พบศพชายผูกคอดับ ใกล้ร่างสาวสักลาย 'สายเถื่อน' แม่ตามเจอหลังลูกชายเข้าฝัน เมียเชื่อผัวตายมีเงื่อนงำ

เมื่อวานนี้ตำรวจพบศพหนุ่มน่าน ผูกคอเสียชีวิตในป่าทึบ พื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คาดเชื่อมโยงกับศพหญิงสาวที่ถูกฆ่าหมกไร่มันฯ ล่าสุดแม่หนุ่มน่านเผย ลูกชายมาเข้าฝัน "ไม่คิดจะตามหาลูกเลยเหรอ"

ความคืบหน้ากรณีพบศพหญิงสาวที่มีรอยสัก "สายเถื่อน" ที่หลังต้นคอ ถูกฆ่าซุกในร่องน้ำ ข้างไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน และที่ศพยังพบผ้ายันต์ไอ้ไข่ วัดสิชล จ.นครศรีธรรมราช ตกอยู่ด้วย ซึ่งตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายคือใคร

แต่เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ห่างจากจุดที่พบศพหญิงสาวไปราว 2 กิโลเมตร ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งพบศพคนผูกคอตาย บริเวณป่าริมถนนทางหลวงหมายเลข 321 (สัตหีบ-นครราชสีมา) ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จุดที่พบศพต้องเดินลึกเข้าไปในป่าราว 20 เมตร พบศพนาย จีระพันธ์ จันทรส หรืออาร์ม อายุ 33 ปี ชาว จ.น่าน อาชีพขับรถบรรทุก สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ใช้ผ้าขาวม้าสีแดง แขวนคอมัดติดกับยอดต้นไม้ สูงห่างจากโค่นต้นประมาณ 2-3 เมตร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน จนศพเริ่มเน่าขึ้นอืด ภายในตัวศพพบบัตรประชาชน กุญแจรถมอเตอร์ไซด์ ยี่ห้อฮอนด้า และ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง

ส่วนคนที่มาพบศพคนแรก คือ นาง รันจวน อายุ 51 ปี ผู้เป็นแม่ และ นาย จีระวัฒน์ อายุ 24 ปี น้องชาย สาเหตุที่มาพบศพ นาง รันจวน เล่าทั้งน้ำตาว่า วันที่ 27 พฤศจิกายน หรือราว 1 สัปดาห์ก่อน ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ โทรศัพท์ไปแจ้งว่าพบรถมอเตอร์ไซด์ของลูกชายน้ำมันหมด จอดทิ้งไว้ที่ริมถนนใกล้กับจุดที่พบศพ แต่ไม่เจอตัวลูกชาย แถมยังติดต่อไม่ได้ เธอจึงไปเอารถมอเตอร์ไซต์กลับบ้าน และไปแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

และหลังจากนั้นยังติดต่อลูกชายไม่ได้ จึงไปหาหมอดูให้ช่วย ซึ่งหมอดูบอกว่าลูกชายไม่ได้หายไปไหน อยู่ใกล้ๆ กับจุดที่เจอรถมอเตอร์ไซด์จอดทิ้งไว้ จนกระทั่งช่วงเช้ามืดวันที่ 4 ธันวาคม เธอฝันว่าลูกชายโทรวิดีโอคอลมาหา บอกว่า "ไม่คิดจะตามหาลูกหรือ" ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "โอนเงินให้ด้วยเด้อ! ลูกอยู่ใกล้ๆ กับที่จอดรถมอเตอร์ไซด์ทิ้งไว้"

แม่กับลูกชายคนเล็กจึงชวนกันมาตามหาตรงจุดที่จอดรถทิ้งไว้ โดยลูกชายคนเล็กเดินเข้าไปในป่าสักพัก ก็ถึงกับช็อกเข่าทรุด เพราะเจอศพพี่ชายผูกคอตายตรงหน้า

และระหว่างตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ นาง วรรณิภา จันทรส ภรรยาของผู้ตายได้โทรศัพท์เข้ามาหาแม่ของผู้ตาย พร้อมกับบอกว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดของสามี เธอและลูกจึงเดินทางมาจากจังหวัดน่านเพื่อมาหา กระทั่งวันที่ 25 พฤศจิกายน ก่อนจะกลับบ้านที่น่าน 1 วัน เธอจับได้ว่าสามีแอบคุยกับหญิงอื่น จึงมีปากเสียงกัน สามีได้พูดทิ้งท้ายว่า "ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาวเอาใจเก่ง" กระทั่งมาทราบว่าสามีเสียชีวิต

ส่วนตัวเธอไม่เชื่อว่าสามีจะฆ่าตัวตาย เพราะก่อนหน้านี้ได้มีแชทข้อความเพื่อนร่วมงานของผู้ตายส่งไปถามหา "นายข้าวฟ่าง" ซึ่งเป็นเพื่อนอีกคน ว่าเห็นผู้ตายบ้างหรือไม่ แต่นายข้าวฟ่างกลับตอบว่า "สงสัยถูกอุ้มไปแล้ว"

