แกะรอยอุ้มฆ่าหนุ่ม มัดมือ-เท้า ทิ้งศพริมทางติดมอเตอร์เวย์ ก่อนหายตัวแชทบอกเมีย “ทำผู้หญิงท้อง”

แกะรอยอุ้มฆ่าหนุ่ม มัดมือ-เท้า ทิ้งศพริมทางติดกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ ก่อนหายตัวแชทบอกเมีย ทำผู้หญิงท้อง เมีย-เพื่อนยันผู้ตายไม่มีเรื่องขัดแย้งกับใคร

จากกรณีตำรวจบางประกง เข้าตรวจสอบ หลังพบร่างชายหนุ่มสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ โดยมีเสื้อยืดคอปกสีเทาแถบแดงใส่อยู่ด้านใน ใส่กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล มือและเท้าถูกมัดด้วยเชือกสีแดง นอนตะแคงอยู่ในพงหญ้าข้างทางติดกำแพงรั้วมอเตอร์เวย์ สภาพศพเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 วัน ไม่พบเอกสาร หรือโทรศัพท์มือถืออยู่ในตัวนั้น

ก่อนที่เพจคนข่าวบางปะกงจะถ่ายรูปเสื้อ พวงกุญแจ ลงตามหาญาติเพื่อระบุตัวคนตาย ปรากฏว่าไม่ถึง 5 นาที ได้มีคนรู้จักส่งข้อความมาแจ้งว่าบุคคลดังกล่าวน่าจะเป็น นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี หายตัวไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 67 ช่วงเวลาประมาณ 22.06 น. หลังจากขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีเทา ออกมาจากบ้านมาจอดที่บริเวณกิ่งแก้ว ริมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.12 ขาเข้า กทม. เพื่อเดินข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถบัสทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี แต่หายตัวไปไม่ได้มาทำงาน

ต่อมาตำรวจจะสามารถติดต่อ คุณพร อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตายได้ และมายืนยันศพที่เกิดเหตุพบว่าเป็นสามีจริง โดยกล่าวว่า ก่อนจะออกจากบ้านแล้วหายตัวไปได้เข้ามากอดแล้วหอมแก้มบอกว่าจะไปทำงานช่วงหัวค่ำ จากนั้นหลัง 22.00 น. ก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงเข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.บางปู แล้วก็ลงโพสต์ตามหาทางโซเชียล ก่อนจะมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว

ล่าสุด ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่หมู่บ้านนครทองซิตี้ พบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านของผู้ตายจับภาพไว้ได้คืนสุดท้าย วันที่ 27 ม.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. จะเห็นนายใหม่ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี โดยจะขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดริมถนนเทพรัตน์ และขึ้นรถบัสของโรงงาน ซึ่งเป็นชีวิตปกติทุกวัน

แต่ครั้งนี้ที่ไม่ปกติคือนายใหม่ออกจากบ้านไปและไม่กลับมาอีกเลย กระทั่งมาพบเป็นศพ ในวันที่ 29 ม.ค. ศพถูกทิ้งอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งหากย้อนดูในกล้องวงจรปิด จะมีรถเก๋งต้องสงสัยคันหนึ่ง ที่ขับขี่มาในลักษณะจี้ตูดรถจักรยานยนต์ของผู้ตายและเปิดไฟสูงใส่ แต่ยังไม่ยืนยันว่ารถเก๋งคันดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายใหม่หรือไม่ ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบปากคำ

ขณะที่จากการตรวจสอบแชท ระหว่างภรรยาของนายใหม่ที่แชทคุยกันก่อนสามีจะเสียชีวิต พบว่า พรและใหม่ได้พูดคุยกันในคืนสุดท้าย วันที่นายใหม่ออกจากบ้าน โดยพรถามใหม่ ว่าทำไมปิดเครื่อง ใหม่ตอบว่า มีเรื่องจะบอก เรื่องหนึ่งสำคัญมาก พรแชทไปบอกอีกว่า ทำไมไม่รับสาย พรทำอะไรให้โกรธอีกไหม ทำไมปิดเครื่อง แต่พิมไลน์ได้ เพื่อนบอกไม่เห็นขึ้นรถ ใหม่แชทตอบว่า ไม่ร้องไห้นะ พรก็ถามอีกว่าอยู่ไหน ทำไมไม่รับสาย ใหม่ตอบว่า เราเลิกกันเถอะ พรถามทำไม ใหม่ตอบทำผู้หญิงท้อง ไม่เสียใจนะ พรบอกว่ารับสายพรก่อน ใหม่ตอบอีกว่า “อ้วนอยากได้อะไร อ้วนเอาไปเลย” ด้วยความที่ร้อนใจ พรก็แชทตอบกับไปอีกว่า รับสายพรเถอะนะ สงสารพรเถอะ มันเกิดอะไรขึ้น คุยกันก่อน ป๊า อยู่ตรงไหน อย่าทิ้งพรไว้แบบนี้ พรผิดพลาดตรงไหนเหรอ กลับมาบ้านมาคุยกัน

หลังจากนั้นด้วยความร้อนใจ คุณพรจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปตามหานายใหม่ ซึ่งวงจรปิดในหมู่บ้านจับภาพไว้ได้ประมาณตี 4 กว่า ซึ่งหลังจากที่พรขี่จักรยานยนต์ไปตามหาสามีไม่เจอ ก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้าน

