สั่งสอบ! 'กองร้อยน้ำหวาน' หลัง 'ตร.หญิง' โพสต์แฉ ครูฝึกลงโทษโหด พูดดูถูกจนป่วยซึมเศร้า

สะเทือนวงการสีกากี เมื่อสิบตำรวจตรีหญิงรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊ก ขอลากลับไปดาวแมว หลังไปฝึกตำรวจกองร้อยน้ำหวาน แล้ว ได้รับบาดเจ็บจนป่วยซึมเศร้า แถมยังถูกผู้บังคับบัญชาพูดดูถูก และลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมทั้งที่ป่วย

โพสต์ของ สิบตำรวจตรีหญิง รายหนึ่ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองอำนวยการ บช.น. ซึ่งได้โพสต์ระบายความในใจ ฝ่ายทางเฟซบุ๊ก ในขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

โดยเนื้อหาในความระบุว่า "วันนี้จะมาลากลับดาวแมวค่ะ อนาคตหนูดับสลายแล้ว ความสามารถต่าง ๆ ได้สูญเสียและไร้ความสามารถแล้วค่ะ

ตลอดระยะเวลาการเป็นตำรวจ 1 ปี หนูได้เปลี่ยนสถานะเป็นคนป่วยจิตเวช เป็นคนป่วยจิตเวชซึมเศร้าจากการฝึก โดยมาจากอุบัติเหตุที่ถูกเพื่อนในค่ายเตะที่หัวโดยไม่ตั้งใจ

หนูไม่โกรธเพื่อน หนูได้รักษาตัว และกลับไปฝึกอีกครั้ง แต่โดนครูฝึกทำโทษทุกอย่าง ทั้งพูดทำร้ายจิตใจทุกวัน เอาเชือกฟาดขา โดนดองเวรยืนเวรทุกคืน ไม่เคยได้พักตามที่หมอสั่ง ต้องทำท่าเอาหัวลงพื้น ป่วยจนไอเป็นเลือด ออกมารักษาตัวและไม่ได้ไปฝึกอีก เพราะอาการทางจิต

ที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ตำรวจอย่างดีที่สุดแล้ว แต่พยายามแค่ไหนหนูก็ยังเป็นคนป่วยอยู่ดี ขอบคุณอาชีพตำรวจมากเลยนะคะที่ทำให้หนูป่วยซึมเศร้า วันนี้หนูถึงที่สุดแล้ว ขอให้มันจบที่หนูเถอะค่ะการฝึกแบบนี้

บันทึกสำเนาที่หนูเขียนไว้ 7 แผ่นถึงเหตุการณ์ทั้งหมด หนูเก็บไว้ในแฟ้มส่วนตัว ส่วนเพื่อน ๆ น้ำหวานทุกคน เราโคตรภูมิใจในตัวพวกเธอเลย สานฝันต่อให้เราทีนะ ขอบคุณนะที่ยังนับเราอยู่ในรุ่น

สุดท้ายดิฉัน ในระหว่างเขียนมีสติดีค่ะ ขอมอบทรัพย์สินทุกอย่างให้มารดาเพียงคนเดียว ร่างของหนูได้มอบให้เป็นอาจารย์ใหญ่แล้ว

ปล.ขอบคุณแม่ที่เลี้ยงดูให้หนูโตมาถึงทุกวันนี้ รักแม่ รักยายนะ ไม่รู้จะมีโอกาสไหม แต่อยากเกิดมาอยู่ด้วยกันอีก ลาก่อนค่ะ แฮชแท็ก 134 อย่าโง่เอาหัวไปโดนเท้าเพื่อนอีกล่ะ"

ล่าสุดพลตำรวจเอกพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เปิดเผยหลังจากที่ได้ไปเยี่ยมสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ โดยบอกว่า อาการของสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ สามารถสื่อสารได้ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสในบางช่วง

จากการพูดคุยตนมั่นใจว่า น้องสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ยังคงอยากเป็นตำรวจอยู่ ซึ่งเมื่อตนบอกว่าให้ไปรายงานตัว ตัวน้องก็ยิ้มรับ แต่ขณะนี้ตนเชื่อว่าน้องรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย ก็ต้องประคับประคองกันไป ซึ่งตนทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ

ส่วนอาการซึมเศร้า จะเป็นก่อนหรือเป็นหลังจากที่เป็นตำรวจแล้ว ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่ตนเองได้พูดคุยกับน้องว่าอยากให้สู้ และกลับมาเข้มแข็งด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งยารักษา ซึ่งตัวน้องได้สัญญากับตนว่าจะดูแลตัวเอง จะดูแลแม่และจะดูแลยาย

ส่วนประเด็นเรื่องการฝึก ที่ตัวน้องได้โพสต์ ว่าถูกเท้าเตะที่หัวในระหว่างการฝึก ยืนยันว่าไม่ได้มีหลักสูตรแบบนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นอุบัติเหตุที่น้องไปโดนเท้าของเพื่อนในระหว่างฝึก

ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในทุกประเด็น ทั้งเรื่องการฝึก หรือการลงโทษ ที่น้องได้มีการโพสต์ และประเด็นใดผู้บังคับบัญชาใช้คำพูดลักษณะไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับ ผบช.น. รับทราบแล้ว และทางผบช.น. ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา ของสิบตำรวจหญิงรายนี้ ไปเยี่ยมและพูดคุยผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้ทาง บช.น. ได้ทำเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการฝึกของสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ ในระหว่างเข้าฝึกเพื่อเป็นกองร้อยน้ำหวาน อีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ เท่าที่ตรวจสอบพบว่ายังไม่จบหลักสูตรการฝึกกองร้อยน้ำหวาน แต่ปัจจุบันเป็นผู้บังคับหมู่ ฝ่ายอำนวยการ 4 กองบังคับการอำนวยการ บช.น.