เช่นเดียวกับนาย นพรัตน์ นันทสุธา อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยงของนาย อาร์ม ที่ไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย พร้อบอกว่า ลูกชายหายตัวไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน เพราะเคยไปตามหาที่ห้องพักเห็นลูกชายนั่งเผาเอกสารร้องไห้ฟูมฟาย ถามอะไรก็ไม่บอก จนมารู้จากภรรยาว่า ลูกชายทะเลาะกับเมีย ก่อนจะหายตัวไป และไม่เชื่อว่าศพลูกชายจะไปเกี่ยวข้องกับศพของหญิงสาวที่เจอก่อนหน้านี้

สำหรับนางวรรณิภา อายุ 37 ปี ภรรยาของนายจีระพันธ์ ที่จังหวัดน่าน บอกว่า ตนอยู่กินกับสามีมา 20 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนหน้านี้ตนและสามีไปทำงานอยู่ระยองประมาณ 4 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน มีปากเสียงแค่กับตนเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุตนกับสามีมีปากเสียงกันรุนแรง เรื่องหึงหวงเพราะสามีกลัวว่าตนจะไปคบหากับผู้ชายคนอื่น ตนจึงตัดสินใจกลับน่าน มาอยู่บ้านเพื่อดูแลหลาน แต่ก็ยังไปๆ มาๆ ระหว่างน่านกับระยอง

กระทั่งล่าสุดตนไปเยี่ยมสามีที่ระยอง ก่อนกลับช่วงวันลอยกระทง(26 พ.ย.) สามีถามตนว่า "ถ้าพี่มีเมียใหม่ น้องจะยอมไหม" ตนก็บอกว่า "ยอม ถ้าไม่รักกันหรือจะไปมีใหม่ก็ขอให้บอกกันตรงๆ" ซึ่งเขาบอกว่า"สเปคเขาชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ และเอาใจเก่ง น่าจะรักกันได้นาน" ซึ่งตนก็ตัดพ้ออยากจะมีก็มีไป เขาก็เข้ามากอด และชวนตนไปดูหนังเรื่องสัปเหร่อด้วยกัน

หลังจากนั้นสามีก็ไปส่งตนขึ้นรถโดยสารกลับมาที่น่าน เมื่อตนถึงบ้านก็ได้โทรคุยกับสามีช่วงตี 2 ของวันที่ 27 พ.ย. เขาบอกว่าจะไปส่งของ และได้มีปากเสียงกับตนอีกรอบหนึ่ง โดยสามีพูดประชดว่า "จะอยู่กันอย่างนี้ใช่ไหม พี่อยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีเธอ"

ระหว่างนั้นลูกสาวเข้ามาห้ามว่า พ่ออย่ามาหาเรื่องแม่ หลังจากนั้นก็วางสายและขาดการติดต่อไป ตนพยายามทั้งโทรหา และทักไลน์ไปก็ไม่รับสาย ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่เจอศพก็เป็นเวลา 9 วันแล้ว ทั้งนี้ตนไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับศพที่เจอฆ่าฝังดินหรือไม่ เพราะจากเบาะแสสุดท้าย ทราบจากเจ้าของบริษัทบอกว่า สามีไปมีปากเสียงกับคนในบริษัท คล้ายกับว่าสามีไปหึงหวงผู้หญิงคนหนึ่ง พูดว่า "มึงยุ่งกับเด็กกูเหรอ มึงอย่ายุ่งกับเด็กกู" แต่ตนก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

สุดท้าย ตนเชื่อว่าการตายของสามีจะต้องมีเงื่อนงำ รวมถึงญาติสังเกตว่าร่างสามีที่เจอมีลักษณะผิดปกติ เพราะสะพายกระเป๋าทั้งๆ ที่ตั้งใจจะผูกคอตาย บริเวณเชือกก็มีรอยเลือดเกือบเต็มร่างกาย รวมถึงเขาเอากุญแจมอเตอร์ไซค์ไปห้อยไว้ที่คอเสื้อ ทั้งที่เขาชอบห้อยไว้ที่เอวตรงหูกางเกง และคนจะฆ่าตัวตายจะดิ้นรนมาตายทำไมกลางป่า ที่บ้านก็ตายได้

หลังทราบว่าสามีเสียชีวิต ล่าสุดนางวรรณิภา ได้เดินทางมาที่ระยอง เพื่อรอติดต่อรับศพสามีไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด พร้อมกับติดตามความคืบหน้าทางคดี ว่าสามีฆ่าตัวตายเอง หรือมีคนทำให้เสียชีวิต

ขณะที่พันตำรวจเอก สุรกิจ อินอ่ำ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยใหญ่ เปิดเผยหลังประชุมว่า ยังไม่ฟันธงว่า 2 คดีนี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ เพราะต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่า ศพที่พบศพแรกนั้นเป็นใคร และต้องตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ นาย อาร์ม ที่ผูกคอตายว่า มีเบาะแสอะไรบ้าง

พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ ใครที่รู้จักหญิงสาวอายุประมาณ 30-40 ปี มีรอยสักที่หลังต้นคอคำว่า "สายเถื่อน" และรอยสักแผ่นหลังข้างซ้าย รูปเศียรพ่อแก่คู่กับฤาษีตาไฟ ใส่แหวนเงินที่นิ้วกลาง สามารถแจ้งมาได้ที่ สภ.ห้วยใหญ่

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Sxdxm-xmXGU