อาชญากรรม

สะใภ้ปัด! วางยาฆ่าพี่ผัวล้างหนี้ หมอชี้ตรวจศพเจอไซยาไนด์น้อยนิด แต่ไม่ได้เสียชีวิตจากสารพิษ

โดย JitrarutP

20 ธ.ค. 2567

104 views

'นางหญิง' สะใภ้ผู้ถูกกล่าวหา ปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้วางยาเพื่อหวังล้างหนี้ ด้านผัวผู้ตายมั่นใจ เมียไม่ได้ตายเอง ก่อนออกจากบ้านยังมีอาการปกติทุกอย่าง

จากกรณีผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาครอบครัวผู้เสียชีวิตจากจังหวัดจันทบุรี ร้องกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ช่วยตรวจสอบยาพิษในเครื่องดื่ม เนื่องจากสงสัยว่า แม่และยาย ถูกวางยาพิษในเครื่องดื่มจากญาติ (ลูกสะใภ้ของยาย) เพื่อหวังเคลียร์หนี้สิน

ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับนายเหนก สามีนางสมหมาย ผู้เสียชีวิต และเป็นลูกเขยของนางช่วย ยายผู้รอดชีวิต โดยนายเหนก บอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ไม่ได้ติดต่อกับนางหญิง ซึ่งเขาอยู่กับภรรยาคนสุดท้าย ก่อนที่จะเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิต โดยนายเหนก ยังปักใจเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการวางยา โดยนางช่วยผู้เป็นแม่ยาย ถูกวางยาในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และนางหญิงน้องสะใภ้ เป็นผู้ต้องสงสัย แต่เคราะห์ดีที่แม่ยายยังรอดมาได้

ส่วนภรรยาของตนไม่รอดมีโอกาสกลับมาบอกว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่รู้ข่าวและไปดู เขาก็ธาตุแตก อึฉี่เลอะไปหมด มีหมอพยาบาลเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากเข้าไปดูก็เห็นว่านอนเกร็ง ไม่รู้สึกตัวอะไรแล้ว ตอนนี้กระดูกที่เผาก็ฝังอยู่ข้างเมรุ พร้อมให้ขุดขึ้นมาตรวจสอบตลอดเวลา ส่วนเรื่องหนี้สินที่คิดว่ามีหลายบาท รวมทั้งสร้อยคอกับเงินสดที่หายไปด้วย มั่นใจว่าไม่ได้หายไปเอง เพราะก่อนออกจากบ้านไปขึ้นรถ ก็ยังมีอาการปกติทุกอย่าง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางหญิง ผู้ถูกกล่าวหา และนายกร สามี โดยนางหญิง ปฎิเสธไม่ได้วางยานางช่วย และนางสมหมาย ยืนยันตนเองบริสุทธิ์ พร้อมกับเล่าว่า วันเกิดเหตุตนและนางสมหมายได้ชักชวนกันไปเยี่ยมนางช่วยที่โรงพยาบาล ระหว่างรอขึ้นไปเยี่ยมนางช่วย ได้ชวนกันไปนั่งกินข้าวที่โรงอาหารในโรงพยาบาล ตอนนั้นนางสมหมายเดินไปซื้อน้ำเปล่า 2 ขวด เพื่อมาดื่มกับตนคนละขวด ส่วนตนเดินไปซื้อราดหน้ามา 2 ชาม เพื่อมากินกันคนละชาม

หลังจากกินเสร็จก็ได้ขึ้นไปเยี่ยมนางช่วย ระหว่างนั้นนางสมหมายได้เดินไปกินผลไม้กินขนม ก่อนจะบอกว่า รู้สึกร้อนและเหงื่อออก จากนั้นไม่นานจึงชวนกันกลับบ้าน พอขึ้นรถมาเห็นเขามีเหงื่อออกจำนวนมาก และบอกว่าจุกแน่นหน้าอก ตนจึงให้ปรับเบาะเอนนอน แต่นางสมหมายบอกว่าไม่ไหว พอเห็นอาการเริ่มไม่ดี ตนจึงรีบนำนางสมหมายส่งโรงพยาบาลแหลมสิงห์

ส่วนประเด็นที่โดนกล่าวหาว่า ทองน้ำหนัก 3 บาท และเงินเกือบ 10,000 บาท ของนางสมหมายไป ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนได้บอกกับทางโรงพยาบาลว่า ให้เก็บทรัพย์สินนางสมหมายไว้ให้ญาติที่กำลังเดินทางมา และหลังเกิดเรื่องตนได้ท้าให้นายเหนก ไปตรวจรอยนิ้วมือที่กระเป๋าของนางสมหมาย แต่ก็ไม่มีใครยอมไปตรวจ

ส่วนเรื่องของหนี้สิน ยอมรับตนมีหนี้จริง แต่เป็นหนี้ที่ไปหยิบยืมคนอื่นมา เพียงไม่กี่บาทและทยอยส่งเจ้าหนี้เป็นรายวันแล้ว ยอมรับมียืมเงินนางสมหมายบ้าง แต่เพียงหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น จึงไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องวางยาพี่สาวสามี เพื่อเป็นการล้างหนี้

ด้าน นายกร น้องชายของนางสมหมาย บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนกลาง อีกคนก็เมีย อีกคนก็พี่ ตนตั้งตัวเป็นเสาธง ขอยืนอยู่ตรงกลางใครผิดก็ว่าไปตามผิด หากเมียตนเป็นคนผิด ก็ให้ตำรวจมาจับไปได้เลยไม่มีการเข้าข้างใครใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนเรื่องหลังจากนี้ก็ขอให้เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของแต่ละคน พร้อมจะให้ข้อมูลหากตำรวจจะมาสืบสวนอะไรอีก ซึ่งเมียตนก็พร้อมสู้

นายแพทย์อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า หลังจากโรงพยาบาลได้รับตัวนางสมหมายมาแล้ว ก็ได้มีการช่วยกู้ชีพจนฟื้นขึ้นมา เนื่องจากคนไข้มาในภาวะหมดสติ ไม่รู้สึกตัวและไม่มีชีพจร ทางโรงพยาบาลจึงใช้สารเคมีกระตุ้นและทำการฟื้นคืนชีพจนสำเร็จ ก่อนส่งตัวเข้าโรงพยาบาลพระปกเกล้า เพื่อรักษาตัวต่ออย่างเร่งด่วน

จากนั้นทางญาติได้ร้องขอให้ตรวจสอบสารพิษในร่างกาย จึงได้เจาะเลือด และส่งไปนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาสารพิษ ผลออกมาครั้งแรก พบเพียงสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของยาที่ใช้ในการฟื้นคืนชีพผู้ป่วย แต่ในส่วนของสารพิษไซยาไนด์ ที่สงสัยกันนั้น มีเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น ไม่ได้เกินค่ามาตรฐานที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว ซึ่งสภาพศพของนางสมหมายโดยรวมแล้ว เป็นศพที่ไม่ใช่การเสียชีวิตจากสารพิษไซยาไนด์แน่นอน เนื่องจากไม่มีอาการปากดำ ปลายมือปลายเท้าดำ ซึ่งหากผลออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทางทีมแพทย์จะได้ชี้แจงให้กับทางญาติโดยเร็วที่สุด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XCxxirTH3Oc

คุณอาจสนใจ

Related News