รวบชายอ้างเป็น ตร.ภาค7 อุ้มรีดเงินหญิง 3 แสน ขู่หากไม่เอาเงินไถ่ จะยัดยาแล้วส่งตัวดำเนินคดี

ตำรวจคุมตัวนายต้น เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว เค้นสอบในคดี 4 ชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจภาค 7 บุกอุ้มหญิงวัย 48 ขึ้นเก๋งติดสัญญาลักษณ์ตำรวจ รีดเงิน 3 แสน ด้านเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ ตำรวจเร่งล่าที่เหลือ พร้อมแจ้งข้อหาหนัก

จากกรณี นางพัชรี อายุ 48 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนร้ายเป็นชาย 4 คน อุ้มขึ้นรถเก๋ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีสติ๊กเกอร์ตราโล่ ที่บริเวณกระจกหลัง รีดไถ่เงิน โดยจุดแรกคือบริเวณหน้าบ้านตามภาพในกล้องวงจรปิด เวลาที่ถูกลักพาตัวไปประมาณ 08.30 น. จุดที่ 2 เป็นบริเวณป้ายหาดหว้าขาว คือจุดที่นำเงินค่าไถ่ไปวางไว้ตามที่คนร้ายสั่ง และจุดที่ 3 คือจุดที่คนร้ายนำตัว นางพัชรี มาทิ้งไว้ที่บริเวณศาลาริมทางหน้าสถานีควบคุมไฟป่าฯ โดยเวลาที่ถูกปล่อยตัว ประมาณ 21.30 น.ของคืนวันที่ 20 ก.ย.66

นางพัชรี เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนพาหลานซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ไปส่งที่โรงเรียน และระหว่างเดินทางกลับบ้าน ได้มีรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับสวนทางมาแล้วปาดหน้ารถของตน ก่อนจะลงจากรถแล้วใช้ผ้าสีดำคลุมหัวเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้า แล้วบอกว่าเป็นตำรวจ ตนจึงไม่ได้ขัดขืน ขณะที่ถูกคุมตัวอยู่ในรถ กลุ่มคนร้ายเผลอหลุดเรียกชื่อเพื่อนร่วมทีมออกมาว่า "แงะเอาไงต่อ" โดยมีคนใช้ปืนจ่อหัวตนไว้ พร้อมกับใช้แขนล็อกคอตลอดเวลา

ต่อมาได้มีการพูดคุยกันบอกว่าเป็นตำรวจมาจากภาค 7 ติดตามกระบวนการค้ายาเสพติด โดยอ้างว่าผู้ต้องหารายหนึ่งซักทอดตนว่ามียาเสพติด ซึ่งตนก็ปฏิเสธ และบอกว่าหากไม่นำเงิน 300,000 บาท มาไถ่ตัวกลับไป จะยัดยาเสพติดให้แล้วส่งตัวไปดำเนินคดี

ระหว่างนั้นมีสายโทรศัพท์ของกลุ่มคนร้ายส่งให้ตนพูดกับลูกสาว ตนจึงตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มคนร้ายเอาเบอร์ลูกสาวตนมาจากไหน แต่ก็ไม่กล้าถาม จึงพูดกับลูกให้นำเงิน 300,000 บาท มาไถ่ตัว และตนรู้ทันทีว่าคนร้ายไม่ใช่ตำรวจอย่างแน่นอน

ขณะที่ น.ส.พรพิมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ลูกสาวของ นางพัชรี เล่าว่า หลังแม่ถูกจับตัวไปพอช่วงเย็นก็มีโทรศัพท์จากคนชื่อ "แงะ" ซึ่งเป็นตำรวจ ที่ตนจำได้เพราะเป็นคนรู้จักมักคุ้นกับอดีตแฟนเก่า  โดยคนชื่อ "แงะ" บอกกับตนว่า แม่ถูกตำรวจภาค 7 ควบคุมตัวไปก่อนวางสาย จากนั้นไม่นานมีโทรศัพท์เข้ามาใหม่ แต่เป็นเสียงของแม่พูดให้ตนหาเงินมาไถ่ตัวออก ตนไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหน จึงขอต่อรองเหลือ 200,000 บาท แล้วนัดหมายจ่ายเงิน พร้อมกับเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตำรวจคนดังกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งคลี่คลายคดี โดยล่าสุดชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายธาราพงษ์ คำบัวชา หรือ "ต้น ม่องล่าย" อายุ 33 ปี มาสอบสวนที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับรถเก๋งต้องสงสัย เป็นรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน กธ8939 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุมาตรวจสอบ ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามนายต้น ถึงสาเหตุที่อุ้มเหยื่อเรียกค่าไถ่ นายต้น ไม่ยอมพูดอะไร ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวนไป

โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวน นายต้น นานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งนายต้นยังให้การภาคเสธ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชคทรัพย์ โดยมีอาวุธ และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

นอกจากนี้ พล.ต.ต.วันชัย ยังได้สั่งให้ชุดสืบสวน รวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อยืนยันความชัดเจนว่า รถคันที่นำมาตรวจสอบกับรถในภาพกล้องวงจรปิดเป็นคันเดียวหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบช่องทางการสื่อสารว่า บุคคลดังกล่าวมีการติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องรายใด เพื่อเชื่อมโยงหากลุ่มผู้กระทำผิดที่เหลือ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4xJJDJwAf_U