรถออกไปยังจุดนัดหมาย ห่างจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15 ถนนหมายเลข 2208 เส้นนาบัว-เจริญศิลป์ ที่เป็นจุดเกิดเหตุจัดฉาก



นายพีรพัฒน์ เมื่อไปถึงก็หลับตาขับรถทับร่าง นายวิเชียรตามแผนที่วางไว้ แล้วไปจอดตรงจุดสุดท้าย บริเวณทางแยกเข้าบ้านนาสมบูรณ์ หมู่ 17 ต.วานรนิวาส เพื่อรวมตัวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แล้วพากันแยกย้ายโดยนายนายพีรพัฒน์ ขับรถกลับมาจอดไว้ที่โรงน้ำ แล้วกลับบ้านไป



หลังจากเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 21.10 น. ตำรวจ สภ.วานรนิวาส ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกัน ทำให้นายวิเชียร นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้สอบสวน นายสมศักดิ์ อายุ 56 ปี ขับรถกระบะ โดยมีนายวิเชียรฯ ผู้ตายนั่งโดยสารกระบะหลังไปด้วย โดยขับจากบ้านนาบัวมุ่งหน้าไปทาง อ.เจริญศิลป์



ซึ่งขณะนั้น มีนายพรชนก อายุ 41 ปี ขับรถ ป้ายทะเบียนกาฬสินธุ์ ขับตามหลังรถของนายสมศักดิ์ไปในทางเดียวกัน โดยได้ลากจูงรถยนต์ ป้ายทะเบียนอุดรธานี ไปด้วย และมีนายพีรพัฒน์ เป็นผู้ควบคุมรถ ขณะเกิดเหตุ นายวิเชียรฯ ผู้เสียชีวิต ได้พลัดตกจากหลังรถกระบะ นายพรชนกที่ขับรถกระบะตามหลังมา เมื่อเห็นมีวัตถุตกหล่นจากรถคันหน้า จึงได้หักพวงมาลัยรถหลบพ้นร่างนายวิเชียรฯ แต่รถยนต์ที่ถูกลากจูงไปได้ทับร่างของนายวิเชียรฯ เมื่อขับรถไปได้ประมาณ 500 เมตร นายสมศักดิ์ที่ขับกระบะ ที่มีนายวิเชียรอยู่ด้านหลังกระบะ ได้จอดรถเพื่อดูนายวิเชียร แต่ที่หลังรถกระบะไม่มีนายวิเชียรอยู่แล้ว จึงได้กลับไปยังที่เกิดเหตุ ก็พบว่านายวิเชียรฯ เสียชีวิตแล้ว



ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสมศักดิ์ ,นายพรชนก , และนายพีรพัฒน์ ว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา



ต่อมา ตำรวจได้สอบสวน นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของนายวิเชียร ผู้ตาย จึงทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสกล ซึ่งเป็นญาติได้เข้ามาช่วยเหลือเกี่ยวกับเงินประกันภัยของพ่อ จึงได้พูดคุยปรับทุกข์กับนายสกล ถึงพฤติกรรมของ ผู้ตายที่ชอบทำร้ายพ่อแม่และลูกชายของ น.ส.บัวเรียน จึงได้พูดออกไปด้วยอารมณ์โมโหว่า "ช่วยเอามันไปตายไหนก็ได้เพื่อสั่งสอน" โดยไม่ได้มีเจตนาทำตามที่พูด



ต่อมาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลาก่อนเที่ยงวันนายสกล ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าจะมาเอานายวิเชียร ผู้ตายไปสั่งสอน ซึ่งวันนั้นตนไม่ได้อยู่บ้านไปตัดมันสำปะหลัง จากนั้นเวลา 23.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจแจ้งว่า นายวิเชียร ได้เกิดอุบัติเหตุตกจากรถยนต์เสียชีวิต เชื่อว่าการตายเกิดจากนายสกล เป็นผู้กระทำแน่นอน และได้มารับศพที่โรงพยาบาลเพื่อนำไปประกอบพิธี และได้เดินทางไปชี้ตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก และมีการตกลงกันว่าจะชดใช้เงินเพื่อช่วยเหลือ จำนวน 150,000 บาท ให้กับ น.ส.บัวเรียน



ขณะที่ น.ส.บัวเรียน ตำรวจมาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายวิเชียร / น.ส.บัวเรียน สำนึกผิด และสงสารที่นายวิเชียร ซึ่งน้องชายแท้ๆ เสียชีวิตโดยไม่เป็นธรรม เนื่องจากถูกนายสกล กับพวกฆ่าตาย น.ส.บัวเรียน จึงเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ความจริงที่เกิดขึ้นเพื่อประกอบการดำเนินคดี



ขณะที่ พ.ต.อ.วีระศักดิ์ พิมพ์มีลาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนบริษัทประกันภัยจากบริษัทต่างๆ ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อยื่นหนังสือให้ตรวจสอบความผิดปกติของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ. เป็นเหตุให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี ถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุ ว่ามีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุหรือไม่อย่างไร โดยพบข้อพิรุธหลายประเด็น บริษัทประกันภัยได้ตรวจสอบรถยนต์ทั้ง 3 คันแล้วว่ามีการทำประกันภัยไว้หลายกรมธรรม์ และหลายบริษัทในระยะเวลาก่อนเกิดเหตุไม่นาน คือ ภาคบังคับ 22 กรมธรรม์ วงเงินประกันภัยที่น่าจะได้รับประมาณ 14 ล้านบาท



หลังจากได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนบริษัทประกันภัยหลายแห่ง จนนำมาสู่การออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นคดีนี้น่าจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากบาดแผลของผู้เสียชีวิตมีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย หรือร่องรอยเกิดจากอุบัติเหตุก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งยังคงต้องรอผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ ส่วนผู้ร่วมขบวนการนั้นน่าจะมีมากกว่า 4 คนที่ออกหมายจับไปแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป



ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านผู้เสียชีวิต พบกับนางจันที อายุ 56 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า นายวิเชียร ผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกชายของตนนั้น มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนมีอาการก้าวร้าว มักก่อเหตุทำร้ายพ่อแม่และหลานชายที่เป็นลูกของนางสาวบัวเรียน พี่สาว อยู่เป็นประจำ และเคยนำตัวเข้ารักษามาแล้ว วันที่นายวิเชียรตาย ตอนบ่ายมีคนชื่อ เมฆซึ่งเป็นหลานเขยมารับไป โดยที่ตนก็ไม่รู้ว่าไปไหน จนกระทั่งช่วงดึกนางสาวบัวเรียน พี่สาวผู้ตายบอกกับตนว่า มีคนมาโทรมาบอกว่า นายวิเชียรตกรถจนเสียชีวิต ส่วนเรื่องประกันอะไรต่างๆ นั้น ตนเองไม่รู้ ทุกอย่างลูกสาวตนเป็นคนจัดการ



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qXvmuVgzeSQ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ฆ่าอำพราง ,ฆ่าหวังประกัน

คุณอาจสนใจ