ผู้ใหญ่บ้านโหด กระทืบป้าวัย 59 ฟันหักสภาพปางตาย โมโหล่ามวัวทับที่ดิน

ลูกสาวร้อง แม่อายุ 59 ถูกผู้ใหญ่หมา ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซ้อมปางตาย หลังทะเลาะกันเรื่องที่ล่ามวัว โชว์กร่าง "หากเรื่องนี้ถึงโรงพัก กูจะเอาให้ถึงที่สุด"

ผู้ร้องเรียนชื่อ น.ส.วรรณา อายุ 31 ปี ได้นำ นางเกษม อายุ 59 ปี ผู้เป็นแม่ มาส่งโรงพยาบาลพัทลุง หลังได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายจนเลือดกบปากฟันหัก ใบหน้ามีบาดแผลฟกช้ำน่วมไปทั้งตัว แพทย์ต้องให้น้ำเกลือและให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

น.ส.วรรณา เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือ "ผู้ใหญ่หมา" หรือ นายพงษ์พันธ์ เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง ก่อนเกิดเหตุ แม่กำลังเอาฝูงวัวที่ล่ามไว้บนที่ดินเพื่อนบ้านกลับเข้าคอก ได้เจอกับผู้ใหญ่บ้าน ที่กำลังไปต้อนฝูงวัว ที่ปล่อยเลี้ยงไว้ในที่ดินเดียวกันกลับเข้าคอก และขณะที่แม่กำลังต้อนวัวอยู่ ผู้ใหญ่บ้านได้เข้ามาต่อว่า ทำนองไม่พอใจที่แม่เอาฝูงวัวที่เลี้ยงมาปล่อยในที่ดินเดียวกัน และห้ามไม่ให้แม่นำวัวมาปล่อยเลี้ยงที่ดินดังกล่าวอีก

แต่แม่ตอบกลับไปว่า ขออนุญาตเจ้าของที่แล้ว หากจะไม่ให้อย่างไรให้เจ้าของที่มาพูดกับแม่เอง จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอีกรอบ ทำให้ผู้ใหญ่บ้านไม่พอใจเดินเข้าไปทำร้ายแม่ ทั้งเตะทั้งต่อย ตบ ถีบ จนแม่ล้มยกมือไหว้ร้องขอชีวิต ระหว่างนั้น แม่ก็บอกอย่าทำร้ายแม่ อย่าทำแบบนี้ คนในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ฟัง ซ้อมแม่ต่อจนหนำใจ พร้อมขู่แม่ด้วยว่า "หากเรื่องนี้ถึงโรงพัก กูจะเอาให้ถึงที่สุด"

น.ส.วรรณา เล่าต่อว่า ตอนนี้ตนและครอบครัวรู้สึกหวาดกลัว เพราะผู้ใหญ่มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่ก็ขอแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านให้ถึงที่สุด เพราะผู้ใหญ่บ้านทำเกินไป มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อประมาณเกือบ 10 ปี แม่เคยถูกพ่อของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวตบหน้า หลังทะเลาะกันเรื่องวัว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถาม นายภักดิ์ เอียดหมุน อายุ 70 ปี พ่อผู้ใหญ่หมา หรือนายพงพันธุ์ กล่าวว่า เข้าใจเลยว่าผู้เสียหายมีนิสัยอย่างไร กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าลูกชายคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เนื่องจากอีกฝ่ายคงจะด่าทอ หรือต่อว่าที่ลูกชายไปเป็นคนกลาง ที่ลูกบ้านร้องให้ช่วยตักเตือนคนเลี้ยงวัว ว่าอย่าเอามาเลี้ยงในสวนยางพารา เพราะจะมีผลกระทบ แต่หลังจากเตือนคงจะมีการด่าทอ ลูกชายในฐานะผู้ใหญ่เลยทนไม่ไหวทำร้ายร่างกายดังกล่าว

ด้าน นางสุวรรณดี อายุ 65 ปี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยไม่ทราบรายละเอียด แต่ในฐานะเจ้าของที่ดินไม่เคยห้าม หรือร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านเรื่องเพื่อนบ้านนำวัวมาเลี้ยงในสวนยาง เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยได้รับผลกระทบอะไร เป็นไปได้ไหมที่ผู้ใหญ่บ้านจะอยากเก็บที่ดินของตนเอาไว้ให้พ่อตัวเองเลี้ยงวัว เลยห้ามคนอื่นเลี้ยง

ขณะที่นางสาว ศรอนงค์ สงสมพันธ์ นายอำเภอเมืองพัทลุง กล่าวว่า เบื้องต้นได้เรียกผู้ใหญ่หมา มาสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นผู้ใหญ่หมา บอกตนเป็นแค่คนกลางเพื่อไปคุยไม่ให้ นางเกษม นำวัวไปเลี้ยง แต่ก็ถูกด่าทอเลยเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เลยเกิดทำร้ายร่างกายดังกล่าว

ตนในฐานะนายอำเภอได้ว่ากล่าวตักเตือผู้ใหญ่บ้านในการใช้ความรุนแรง และต้องระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นผู้ใหญ่บ้านเป็นนักปกครอง โดยหลังจากนี้จะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ จากนี้ตนจะลงไปดูแลและเยียวยา เพื่อเป็นกำลังให้กับผู้เสียหายที่ถูกกระทำความรุนแรง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/cRLi0wytVO4