อาชญากรรม

‘แอม’ ผู้ต้องหาวางยา เครียดจัด หามส่ง รพ.กลางดึก ทีมทนายไม่กังวล เตรียมยื่นประกันตัว

โดย chutikan_o

26 เม.ย. 2566

6.4K views

ตร.กองปราบจับ ‘แอม’ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า เธอน่าจะเป็นคนวางยาฆ่า ‘ก้อย’ และเหยื่ออีก 10 คน ล่าสุด ‘แอม’ เครียดจัด ความดันขึ้นต้องหามตัวส่งโรงพยาบาลกลางดึก



เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (25 เม.ย. 2566) ตำรวจกองปราบปราม นำหมายจับศาลอาญาเข้าควบคุมตัว นางสาวสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม อายุ 36 ปี ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งหมายจับนี้เป็นคดีการเสียชีวิตของนางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี เพื่อนสนิทของแอม ที่พากันไปปล่อยปลาทำบุญที่ท่าน้ำ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้วเสียชีวิตช่วงประมาณเกือบ 9.00 น. ของวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา


สาเหตุที่แอมไปที่ศูนย์ราชการเมื่อวานนี้ ทนายความของเธอบอกว่า เพราะจะไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่เธอโดนพาดพิงและกล่าวหาในคดีของก้อย แต่ระหว่างที่รอทนายความก็ถูกรวบตัวก่อน ซึ่งเธอได้โทรแจ้งทนายความทันที เรื่องที่ถูกออกหมายจับ


จากนั้นตำรวจกองปราบนำตัวแอมขึ้นรถมาที่สโมสรตำรวจ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เพราะมีผู้เสียหายอีกหลาย ครอบครัวมาร้องเรียนว่า แอมน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของคนในครอบครัวพวกเขาด้วย แต่ตอนที่นำตัวมา ตำรวจแอบพาขึ้นที่ด้านข้างของอาคาร ทำให้สื่อไม่ได้ภาพ จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง


การสอบปากคำที่นี่ใช้เวลาราว 40 นาที ก่อนที่ทนายความของแอมจะพาเธอออกมาพร้อมตำรวจกองปราบ เพื่อนำตัวไปสอบปากคำต่อที่กองปราบปราม ซึ่งระหว่างเดินไปที่รถ ทนายความจะเดินนำหน้าและแอม ซึ่งกำลังท้อง 4 เดือน ซุกตัวอยู่กับตำรวจข้างหลัง นักข่าวพยายามสอบถามถึงข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เธอถูกพาดพิง แต่ไม่มีคำตอบใดๆ


หลังจากนั้นราว 2 ชั่วโมง บิ๊กโจ๊ก ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ต้องหายังปฏิเสธ แต่หลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ออกหมายจับผู้ต้องหา คือ ผลชันสูตรผู้ตายที่พบว่ามีสารไซยาไนด์ และมีเจอขวดไซยาไนด์

ขณะนี้พบผู้ที่น่าจะเป็นเหยื่อถึง 11 คน เสียชีวิตแล้ว 10 คน และรอดตายมาได้ 1 คน ทั้งหมดเป็นคนที่อยู่แวดล้อมกับผู้ก่อเหตุ ทั้งที่แฟลตตำรวจ เพื่อน และอดีตสามี คนแรกที่เสียชีวิตตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 กระทั่งรายล่าสุด คือ ก้อย เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ที่จังหวัดราชบุรี สำหรับผู้รอดชีวิตเหตุเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุของทั้ง 10 คน อยู่ใน 3 จังหวัด คือ นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี


แต่ความยากของคดีนี้ คือ การเสียชีวิตของหลายคน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจสาเหตุการตายตั้งแต่แรก จึงไม่ได้ไปแจ้งความ และไม่ได้ตรวจหาสารพิษในร่างกายเอาไว้ ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมตำรวจยังมุ่งไปที่ประเด็นล้างหนี้และประสงค์เอาทรัพย์


ขณะที่เมื่อคืนนี้ หลังจากแอมถูกส่งตัวมาที่กองปราบปราม ราวเวลา 21.00 น. นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม ผู้ต้องหา ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า 6 ชั่วโมงที่ถูกควบคุมอยู่ที่กองปราบปราม ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำเลย ให้นั่งรออยู่ในห้องโดยบอกว่า ยังพิมพ์สำนวนไม่เสร็จ ซึ่งแอมเครียดและความดันขึ้น ต้องวัดความดันแทบจะทุกครึ่งชั่วโมง และหากตำรวจสอบปากคำ หรือให้อ่านสำนวนคำฟ้อง แอมก็ยังปฏิเสธเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ฆ่า แต่ยอมรับว่าเป็นคนที่อยู่กับก้อย ผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย ส่วนการต่อสู้คดีทีมทนายไม่กังวล เพราะรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว ทันทีที่ตำรวจคุมตัวไปส่งศาลฝากขัง จะยื่นเรื่องประกันตัว นอกจากนี้ฝากแก้ข่าวด้วยว่า แอมไม่ใช่เท้าแชร์


ถัดมา เวลาประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา แอมถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพราะความดันขึ้น แพทย์ให้นอนและให้ยาอยู่ราว 3 ชั่วโมง กระทั่งความดันเป็นปกติจึงส่งตัวเธอกลับมาควบคุมต่อที่กองปราบปราม ในเวลาตี 4


โดยในช่วงหนึ่ง ทนายความของแอม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีที่มีสื่อลงข่าวว่า “แอม”เข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ก่อนก่อเหตุวางยา “ก้อย” โดยว่า “เขาบอกแล้วค่ะว่าเขาไม่เป็นผู้กระทำ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีสื่อลงว่าแอมเข้าไปร้านสะดวกซื้อ อาจเป็นช่วงเวลาที่เกิดการสัมผัสหรืออะไรอย่างนี้ได้ เขาท้าให้ไปดูที่ร้านสะดวกซื้อ ทนายจึงไปตรวจสอบภาพจากวงจรปิด แล้วก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ลงไป ทนายก็เลยไปที่เซเว่น ไปขอภาพจากกล้องวงจรปิด ได้มีการตรวจสอบ แล้วจะเห็นว่าเขาไม่ได้ไปเซเว่น เรื่องนี้สนุก”

“อยากบอกกับสังคม การไปไหนมาไหนทุกวันนี้ก็ต้องระวัง อย่ารับของคนแปลกหน้า อย่าไปกับคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนสนิท คุณเริ่มระแวงหรือไม่ ระแวงนะ ทุกวันนี้ก็ไม่กล้ารับน้ำใคร” ทนายของแอม กล่าว...


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/iNAj2bYpfWo


คุณอาจสนใจ