อาชญากรรม

เก๋งหนีตาย! บีเอ็มระห่ำไล่บี้-พุ่งชน โทร 191 ไม่ช่วยอ้างไม่มีคนเจ็บ แม่หนุ่มบีเอ็มอ้างลูกป่วยทางจิต

โดย paweena_c

3 พ.ย. 2566

83 views

หนุ่มแจ้งความ ถูกชายขับบีเอ็มขับไล่บี้ ก่อนเร่งเครื่องชนรถพังยับทั้งที่ไม่รู้จักกัน ครอบครัวอ้างป่วยทางจิต

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับ คุณวรภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อเช้ามืดวานนี้ เวลา 04.20 น. ตนขับรถออกมาจากเส้นแยก อตก. มีรถบีเอ็มขับตามมา ซึ่งขณะกำลังจะเดินทางไปทำบุญที่วัดหลังจากเลิกงานเพราะตนมีอาชีพเป็นนักร้อง

ซึ่งตอนนั้นก็สังเกตุว่า มีรถขับตามมาและเปิดไฟสูงใส่บนสะพาน ตนจึงขับรถหลบทางซ้ายให้ แต่รถของผู้ก่อเหตุขับจี้ตูดตามมา และบี้ไล่ตนมาเรื่อย ๆ ตนจึงรีบโทรหาเบอร์ 191 เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนก็ยังถูกขับรถตามอยู่เรื่อย ๆ ตนจึงตัดสินใจมุ่งหน้าจะขับรถไปที่โรงพักเพื่อจะไปแจ้งความ แต่รถของผู้ก่อเหตุขับประกบกันมาตลอดทาง

จนถึงบนสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถไล่บี้และเบียดตนไปถึงเลนซ้ายสุด ตนจึงถอยรถออกมา แต่ผู้ก่อเหตุกลับลำรถ และขับรถพุ่งชนหน้ารถของตนเต็ม ๆ และผู้ก่อเหตุได้ลงมาจากรถ ถือบุหรี่ในมือและเอามืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากได้หักรถเบี่ยงขวาหนีออกมาแต่ผู้ก่อเหตุก็ขึ้นไปที่รถของตัวเอง และขับรถชนตูดรถตนอีกครั้ง ก่อนที่ตนจะขับหนีออกมาได้

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุรถของผู้ก่อเหตุได้จอดคาไว้ที่บนสะพาน ตนคาดว่ารถอาจจะพัง และขับต่อไปไม่ได้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูพบว่าทะเบียนรถเขาไม่อยู่แล้ว และตัวผู้ก่อเหตุได้เรียกแท๊กซี่นั่งกลับบ้าน และให้แม่ผู้ก่อเหตุมาดูรถที่เกิดเหตุ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ มีอายุ 36 ปี

หลังจากเกิดเหตุตนได้ติดต่อไปทางผู้ก่อเหตุแต่ติดต่อผ่านทางแม่ของผู้ก่อเหตุเจ้าตัวเขาไม่ยอมออกมาคุย เพราะตอนที่เกิดเหตุตนก็ไม่ได้พูดคุยกับเขาและไม่มีการด่าทอกันเลย และขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเขามีอาวุธหรือไม่ แต่มืออีกข้างเขาควักเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ตนกลัวจึงรีบขับรถหนีไป ยืนยันไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน

คุณวรภพ กล่าวว่า ตนจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนขับบีเอ็ม มาดำเนินคดี และอยากบอกว่ารู้สึกน้อยใจตำรวจ 191 เป็นอย่างมาก เพราะตอนที่เกิดเหตุ ตนได้รีบโทรไปแจ้งตำรวจ 191 แต่ทางเจ้าหน้าปลายสาย บอกว่ายังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ยังไม่มีใครได้รับความเสียหาย จึงยังไม่สามารถมาดูเหตุในที่เกิดเหตุให้ได้ ซึ่งตอนนั้นอยากจะร้องให้เพราะรู้สึกเสียใจกับคำพูดของตำรวจ

คุณวรภพ บอกว่า ตนได้แจ้งความกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว และทราบข้อมูลว่าตำรวจได้เชิญผู้ก่อเหตุ มาตรวจสารเสพติด ปรากฏว่าพบสารเสพติดในร่างกาย และครอบครัวผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุมีอาการจากจิตเวช และนำเอกสารมายืนยันแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะเขาจะได้ไม่ทำแบบนี้กับใครอีก

ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ซึ่งเป็นทนายของคุณวรภพ บอกว่า แม้ว่า ทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุ อ้างว่าผู้ก่อเหตุป่วยจิตเวช ก็ต้องไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่จากการตรวจสอบพบยายาเสพติดในร่างกาย ซึ่งทางคดีอาญาก็ถือว่ามีความผิด เพราะจากประสบการณ์ ในฐานะที่ตนเองเป็นทนายความมากว่า 20 ปี ไม่เคยเจอว่าผู้ป่วยจิตเวชเสพสารเสพติดเลย

ด้าน พันตำรวจเอก นภธร วาชัยยุง ผู้กำกับ สภ.บางศรีเมือง บอกว่า ตำรวจได้เรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และตรวจร่างกายพบสารเสพติด ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดใดนั้น ต้องรอผลจากโรงพยาบาลก่อน จึงจะเรียกผู้ก่อเหตุ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา

ขณะที่ ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้ติดต่อสอบถามข้อมูลไปยังตำรวจภูธรภาค 1 ถึงประเด็นที่ทางผู้เสียหาย ได้โทรศัพท์ไปแจ้ง 191 ก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่ตำรวจปลายสายบอกว่าเหตุยังไม่เกิดจึงไม่สามารถดำเนินการได้ แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุขึ้นจริง จนทำให้ผู้เสียหายตั้งคำถามว่า หากตำรวจมาตั้งแต่แรกเพื่อระงับเหตุก็คงไม่เกิดเหตุขึ้นนั้น

ในเรื่องนี้ ทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีการสั่งการมอบหมายให้ทาง ผู้กำกับการ สภ.บางศรีเมือง ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานสายตรวจในคืนนั้นแล้ว

ส่วนกรณีการโทรแจ้งเข้ามาที่ 191 นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KnZkwImrAWM

คุณอาจสนใจ

Related News