พบศพ ‘เสี่ยหมาส’ หลังหายตัว 55 วัน ‘เจ๊อ้วน’ ยันโทรยกเลิกฆ่าผัวแล้ว แต่ไร้สัญญาณติดต่อไม่ได้

เจอศพ ‘เสี่ยหมาส’ เสี่ยเจ้าของบ่อนไก่ หายตัวปริศนา 55 วัน จากบ้านที่ชุมพร ถูกฆ่าฝังดินในสวนปาล์มเมืองคอน เจ้าหน้าที่ขุดกว่า 6 ชั่วโมง เมียยันโทรยกเลิกการฆ่าแล้ว แต่ไร้สัญญาณติดต่อไม่ได้

จากกรณีนายขนบ สมหวัง หรือ โกหมาส อายุ 56 ปี เจ้าของสนามชนไก่ ริมถนนสายเอเชีย 41 อำเภอสวี จังหวัดชุมพร หายตัวปริศนาหลังขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ออกจากบ้านเมียคนที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 4 ก.พ. 2567 ตำรวจไปเจอรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ จอดทิ้งในป่าริมแม่น้ำโขง ที่อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม แต่ยังไม่เจอเจ้าของรถ

เวลาผ่านไปเป็นเดือน กระทั่งวันที่ 20 มีนาคม ตำรวจพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของนายขนบ ในป่าที่ตำบลวังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช และในวันที่ 24 มี.ค. 2567 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ไปเจอรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยพัวพันคดีอุ้มนายขนบ ถูกเผาแยกชิ้นส่วนโยนทิ้งสระน้ำสวนปาล์ม ที่อำเภอทุ่งสง จากนั้นได้นำผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน ในที่สุดผู้ต้องสงสัยยอมบอกจุดฝังศพนายขนบ อยู่สวนปาล์มน้ำมัน บ้านหลักสิบ ตำบลบ้านลำนาว อำเภอบางขัน

ทำให้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (26 มี.ค. 2567) ตำรวจประสานกู้ภัย มาขุดดินหาศพนายขนบ ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เริ่มขุดดินจุดที่พบความผิดปกติ ตั้งแต่ 19.00 น. ก่อนจะพบว่ามีศพบริเวณดังกล่าวจริง แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นนายขนบหรือไม่ ใช้เวลาขุดนานกว่า 6 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 01.00 น. จึงสามารถนำร่างขึ้นมาจากหลุมได้

เบื้องต้นศพมีสภาพเน่าเฟะ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง นอนคว่ำหน้า ถูกมัดมือไพล่หลัง มัดเท้าด้วยเชือกฟางสีแดง สวมเสื้อสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน ศีรษะถูกพันด้วยเทปกาวสีน้ำตาล และมีบาดแผลคล้ายถูกราดน้ำกรด แพทย์เวรยังไม่พบร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากศพเน่า ซึ่งต้องส่งศพไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียด ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และตรวจอัตลักษณ์บุคคลเทียบดีเอ็นเอกับญาติ เพื่อยืนยันตัวตนด้วย

พลตำรวจตรี นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว ไม่ต่ำกว่า 50 วัน หรือ เกือบ 2 เดือน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เสียชีวิตจากสาเหตุอะไร ต้องให้แพทย์ตรวจชันสูตรอย่างละเอียดก่อน ตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวนญาติ และพยานต่างๆ จากนั้นจะสามารถออกหมายจับได้ ยังบอกไม่ได้ว่าผู้ต้องหามีกี่คน บอกได้แค่ว่าเป็นกลุ่มเดิม

ทั้งนี้มีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมทีมสังหารนายขนบ ได้แล้ว 3 คน เป็นคนในพื้นที่อำเภอทุ่งสง และอำเภอบางขัน ซึ่งจับได้ก่อนพบศพ จึงแจ้งข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน, ลักทรัพย์ และยาเสพติด โดยได้ประกันตัวไปแล้ว ส่วนคดีลักพาตัวและฆาตกรรม ตอนนั้นยังแจ้งข้อหาไม่ได้ เพราะยังไม่เจอศพ แต่ตอนนี้สามารถแจ้งข้อหาได้แล้ว อยู่ระหว่างยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับ

ล่าสุด เช้าวันนี้ (27 มี.ค. 2567) เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างที่ขุดได้เมื่อวานนี้ ส่งชันสูตรอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชแล้ว

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้มีคลิปเสียงของเจ๊อ้วน ภรรยาคนที่ 1 ของนายขนบ พูดทั้งน้ำตาสารภาพว่า หลังนายขนบหายไป ก็เครียดก็กดดันจากทุกฝ่าย ถ้านายหัวกลับมาไม่ตาย อ้วนก็ต้องตาย เรื่องนี้ตำรวจเรียกไปสอบทุกวัน ว่าอ้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าอ้วนให้ตังค์ไปแสน แล้วบอกว่า อ้วนจ้างวานฆ่า อ้วนก็ไม่รู้จะทำยังไง อ้วนไม่รู้จริงๆ สาบานได้ ก็อยากรู้เหมือนกันว่า นายหัวไปไหน ยังอยู่หรือตาย

แต่ตำรวจไม่เชื่อ แล้วยังถามว่า สิ่งที่นายขนบทำ คุณไม่แค้นหรอ อ้วนบอกว่า ไม่แค้นแต่มันเจ็บ คนที่เรารักที่สุด แล้วดูแลมาขนาดนี้ แต่ทำกับเราแบบนี้ แล้วเขาก็จะฆ่าลูก นายหัวบอกว่า ไม่ให้มาเหยียบที่นี่อีก ถ้ามาจะยิงทิ้ง ยอมรับว่า คิดอยากจะทำ เพื่อความอยู่รอดของลูก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ทำไม่ได้ เรื่องความขัดแย้งในบ้าน เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงคนนั้น

ส่วนนายชัย รู้จักกันเพราะนายชัยมาหาที่บ้าน บอกไม่มีงานทำขอเงินหน่อยได้ไหม จึงบอกฉันจะหาเงินมาจากไหน ฉันก็ไม่มีเหมือนกัน แต่วันนั้นพอดีไปบ่อนได้เงินมา เลยให้นายชัยยืมไปหนึ่งแสนบาท เพราะคิดว่าถ้าไม่ให้เขายืมก็ต้องไปเอาจากนายหัว จากนั้นก็ปรับทุกข์กัน อ้วนก็พูดว่า “ผัวฉันมันซ้อมฉัน แล้วไม่รักฉันเลย วันดีคืนดีก็ไปอยู่กับเมียน้อย ชื่อเก๋ ก็คือเมียคนที่ 2” นายชัยเลยบอกว่า เก็บมันเลยไหม

หลังจากที่มีการนัดแนะกันแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายชัยได้มาอุ้มนายหัวไป ระหว่างนั้นอ้วนโทรศัพท์หานายชัยเพื่อจะยกเลิก บอกว่า “ไม่เอาแล้วฉันไม่ฆ่าผัวฉันแล้ว” แต่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณติดต่อนายชัยไม่ได้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zKu_bfn-h4c