‘กันต์ กันตถาวร’ เสียงสั่น ให้ปากคำตำรวจ ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายดิไอคอน

“กันต์ กันตถาวร” เสียงสั่นเครือ เข้าให้ปากคำตำรวจ บก.ปคบ. ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือตำรวจ ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายดิไอคอน ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผย 6 ผู้บริหาร-ดารา กลายเป็นผู้ต้องหาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้  (13 ต.ค.67)  เวลาประมาณ 9.50 น. นายกันต์ กันตถาวร ดารานักแสดงชื่อดัง พร้อมทนายความ เข้าปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังมีส่วนพัวพันกับบริษัท The Icon Group ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท

ทันทีที่เดินทางมาถึง นายกันต์ มีสีหน้าเรียบเฉย และยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนจะบอกว่า วันนี้เดินทางมาชี้แจงกับตำรวจตามที่ได้บอกเอาไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ที่ดีที่สุดและความชัดเจนมากที่สุด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามั่นใจในพยานหลักฐานมากแค่ไหน กันต์ระบุว่า "ก็ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง" ส่วนกรณีของภรรยาชักชวนให้ลงทุนบริษัทดังกล่าว ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ถูกว่าตามถูก ผิดว่าตามผิด

กันต์ ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงครึ่งในการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีสีหน้าเศร้าหมองและน้ำเสียงสั่นเครือในบางช่วง โดยบอกว่า มาในวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และนำข้อมูลมาให้กับตำรวจ ซึ่งตอนนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการของคดีเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ณ ขณะนี้ให้ข้อมูลได้เท่านี้ และขอไม่แสดงความรู้สึก หรือความคิดเห็นใดๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายแล้ว พร้อมยืนยันว่าจะอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก

จากนั้นทนายความส่วนตัว ได้ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชน ขอเปิดทาง เนื่องจาก กันต์ กันตถาวร ได้ให้สัมภาษณ์ในส่วนที่ให้ได้แล้วก่อนจะเดินทางกลับ

อีก 2 ชั่วโมงต่อมา พลตำรวจตรี โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พลตำรวจตรี มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปรามก็ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าคดีของดิไอคอนกรุ๊ป โดยบอกว่า 4 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 740 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 266 ล้านบาท

สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหารวม 6 คน ได้แก่ บอสพอล ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท บอสกันต์ กันตถาวร, บอสแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี, บอสมิน พีชญา วัฒนามนตรี, บอสปีเตอร์ และบอสหมอเอก เนื่องจากผู้เสียหายได้แจ้งผู้เสียหายได้แจ้งความเอาผิดพร้อมระบุชื่อของทั้ง 6 ราย จึงถือว่าเป็นผู้ต้องหาหรือผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง 2 คำ ซึ่งกรณีที่ผู้ต้องหามาแสดงตัวต่อตำรวจ ไม่ได้หมายความว่า ผู้ต้องหาจะไม่ถูกออกหมายจับในภายหลัง หากมีพยานหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนได้เอง ก็สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับได้

ส่วนแม่ข่ายอีก 8 คน ได้แก่ ปัน, สวย, จอย, โซดา, โอม, วิน, หญิง, ป๊อบ และ ภรรยาของกันต์ กันตถาวร ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดแจ้งความเอาผิด จึงยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่หากมีพยานหลักฐานไปถึง ก็อาจถูกพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับได้

มีการตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน จะต้องเป็นคดีพิเศษ แล้วโอนสำนวนไปให้ดีเอสไอหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ดีเอสไอ ติดต่อประสานขอข้อมูลทางคดีมาแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งขอรับคดีนี้ไปดำเนินการ ซึ่งหากพิจารณาตามระเบียบของ DSI คดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ก็อาจเข้าข่ายที่ทาง DSI รับไปดำเนินการได้ ฉะนั้นในระหว่างนี้ ตำรวจก็จะรับแจ้งความและรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนต่อไปและช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา มีการแชร์ภาพของชายในชุดเครื่องแบบตำรวจเป็นแม่ข่ายของ บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป อยู่ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XXwTVyjj00k