ขณะเดียวนางสาวพร พิมพ์ข้อความไปหานายใหม่ทาง Messenger ของเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งนายใหม่ตอบกลับมาตอนประมาณตี 5 โดยพรบอกว่า “พรจะไปตามหาได้ที่ไหน กลับมาคุยกันก่อนนะ” ใหม่ บอกว่า “ไม่ต้องตามใหม่หรอกใหม่มาต่างจังหวัด” พร บอกว่า “รับสายพรหน่อยได้ไหม ขอร้องนะ” ใหม่ตอบว่า “ขอโทษนะ ใหม่ขอไปสร้างครอบครัวใหม่ ขอบคุณนะที่อยู่ด้วยกันมา” ซึ่งหลังจากนั้นพรก็ติดต่อนายใหม่ไม่ได้อีกเลย

คุณพร กล่าวว่า ช่วงหัวค่ำของวันที่ 27 ม.ค. สามีได้เข้ามาสวมกอด แล้วหอมแก้ม บอกว่าจะไปทำงาน แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าเวฟสีเทาออกจากบ้าน ซึ่งตามปกติสามีจะขี่รถไปจอดย่านกิ่งแก้ว ริมถนนเทพรัตน กม.12 ขาเข้า กทม. ก่อนเดินข้ามสะพานลอย ไปรอขึ้นรถบัส เพื่อไปทำงานที่นิคมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี แต่วันนั้นกลับไม่ได้ไปทำงาน

หลังจากติดต่อสามีไม่ได้ เธอจึงไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.บางปู ขณะที่เพื่อนของสามีได้ไปประกาศตามหาคนหาย ที่กลุ่มข่าวสารเมืองปราการไว้เช่นกัน กระทั่งมีคนมาพบศพถูกทิ้งอยู่ริมถนนมอเตอร์เวย์ ซึ่งเธอก็ยังนึกหาสาเหตุไม่เจอว่าสามีไปมีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ หรือถูกฆ่าด้วยสาเหตุอะไร เพราะสามีไม่เคยมีเรื่องกับใคร

ด้าน บอส คนพบศพคนแรก กล่าวว่า ช่วงเย็นวานนี้ ขณะขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านที่ท่าสะอ้าน ช่วงที่ผ่านจุดพบศพ รู้สึกที่หางตา เหมือนเห็นคนที่ใบหน้าดำสนิท นั่งจ้องอยู่ข้างทาง จนต้องขี่รถกลับมาดู ก็พบว่า มีศพอยู่ข้างทาง จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ขณะเพื่อนบ้าน กล่าวว่า ทั้งคู่อัธยาศัยดี ไม่เห็นมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครในหมู่บ้าน หลังจากทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมากเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนรถ Suzuki Swift สีแดงหลังคาดำ เพื่อนบ้านบอกว่า น่าจะเป็นรถบุคคลภายนอกที่ขับเข้ามา เพราะอยู่ที่นี่มา 15 ปีในหมู่บ้าน ไม่มีรถ Suzuki Swift สีแดงหลังคาดำ รถในหมู่บ้าน มีคันเดียว คือ Swift สีแดงทั้งคัน ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้อง

ด้านนางสาวแป้ง (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายใหม่ กล่าวว่า เธอเป็นกลุ่มเพื่อนของนายใหม่ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ซึ่งในกลุ่มเพื่อนมัธยมยังติดต่อพูดคุยกันตลอด ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอนายใหม่ประมาณกุมภาพันธ์ต้นปีที่แล้ว มานั่งกินหมูกระทะ นั่งเล่นกันที่บ้านนายใหม่ หลังจากนั้นเฟซบุ๊กของนายใหม่ก็ลงสตอรี่ อัปเดตการใช้ชีวิตปกติไปวัดทำบุญ ใช้ชีวิตอยู่กับเมียกับครอบครัว กระทั่งมาผิดสังเกต วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา นายใหม่เปลี่ยนรูปเฟซบุ๊กเป็นสีดำ จึงกดสติกเกอร์ห่วงใยไปให้ แต่ไม่ทันได้ถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคิดว่าอาจจะทะเลาะกับแฟน จนกระทั่งมาเห็นในกลุ่มข่าวสารเมืองปราการประกาศตามหานายใหม่ เธอก็ช่วยแชร์ช่วยติดตามด้วย

สุดท้ายเธอและเพื่อนทุกคนถึงกับช็อกเมื่อทราบว่านายใหม่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งทุกคนไม่คาดคิดมาก่อนว่านายใหม่จะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะด้วยนิสัยใจคอ นายใหม่เป็นคนดี อัธยาศัยดีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร และเท่าที่รู้จักไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือการพนัน ส่วนข้อความที่นายใหม่ทักมาบอกเมีย ว่าทำผู้หญิงท้อง เธอไม่เชื่อว่าเป็นนายใหม่พิมพ์มาเอง และไม่เชื่อว่านายใหม่จะทำผู้หญิงท้อง เพราะส่วนตัวนายใหม่ไม่ชอบเรื่องชู้สาวและเป็นคนรักครอบครัว ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงคนอื่น

ขณะที่ทีมข่าวลงสำรวจบริเวณริมถนนเทพรัตน์ กิโลเมตรที่ 12 จุดที่นายใหม่จะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเป็นประจำเพื่อรอขึ้นรถบัสไปโรงงาน แต่จากการมาตรวจสอบไม่พบว่ามีรถของนายใหม่จอดอยู่ ซึ่งตอนนี้รถจักรยานยนต์ของนายใหม่ก็ยังไม่มีใครพบว่าอยู่ที่ไหน

ทีมข่าวสอบถาม วินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่บริเวณนี้บอกว่า จุดดังกล่าวจะเป็นจุดที่ชาวบ้านจะนำรถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อต่อรถ แม้จะไม่เคยพูดคุยกับนายใหม่แต่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างบอกว่าเหมือนเคยเห็นเพราะเห็นนายใหม่จะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่นี่เป็นประจำ

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/q0uz_cbNrqY