ทีมข่าวได้เข้าไปดูโพสต์ของสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ พบว่าเมื่อ 5 วันที่แล้ว ได้โพสต์ว่ามีการหายในไม่ออก แน่นหน้าอก หายใจไม่ได้เหมือนลืมหายใจ อยากนอนแต่นอนไม่ได้ ผ่านมา 1 ปีแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นตลอดเวลา แฟชแบค ภาพหลอน ได้ยินเสียงฝีเท้า ได้ยินเสียงเรียกแถวซ้ำไปซ้ำมา กลัวเสียงนกหวีด ใช้ชีวิตได้ไม่เหมือนเดิม ยานอนหลับก็ไม่สามารถเยียวยาได้ จะต้องทรมานแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร

และยังมีโพสต์เมื่อ 1 วันที่แล้ว โดยระบุว่า ตื่นมาจากฝัน เราย้อนกลับไปที่นั่นอีกแล้ว กินยาวันละ 9 เม็ด แต่ยังกลับไปที่เดิม ยังโดนเรียกแถว ยังโดนทำโทษ แล้วเราจะมีความสุขได้อย่างไร เมื่อเวลานอน ควรเป็นเวลาที่ต้องได้พักผ่อน แต่ยังฝันซ้ำเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

นอกจากนี้เพจอีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ในเรื่องนี้ว่า เธอปลอดภัยแล้วในอ้อมกอดของแม่ เด็กสาวคนหนึ่งใฝ่ฝันในอาชีพตำรวจ ต้องมาเผชิญเรื่องร้าย ๆ จากการฝึก

ใครจะไปเชื่อว่าผู้หญิงคนหนึ่งจากที่เคยร่าเริงสดใส ต้องกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช จากอาชีพที่ตัวเองรัก เพราะการถูกกดขี่ข่มเหง จากครูฝึกทำให้ต้องรักษาตัวเป็นปี

ทั้งนี้ มีรายงานว่าสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ จบปริญญาตรีจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการเงิน มหาวิทยาลัยหอการค้า เข้าอบรมกองร้อยน้ำหวานรุ่นที่ 5 โดยการฝึกอบรมของกองร้อยน้ำหวาน มีเพียงแค่ 2 รุ่นเท่านั้น ที่ทาง บช.น. ได้ส่งไปฝึกกับ ตชด. ที่ค่ายนเรศวร คือ รุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 5 โดยเป็นลักษณะการฝึกแบบผู้ชายปกติ

ส่วนวันที่สิบตำรวจหญิงรายนี้ เกิดอุบัติเหตุในการฝึก คือช่วงวันที่ 17 มีนาคม ปีที่แล้ว หรือว่า วันต้อน หรือ คืนหมาหอน โดยระหว่างการฝึก เท้าของเพื่อนไปโดนหัวของสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้ แต่ตอนนั้นเพื่อนคิดว่าไม่เป็นอะไร

แต่หลังจากนั้นหน้าของสิบตำรวจตรีหญิงรายนี้เริ่มบวมขึ้น หมอระบุว่าสาเหตุเกิดจากได้รับการกระแทกอย่างแรง จึงได้เข้ารักษาตัว แต่พอเวลาผ่านไป กลับมีคำสั่งให้สิบตำรวจหญิงรายนี้กลับไปฝึก ทั้งที่สภาพร่างกายยังไม่พร้อม

และในช่วงตลอดการฝึกร่างกายของน้องพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับยังเจอครูฝึก พูดเหน็บแนมตลอดว่า "อ่อนแอ ลูกคุณหนูหรอ กินข้าวคลุกน้ำปลาไม่ได้ วันหลังก็อย่าโง่ให้เพื่อนเหยียบหัวสิ" และอีกมากมาย

เรื่องนี้ทำให้ บช.น. ได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้น ย้ายให้สิบตำรวจตรีหญิง มาอยู่ที่ฝ่ายอำนวยการ ซึ่งในระหว่างนั้น เจ้าตัว ได้ทำเรื่องถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ไม่ขอกลับไปฝึกแล้วได้หรือไม่ และขอเข้าทำงานเลย ทาง บช.น. จึงได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามขั้นตอน

แต่ปรากฏว่าภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตอบหนังสือกลับมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถให้เข้ารับราชการได้ หากไม่จบหลักสูตรการฝึก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DfUOpRdeh7o