'บิ๊กโจ๊ก' เรียกประชุมสอบฮั้วประมูล สางคดี 'กำนันนก' ยันขยายผลถึงที่สุด ไม่เว้นแม้เจ้าหน้าที่รัฐ

'บิ๊กโจ๊ก' เรียกประชุมหลายหน่วยงาน สางคดีบริษัทกำนันนกฮั้วประมูล ยันขยายผลถึงที่สุดไม่มีละเว้นแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

โดยในวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ชุดทำงานของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้ง ปปท., ป.ป.ช.,ปปง., สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร และดีเอสไอ

เพื่อหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับการฮั้วประมูลบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้างจำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้างจำกัด ของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ที่ชนะการประมูลโครงการภาครัฐไป 1,544 โครงการ

ซึ่งการประชุมวันนี้ บิ๊กโจ๊ก ในฐานะประธานคณะทำงานคลี่คลายคดีการฮั้วประมูลของกำนันนก ได้วีดีโอคอนเฟอเร้นท์มาจากประเทศจีน

โดยประเด็นสำคัญของการประชุมในวันนี้เพื่อตรวจสอบในทุกมิติเรื่องการชนะการประมูลบริษัทของกำนันนก ว่าชนะอย่างถูกต้องหรือไม่ มีการเลี่ยงภาษีหรือไม่ รวมถึงเส้นทางการเงินว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งข้อมูลตรงจุดนี้จะดูจากของกรมบัญชีกลาง

ซึ่งการที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบจะทำให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทของกำนันนกยังไม่เคยถูกร้องเรียนเรื่องของการฮั้วประมูล

โดยหากตรวจสอบพบว่ามีการฮั้วประมูลและมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ทาง ป.ป.ช. จะเข้าไปดำเนินการในส่วนนี้ และหากจะต้องมีการยึดหรืออายัดทรัพย์ ป.ป.ง. ก็จะเข้ามาดำเนินการ

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ดีเอสไอ หลังจากที่เมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้เรียกบริษัทเอกชนที่ร่วมยื่นซองประมูลมาให้ปากคำเกี่ยวกับ 2 โครงการที่บริษัทของกำนันนกชนะการประมูล

โดยโครงการแรกเป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อำเภอดอนตูม - ตำบลลำลูกบัว งบประมาณปี 2560 ได้เรียกมา10บริษัท

ส่วนอีกโครงการ คือโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว - บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 ซึ่งเป็นงบประมาณปี 2564 ได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว10บริษัท

ซึ่งล่าสุดวันนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้เรียกบริษัทที่ร่วมยื่นซองประมูลจากทั้ง 2 โครงการมาสอบปากคำเพิ่มเติมรวม 20 บริษัท

โดยแบ่งเป็นโครงการในปี 2560 จำนวน 10 บริษัท ประกอบด้วยท่าราบก่อสร้าง จำกัด, บริษัท โอ.เอ็น. คอนสตรัคชั่น จำกัด, บริษัท ซีโก้ทรานสปอร์ต จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุนิสาจุฬารัตน์การโยธา, ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที.เจ.เอ็น.เทรดดิ้ง, ห้างหุ้นส่วนจำกัดมาตรศรีจักรกล, บริษัทกษิดิศเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด, บริษัท เจริญกิจ ซี.เค จำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิจสินเลิศ, และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ว.ประยูรก่อสร้าง1984 

และโครงการในปี 2564 จำนวน 10 บริษัท ประกอบด้วยห้างหุ้นส่วนจำกัดสุวรรณกิจกำแพงก่อสร้าง, บริษัทโรจนากรพาณิช(1981) จำกัด, บริษัท เอส.โอ.เอ็น.เอ็นจิเนียริ่งจำกัด, บริษัทบุญสหะการสร้างจำกัด, ห้างหุ้นส่วนจำกัดน้องเล็กสถาปัตย์, ห้างหุ้นส่วนจำกัดประโยชน์การโยธา, บริษัทกรีนไลท์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด, บริษัทเทิดไทแอนด์โคจำกัด, บริษัท พรรณีวรกิจก่อสร้างและขนส่งจำกัด และบริษัทธาราวัญคอนสตรัคชั่นจำกัด

โดยตั้งแต่ช่วงเช้าตัวแทนของบริษัทได้ทยอยเดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระดาษปิดบริเวณกระจกห้องประชุม เพื่อป้องกันไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพขณะสอบปากคำ บริษัทเอกชนขณะมีการสอบปากคำ

ส่วนการสอบปากคำเมื่อวานนี้พบว่ามีบริษัทมาเข้าให้ปากคำทั้งหมด 12 บริษัท ทำหนังสือแจ้งเลื่อนให้ปากคำ 8 บริษัท

โดยให้เหตุผลว่ากำลังเตรียมเอกสาร บางรายชี้แจงว่าตัวแทนผู้จัดการบริษัทไม่สะดวกเพราะหมายเรียกกระชั้นชิดเกินไป ทั้งนี้ทุกบริษัทต้องมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำซึ่งหากไม่มาจะมีความผิดคือรับโทษจำคุก 1 ปี

มีรายงานเพิ่มเติมว่าพันตำรวจตรี​สุริยา​ สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งไปยังทีมโฆษกของดีเอสไอ ว่าจะขอให้รายละเอียดทั้งหมด หลังจากมีการสอบปากคำบริษัททั้งหมดเรียบร้อย คาดว่าจะเป็นวันที่ 20 กันยายนนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/rEb8Xz-W4v4