ไล่ออกแล้ว! ไรเดอร์ฉุนตาวัย 79 ปั่นจักรยานชนมอเตอร์ไซค์ ใช้ไม้ฟาดกกหูจนล้ม-หูฟังขยายเสียงพัง

ไรเดอร์ฉุนตาวัย 79 ปั่นจักรยานชน จยย. ตามมาขี่รถปาดหน้าแล้วใช้ไม้ฟาดเข้ากกหูจนล้ม ล่าสุดไรเดอร์ผู้ก่อเหตุโดนไล่ออกแล้ว โลตัสรับผิดชอบค่าใช้จ่ายผู้เสียหาย

ตาบัว น้อยเสี่ย อายุ 79 ปี ปั่นจักรยานอยู่ในซอยทวีวัฒนากาญจนา 22 จากนั้นมีไรเดอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาแล้วปาดหน้า ก่อนจะลงมาเอาท่อนไม้ฟาดเข้าที่กกหูของตาบัว แล้วต่อยซ้ำอีก 2 หมัด พร้อมกับผลักตาบัวล้มลงกับพื้นถนน ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา

คลิปนี้ถูกแชร์ในเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 พร้อมข้อความว่า “ตีลุงทำไม... ลุงแก่หูไม่ค่อยดี พี่ไรเดอร์ทำไมหัวร้อน ใครรู้จักสะกิดบอกหน่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่จัดการให้ด้วย #เลวมากทำไมทำกับคนแก่ได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นญาติพี่น้องคุณเองคุณจะรู้สึกยังไง ลุงแกหูไม่คอยดี แกเลยไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง อาจจะปั่นจักรยานคดไปคดมา เลยไปขวางทางพี่เขา นี่ตีด้วยไม้ผุนะ ถ้าไม้แข็งแกจะเป็นยังไง”

เมื่อวานนี้ (3 ม.ค. 2567) ทีมข่าวมีโอกาสได้คุยกับตาบัว กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักกับคนก่อเหตุ แต่เคยเห็นว่ามาส่งของให้คนในซอย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนก่อเหตุกล่าวหาว่า คุณตาบัวปั่นจักรยานไปชนรถเขา ซึ่งตาก็ยอมรับว่าชนจริง แต่ไม่แรง จึงไม่ได้ขอโทษ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจตามมาทำร้ายร่างกาย หลังเกิดเหตุญาติของผู้ก่อเหตุพาเจ้าตัวมาเจรจา แต่คู่กรณีไม่ขอโทษสักคำ มีแต่คนอื่นขอโทษแทน

ทีมข่าวอาชญากรรมได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบกับคุณป้าจำปี พรมงาม อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านที่เผยแพร่ภาพวงจรปิด ได้พาทีมข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งหยิบท่อนไม้ท่อนที่ไรเดอร์ใช้ฟาดคุณตาให้ทีมข่าวดู กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุเธอไม่อยู่บ้าน แต่คุณตาบัวขี่จักรยานมาฟ้องภายหลังว่า ตอนเช้าวันที่ 2 มกราคม คุณตาปั่นจักรยานออกจากบ้านไปยังปากซอย แล้วไปเฉี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ของไรเดอร์เล็กน้อย แล้วก็ปั่นออกมา ปรากฏว่าไรเดอร์ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาประกบที่หน้าบ้านเธอพอดี จึงจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ ทำให้คุณตาได้รับบาดเจ็บบริเวณที่กกหูด้านซ้าย และหูฟังที่ช่วยขยายเสียงพัง

แต่คุณตาไม่ได้ไปแจ้งความ กระทั่งหลานๆ ทราบเรื่องจึงไปแจ้งความ และให้ติดตามตัวไรเดอร์มาดำเนินคดี ซึ่งช่วงเช้าวานนี้ ไรเดอร์ที่ก่อเหตุมาเจรจาแล้ว ฝ่ายคุณตาเรียกค่าเสียหาย 5,000 บาท พร้อมค่าทำหูฟังใหม่ แต่ไรเดอร์อ้างว่ามีเงินไม่พอ จึงขอชำระค่าเสียหายเพียงแค่ 2,500 บาท ซึ่งตัวคุณตาเองก็ยินยอมและไม่ติดใจเอาความทางอาญา

คุณป้า กล่าวอีกว่า คุณตาบัวเป็นคนจิตใจดี พักอาศัยอยู่คนเดียว ในบ้านของเจ้านายที่ดูแลแกอยู่ท้ายซอย ปกติมักจะชอบปั่นจักรยานทุกๆ เช้า ไปๆ มาๆ เพื่อไปซื้อกับข้าวมาให้เจ้านาย และเป็นที่รักใคร่ของคนในซอย เป็นคนอารมณ์ดี และมีเมตตา จึงเข้าใจว่าทำไมคุณตาถึงไม่ติดใจเอาความดำเนินคดีกับไรเดอร์ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวมองว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุและยอมไม่ได้

ขณะที่ทางโลตัส ซึ่งเป็นบริษัทร้านสะดวกซื้อต้นสังกัดของไรเดอร์ผู้ก่อเหตุ ได้ออกจดหมายชี้แจงว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ที่พนักงานไรเดอร์ส่งสินค้าของโลตัส โก เฟรช สาขาสนามหลวง 2 ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ขับขี่จักรยาน ในวันที่ 2 มกราคม 2567

ทางบริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าเมื่อบริษัทฯ ได้รับทราบเรื่อง ก็มิได้นิ่งนอนใจและได้เร่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากพนักงานคนดังกล่าวทันที พร้อมติดต่อผู้เสียหายและบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์

โดยในวันที่ 3 มกราคม 2567 ตัวแทนบริษัทฯ ได้นำพนักงานผู้ก่อเหตุ ติดต่อที่ สน.ศาลาแดง พร้อมด้วยผู้เสียหาย เพื่อดำเนินการรับผิดชอบตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานผู้ก่อเหตุได้ชดเชยค่าเสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้พนักงานดังกล่าว ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทฯ แล้ว และบริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือดูแลเพิ่มเติมให้กับผู้เสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทฯ รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โลตัส

ล่าสุดมีรายงานว่าทางโลตัสได้นัดหมายภายใน 1-2 วันนี้ ให้คุณตาบัวไปทำเครื่องหูฟังช่วยขยายเสียงใหม่ พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำหูฟัง และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ

https://youtu.be/y8Q4xd_7naU