อาชญากรรม

เปิดจดหมาย ‘พ่อฆ่ายกครัว’ ร่ายขอโทษดูแลครอบครัวไม่ได้ จำใจก่อเหตุไม่อยากทิ้งลูกไว้

29 ส.ค. 2566

437 views

เปิดจดหมายลาตาย พ่อฆ่ายกครัว 3 ศพ ขอโทษไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ และไม่อยากทิ้งลูกไว้ จึงจำเป็นต้องก่อเหตุ ส่วนยอดเงินบริจาค จาก 2 โรงเรียนได้กว่า 2 ล้านบาท หลังจบงานศพจะนำบริจาคโรงพยาบาล

จากเหตุการณ์สลด พ่อวัย 41 ปี เครียดเรื่องปัญหาหนี้สิน ก่อเหตุเมียและลูกชาย 2 คน อายุ 9 ขวบ และ 13 ขวบ รวมเป็น 3 ศพ คาบ้านพักที่จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนผู้เป็นพ่อพยายามปาดคอปลิดชีพตนเองอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยชนวนเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดเรื่องหนี้สิน หลังไปค้ำประกันรถโตโยต้าอินโนวาให้กับอดีตหัวหน้างาน แต่อยู่ๆ อดีตหัวหน้าก็ไม่ผ่อนแล้วหนีหายไป จอดรถทิ้งไว้ สุดท้ายโดนไฟแนนซ์ฟ้อง และมีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้านว่ามีหนี้อยู่กว่า 8 แสนบาท ถ้าไม่ชำระบ้านจะถูกยึด

ขณะเดียวกันยังมีกรณีที่ภรรยาของ นายสาณิช ผู้ก่อเหตุ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกจนเป็นหนี้ 1 ล้าน 7 แสนบาท ซึ่งเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม ผ่านมา ทางภรรยาผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ระบุว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ได้เห็นโพสต์โฆษณาบอกว่าสามารถปล่อยเงินกู้ได้ 5 เท่าของเงินเดือน จึงสนใจและเข้าแอปเงินกู้นอกระบบ ลักษณะก็คือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงิน 1 แสนบาท แต่กลับถูกให้โอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบ จนต้องไปกู้หนี้ยืมเงินคนอื่นมาอีกกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท เพื่อโอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สุดท้ายก็ไม่สามารถกู้เงินได้จริง

เจ้าหน้าที่ไปพบจดหมายลาตายของผู้ก่อเหตุ เขียนด้วยลายมือ ถึงพ่อ พี่ชาย และหลาน ๆ ระบุว่า “ถึงพ่อและเฮีย ที่รักและเคารพ ขอบคุณพ่อและเฮีย ที่เลี้ยงผมมา ผมไม่สามารถดูแลครอบครัวได้ และผมไม่อยากทิ้ง (บอกชื่อลูกทั้ง 2 คน) ไว้ได้ ผมขอโทษที่ทำแบบนี้ ไม่มีใครถูกและผิดในการกระทำครั้งนี้ ผมและครอบครัวเป็นคนทำกันเอง ฝากดูแลพ่อด้วยนะ ชาติหน้ามีจริง ขอให้ครอบครัวเราเกิดมาเป็น พ่อ พี่ชาย แบบนี้กันต่อไป รักมาก รักทุกคน ฝากบอกหลานๆ ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน เพื่อครอบครัว ลุงขอโทษทุกคนด้วย”

ส่วนเรื่องของการจัดงานศพ นายศักดิ์สิทธิ์ ระพาเพท รองปลัดเทศบาลเมืองบางแก้ว เผยว่า ได้รับการประสานจากญาติฝ่ายหญิงว่า จะจัดที่วัดหนามแดง จังหวัดสมุทรปราการ จึงไปติดต่อจองศาลาวัดหนามแดงไว้ให้ แต่ปรากฏว่า พี่ชายของผู้ก่อเหตุมาติดต่อรับศพ 3 แม่ลูก กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่กำแพงเพชร ก่อนที่ญาติๆ ของฝ่ายหญิงจะมาถึง

ต่อมา นายสุรศักดิ์ อายุ 66 ปี พ่อเลี้ยงของฝ่ายหญิง มาที่ สภ.บางแก้ว เพื่อมาแจ้งความเอาผิด นายสาณิช ลูกเขย ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยมี พันตำรวจโท รังสรรค์ คำสุข รองผู้กำกับการสอบสวน รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สภ.บางแก้ว เป็นคนรับแจ้งความ

