จับแล้ว! 'เจ๊ปุ้ย' จ้างวานฆ่า 'เศรษฐีนี' หลังชายต้องสงสัยซัดทอด น้องสาวเชื่อขัดแย้งปมปล่อยเงินกู้

จับแล้ว เจ้ปุ้ยผู้ต้องสงสัยเอี่ยวฆ่าเศรษฐินี เครือญาตินามสกุลดัง จ.จันทบุรี น้องเผยมีคนยืมเงิน 30 ล้าน สุดช็อกหลังตาย เงินแทบเกลี้ยงบัญชี

หลังจากผลชันสูตรออกมาอย่างชัดเจนว่า การตายของ น.ส.ปนิฐิ อายุ 77 ปี เป็นฆาตกรรมอำพรางศพ พลตำรวจตรีผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานฯ เข้าไปตรวจสอบในบ้านของผู้ตายอีกครั้ง ซึ่งในระหว่างเข้าตรวจสอบ ทางตำรวจได้มีการสอบสวน นางรัชชา อายุ 72 ปี น้องสาวของผู้ตายว่า เมื่อวานนี้ก่อนพบศพและหลังพบศพ มีใครเข้ามาในบ้านบ้างหรือไม่ ซึ่งการพูดคุยจะได้ยินแต่เสียงตำรวจสอบถาม เพราะนางนงนุช พูดเบา ซึ่งในการเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ตำรวจไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปภายในบ้าน

ส่วนบรรยากาศงานศพที่วัดจันทนาราม ต.จันทนิมิตร มี นางรัชชา เป็นน้องสาวผู้ตาย เดินทางมาเตรียมสถานที่ โดยพี่ๆ น้องทั้ง 7 คน ได้ช่วยกันจัดงานศพ

นางรัชชา เปิดเผยถึงปมที่พี่สาวถูกฆาตกรรมน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน เพราะที่ผ่านมาพี่สาวไม่เคยยืมเงินใครมาก่อนเลย แต่เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 พี่สาวได้มายืมเงินตน จำนวน 600,000 บาท พร้อมกับบอกว่าจะโอนเงินคืนให้ตอนสิ้นเดือน หลังจากนั้นพี่สาวได้เขียนเช็คคืนเงินจำนวน 600,000 บาท ให้พร้อมกับดอกเบี้ยเป็นเงิน 19,000 บาท ให้กับตน

และก่อนหน้านี้พี่สาวบอกว่า มีคนมาอ้างว่าตายแล้วฟื้นมาหยิบยืมเงินไปรักษา อ้างว่าจะชดใช้ให้เป็นจำนวนเงินมาก เนื่องจากคนที่มาหยิบยืม อ้างว่าทำประกันไว้เยอะ ซึ่งพี่สาวอาจหลงเชื่อและให้ยืมไป แต่ตอนไหนตนไม่รู้ ที่บอกว่า 30 ล้าน ตนเชื่อว่าอาจจะมากกว่านั้น อยากให้คนทำผิดต้องรับกรรม

ส่วนความคืบหน้าทางคดีล่าสุด ตำรวจได้คุมตัวนายกิต อายุ 40 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกระบวนการฆ่าเจ๊ม่วย ขึ้นรถตู้ไปบ้านพัก ซึ่งเมื่อคุมตัวไปถึงบ้าน ตำรวจได้นำตัวนายกิต เข้าไปในบ้านประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำเสื้อผ้าของนายกิต ออกมาดู และตามข้อมูลตำรวจมีการนำเสื้อผ้าชุดที่นายกิต ใส่ในช่วงวันเกิดเหตุกลับไปตรวจสอบจำนวน 1 ชุด

และระหว่างที่มีการตรวจค้นกันอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานฯ ได้เปิดรถกระบะตู้ทึบของนายกิต ที่จอดเอาไว้หน้าบ้าน โดยมีการถ่ายรูปและเก็บหลักฐานบางอย่างออกไปจากในรถ จากนั้นตำรวจได้ไปเปิดประตูที่ท้ายรถของนายกิต แล้วมีการถ่ายรูปเก็บหลักฐานเอาไว้ และมีการไปเก็บ DNA รอบๆ รถของนายกิต จนกระทั่งตำรวจเก็บหลักฐานเสร็จ ได้คุมตัวนายกิต ออกมาขึ้นรถ ก่อนจะคุมตัวกลับไปถึงโรงพัก

และทันทีที่ตำรวจคุมตัวนายกิตลงมาจากรถ นักข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามว่า ทำหน้าที่อะไรในเหตุการณ์ฆ่าเจ๊ม่วย นายกิตไม่ตอบ มีสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนที่ตำรวจจะรีบพาขึ้นไปบนห้องสืบสวนทันที

ขณะที่ นายไกรสร อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายกิต ผู้ต้องสงสัย บอกว่า ลูกชายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อเจ๊ปุ้ย ซึ่งเจ๊ปุ้ย มีธุรกิจทำสวนผลไม้อยู่ในพื้นที่ตำบลมะขาม โดยคืนวันที่ 19 มกราคม ยอมรับว่าได้ยินเสียงลูกชายคุยโทรศัพท์กับเจ๊ปุ้ย จากนั้นเจ๊ปุ้ยก็ให้ลูกชายขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปรับ ซึ่งก่อนที่ลูกชายจะขี่รถออกไป ตนเองได้ยินเสียงเจ๊ปุ้ย พูดกับลูกชายว่า จะไปทวงเงินกับเจ๊ม่วย เนื่องจากเจ๊ม่วย ยืมเงินไปเป็นล้านและยังไม่คืนเงินให้ จากนั้นก็เห็นลูกชายขี่รถออกไปจากบ้าน กระทั่งลูกชาย ออกไปได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ขี่รถกลับมาที่บ้านแล้วก็เข้าไปนอนในห้อง ซึ่งวันนั้นยืนยันว่าลูกชาย ไม่ได้มีพิรุธอะไร โดยเท่าที่จำได้ ตอนกลับมาพ่อถามว่าออกไปทำอะไรมา แต่ลูกชาย ตอบแค่ว่าไปส่งเจ๊ปุ้ย

โดยตำรวจให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า นายกิต เป็นผู้ต้องสงสัยที่เป็นนกต่อในกระบวนการฆ่าเจ๊ม่วย แต่ยังไม่ได้สอบปากคำอย่างละเอียดว่า ทำหน้าที่อะไรบ้างในวันเกิดเหตุ ซึ่งในขณะนี้ ตำรวจอีกชุดกำลังไปไล่ตามจับกุมหัวหน้ากระบวนการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าในขณะนี้กำลังเดินทางข้ามประเทศเพื่อหลบหนี

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/SsD8UvVICWw