ตร.เร่งตรวจสอบรถเก๋งสีแดง ของ 2 นายหน้าชาวอินเดีย ฆ่าหั่นศพชาวเมียนมา

ตร.เร่งตรวจรถเก๋งสีแดง ของ 2 นายหน้าชาวอินเดีย ที่ร่วมกันฆ่าหั่นศพชาวเมียนมา หลังนำรถไปจอดที่ลานจอดรถเอกชน ภาพวงจรปิดเห็นวินาทีผู้ก่อเหตุเดินไปเรียกแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อหนีออกนอกประเทศ

หลังจากที่นายเดวาซิก้ามานี กูนารัน และนายประกาดีส กุมาร ซันดาราวัล  2 นายหน้าชาวอินเดีย ผู้ต้องสงสัยฆ่าหั่นศพนายอาเซ ไค ชาวเมียนมา แล้วใส่ไว้ในตู้แช่เย็น เหตุเกิดที่อาคารพานิชย์ ภายในซอยสะแกงาม 35/3 ต่อมานายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน ขับรถเอ็มจี สีแดง ออกมาจากซอยสะแกงาม 35/3 ตอนช่วงประมาณ 21.45 น. ของวันที่ 19 ม.ค. 2567 เพื่อมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 44

จากนั้นตอน 23.47 น. พบว่านายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาถึงที่อพาร์ตเมนต์ โดยนายเดวาซิก้ามานี ซึ่งใส่เสื้อสีแดง เดินเข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ และเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 1 จากนั้นได้เดินไปที่ลานจอดรถ เพื่อพบกับนายประกาดีส ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกลับขึ้นห้องพักชั้น 4 ตอนประมาณ 00.15 น.

วันที่ 20 ม.ค. 2567 เวลา 10.28 น. นายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คนได้ออกจากห้องพัก โดยมีนายประกาดีส ซึ่งสวมกางเกงขาสั้นสะพายกระเป๋าเป้สีดำลายเหลืองเดินนำหน้าไปที่ลานจอดรถ

10.31 น. พบว่าทั้งคู่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป โดยนายประกาดีสเป็นคนขี่และนายเดวาซิก้ามานีนั่งซ้อนท้ายโดยสะพายกระเป๋าเป้สีดำคาดเหลือง และกลับเข้ามาตอน 11.12 น. แล้วจอดรถใต้อาคาร และคุยกันที่ลานจอดรถ จากนั้นได้เดินกลับขึ้นห้องพัก

12.14 น. นายหน้าชาวอินเดียออกจากห้องพัก โดยนายเดวาซิก้ามานี ถือตะกร้ามาด้วย และลงไปซักผ้าที่เครื่องซักผ้าอัตโนมัติที่ชั้นหนึ่ง จากนั้นได้กลับไปยืนที่ด้านหลังอาคาร และกลับเข้าห้องพัก

13.21 น. นายหน้าชาวอินเดียทั้งสองคนออกมาจากห้องพัก ไปเอาผ้าที่เครื่องซักผ้า โดยนายเดวาซิก้ามานี เป็นคนถือตะกร้า และมายืนคุยกันที่ลานจอดมอเตอร์ไซค์ด้านหลังอาคารสักพัก และจึงเดินกลับขึ้นห้องพัก

14.21 น. นายหน้าชาวอินเดียทั้งสองคน ออกจากห้องพัก โดยนายเดวาซิก้ามานี ถือถุงผ้าสีฟ้ามาด้วย และไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ขี่ออกจากอพาร์ตเมนต์ และกลับเข้ามาตอน 15.04 น. แต่ไม่พบว่ามีถุงผ้าสีฟ้า

16:52 น. นายหน้าชาวอินเดียทั้งสองคนออกมาจากห้อง โดยนายประกาดีสแยกไปเอารถเอ็มจีที่จอดไว้ที่ปั๊มน้ำมันใกล้อพาร์ตเมนต์ เพื่อมารับนายเดวาซิก้ามานี และได้ขับรถออกไป

17.31 น. กล้องวงจรปิดพบว่า นายหน้าชาวอินเดียขับรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถเอกชน ซอยจุฬาฯ 5 จากนั้นเวลา 17.52 น. ผู้ก่อเหตุได้นำสัมภาระออกจากรถเอ็มจี และไปขึ้นรถแท็กซี่ ซึ่งจอดรออยู่ที่ปากซอยจุฬา 5 เพื่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ

ต่อมาตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้เข้าไปตรวจสอบรถเอ็มจี ของนายหน้าชาวอินเดีย โดยประสานกองพิสูจน์หลักฐานให้เข้ามาเก็บหลักฐาน จากนั้นได้นำรถมาไว้ที่ สน.ท่าข้าม เพื่อประสานช่างกุญแจมาเปิดรถ เนื่องจากรถถูกล็อกประตู

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่ สน.ท่าข้าม พบว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีช่างกุญแจของรถเอ็มจี และยังไม่มีกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบรถเอ็มจีแต่อย่างใด ทั้งที่กำหนดการเดิมนัดไว้ที่เวลาประมาณ 9.00 น.

ส่วนความคืบหน้าทางคดี มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อเสนอศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับนายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน ในความผิดเกี่ยวกับการฆ่าคนตาย และการซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน อำพรางศพ ซึ่งคาดว่าจะขออนุมัติศาลออกหมายจับให้ได้ภายในวันนี้ (23 ม.ค. 2567)

เนื่องจากการสอบปากคำเพื่อนผู้ตาย ซึ่งเป็นชาวเมียนมา พบว่า ในช่วงเวลาที่ผู้ตายถูกนายหน้าชาวอินเดียเรียกขึ้นไปคุยที่ชั้น 2 เชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกรุมทำร้ายโดยมีปากเสียงเรื่องที่ผู้ตายยังไม่ได้งานทำ ทั้งที่จ่ายเงินให้กับนายหน้าชาวอินเดียไปแล้วถึง 7,000 บาท โดยผู้ที่ก่อเหตุเป็นนายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน ที่ร่วมกันรุมทำร้ายและใช้ของแข็งทุบหัวจนผู้ตายเสียชีวิต จากนั้นจึงไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการหั่นศพ คือเลื่อยไฟฟ้า และตู้แช่เย็น ซึ่งหากศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ก็จะประสานไปยังตำรวจสากล รวมถึงออกหมายแดง เพื่อให้ช่วยจับกุมสองนายหน้าชาวอินเดียมาดำเนินคดีต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของนายหน้าชาวอินเดียทั้ง 2 คน พบว่าก่อนหน้านี้เคยเดินทางเข้าประเทศไทยมา 3 ครั้ง โดยนายประกาดีส เข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 15 วันและเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 12 เมษายน 2566

ครั้งที่สอง ในวันที่ 26 เมษายน 2566 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วันและเดินทางออกไปในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 และเดินทางเข้าครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วันและเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 20 มกราคม 2567

ส่วนนายเดวาซิก้ามานี เดินทางเข้ามาครั้งแรกในวันที่ 10 เมษายน 2562 ด้วยวีซ่าคนอยู่ชั่วคราว และเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 2 มกราคม 2566

ครั้งที่สองเดินทางเข้ามาในวันที่ 5 มีนาคม 2566 ด้วยวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวและเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ก่อนจะเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งล่าสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว 60 วันและเดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 20 มกราคม 2567

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/SSNXyY7sVfo