จากนั้นนายสุรศักดิ์ เผยว่า ตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงมีการรับศพกลับไปที่กำแพงเพชร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยตกลงกันแล้ว ว่าจะนำศพลูกสาวและหลานชายทั้งสอง ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดหนามแดง เนื่องจากมีญาติพี่น้องที่ทำงานแถวนี้ และเพื่อความสะดวกกับญาติทั้งสองฝ่าย เรื่องนี้ตนไม่ยอม และต้องนำศพลูกสาวและหลานชาย กลับมาที่วัดหนามแดง ส่วนเรื่องที่จะแจ้งความเอาผิดในข้อหาลักศพ หรือไม่นั้น ขออุบไว้ก่อน ที่ผ่านมาตนเองติดต่อลูกสาวไม่ได้มา 2-3 เดือนแล้ว โทรไปไม่เขาไม่รับสาย ลูกสาวก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง เห็นใช้ชีวิตตามปกติสุข ส่วนลูกเขยก็เป็นคนนิสัยดี จึงไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนจนกระทั่งมาเกิดเหตุ

ส่วนบรรยากาศงานศพที่วัดถนนงาม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวานนี้ศพ 3 แม่ลูก ไปถึงที่วัดประมาณ 1 ทุ่ม มีญาติมารอรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นายพิเชษฐ์ อายุ 50 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ เผยว่า น้องชายเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ที่ผ่านมาไม่เคยปรับทุกข์อะไรกับตนเลย จึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นเหตุจูงใจ ส่วนเรื่องการกู้เงินจากแหล่งต่างๆ นั้น ตนยังไม่เห็นรายละเอียด ตอนนี้ตำรวจก็เก็บหลักฐานไปหมดแล้ว ขอจัดการเรื่องงานศพของทั้ง 3 ศพก่อน โดยจะเผาในวันพฤหัสบดีนี้ จากนั้นจะเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจ

ส่วนเรื่องที่ญาติน้องสะใภ้บอกว่า ไม่อนุญาตให้รับศพมาประกอบพิธีที่นี่ ขอชี้แจงว่า ตนรับศพมาถูกต้อง มีรองผู้กำกับเซ็นรับรองมาให้ ส่วนเรื่องเงินประกันของหลาน ตนยืนยันว่าไม่รู้ และไม่ได้คิดเรื่องนั้น หากญาติทางโน้นจะมารับศพกลับ ก็สามารถทำได้ แต่ศพทำพิธีไปแล้ว อยากให้มาร่วมพิธีที่นี่มากกว่า

ล่าสุด ทีมข่าวติดต่อไปที่นายไพบูลย์ น้องชายฝ่ายหญิงที่เสียชีวิต ถึงเรื่องการจัดงานศพ ซึ่งนายไพบูลย์บอกว่า ฝ่ายพี่เขยไม่รับโทรศัพท์เลย จึงไม่ทราบเรื่องเลยว่า ฝ่ายพี่เขยจัดงานที่ไหนอย่างไร และไม่รู้เลยว่า ศพจะเผาวันพฤหัสบดีนี้แล้ว / ซึ่งข่าวที่ออกไปพาดหัวว่า ศึกแย่งศพนั้น ครอบครัวก็ไม่โอเค ตอนนี้ฝ่ายตนเป็นผู้สูญเสีย กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก ตอนนี้ตนจะไปพูดคุยกับพ่อ เพื่อเดินทางไปร่วมงานศพที่กำแพงเพชรแทน เพราะสงสารพี่สาวหากต้องย้ายศพไปมา

ส่วนเงินบริจาคที่โรงเรียนของเด็กชายทั้ง 2 คน คือ โรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ ของลูกคนโต และโรงเรียนสาธิตบางแก้ว ของลูกคนเล็กได้เปิดรับบริจาคเงิน เพื่อใช้ประกอบพิธีศพของทั้ง 3 คน ล่าสุดปิดรับบริจาคแล้ว

โดยยอดเงินบริจาคของโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ อยู่ที่ 2 ล้าน 3 แสน 90,244 บาท ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในบัญชีธนาคารของโรงเรียน ส่วนของโรงเรียนสาธิตบางแก้ว ไม่ได้เปิดรับบริจาค แต่เป็นการเรี่ยไรกันของครูและผู้ปกครอง เป็นเงิน 72,409 บาท เงินส่วนนี้ จะนำไปใช้จ่ายเป็นค่าทำศพ และร่วมทำบุญ หากเงินไม่หมด ก็จะนำไปทำบุญกับทางโรงพยาบาลบางพลี และโรงพยาบาลคลองขลุง


รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/I3jrX-PPGtY

คุณอาจสนใจ