อาชญากรรม
นาทีระห่ำ แก๊งโจรปล้นฝ่ายปกครอง ชิงยาบ้า 2 หมื่นเม็ด เตรียมขอออกหมายจับ รู้เบาะแสที่ซ่อนรถ
โดย paweena_c
20 ต.ค. 2565
80 views
ตำรวจทราบเบาะแส กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุชิงรถยนต์เจ้าหน้าที่ และชิงยาบ้า 2 หมื่นเม็ดแล้ว พร้อมเตรียมยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยขณะนี้ทราบเบาะแส รถของเจ้าหน้าที่ว่าถูกซ่อนไว้ที่ไหน
ภาพวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง เผยภาพรถยนต์หลายคันวิ่งผ่านหน้าบ้าน โดยเชื่อว่า รถยนต์ 2 คันแรก เป็นของ กลุ่ม อส.ที่พาผู้ต้องหาคือ นายธนกร ไปนัดรับยาเสพติดที่มีการติดต่อล่อซื้อ ส่วนรถที่ตามมาติด ๆ คือรถคนร้ายที่ขับตามมาเพื่อก่อเหตุชิงยาบ้า 10 มัด หรือยาบ้าประมาณ 2 หมื่นเม็ด โดยเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.45 น. ของคืนวันที่ 18 ตุลาคม
โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ชุดอส. นำโดยจ่าเอกไพรัช แก้วมณี รองปลัดป้องกันจังหวัดสงขลา และเป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ได้ทำทีติดต่อล่อซื้อยาบ้าจาก นายธนกร อายุ 35 ปี และได้ของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด และมีการนัดส่งมอบกันที่สถานที่แห่งหนึ่ง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
จากนั้น ฝ่ายปกครองชุดนี้ ก็ให้นายธนกร ติดต่อซื้อไอซ์อีก 8 กิโลกรัม จากนายดำ อยู่ที่จังหวัดสตูล และมีการนัดส่งมอบกัน บริเวณแยกศาลาเขียว ตำบลกำแพงเพชร อำเภอรัตภูมิ ในคืนวันเกิดเหตุ (18 ตค)
ซึ่งจ่าเอกไพรัช กับ อส. นำตัวนายธนกร พร้อมด้วยยาบ้า 10 มัด ขึ้นรถไปด้วย โดยแบ่งให้จ่าเอกไพรัชกับ อส.อีก 4 นาย ไปกับรถเก๋ง ยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียน กจ-5064 กทม. และให้ อส.อีกบางส่วน (ไม่ทราบจำนวน) คุมตัว นายธนกร ผู้ต้องหา ไปกับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูชุ สีดำ ทะเบียน บษ-8065 เชียงราย ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหาเอง
ต่อมาถึงจุดที่มีการนัดพบ ก็มีรถ 4 คัน ประกอบด้วย 1.รถกระบะ ยี่ห้ออีซุชุ แคป สีบรอนซ์ 2.รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยด้า รุ่นยาริส สีขาว 3.รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว และ 4.รถกระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบสี โดยรถทั้ง 4 คันไม่ทราบหมายเลขทะเบียนรถ ต่างขับมาปิดล้อมรถของจ่าเอกไพรัช ส่วนรถกระบะอีกคันที่มี อส.และนายธนกร ไม่ได้ถูกปิดล้อมด้วย และรีบขับออกมาเพื่อแจ้งคนมาช่วยเหลือจ่าเอกไพรัช
โดยพบว่า เมื่อรถ จ่าเอกไพรัช ถูกปิดล้อม จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ 20 คน ซึ่งมีปีนพกสั้นทุกคน และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอกลงมาจากรถ บังคับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนลงจากรถ และให้ถอดเสื้อปลดอาวุธปืนพก
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เป็นหน่วยใด จ่าเอกไพรัช จึงแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่มี บัตร ป.ป.ส. และส่งบัตร ป.ป.ส. ให้คนร้ายดู แต่กลุ่มคนร้ายอ้างตัวว่า เป็นตำรวจ สภ.รัตภูมิ ก่อนที่จะให้จ่าเอกไพรัช กับพวกรวม 5 คน ขึ้นรถกระบะคนร้าย และกลุ่มคนร้ายก็ขับรถจ่าเอกไพรัช ซึ่งมียาเสพติด ในรถขับตามออกมา
เมื่อขับมาได้สักระยะ 50 เมตร คนร้ายก็ขับรถหนี พร้อมยาบ้าของกลางจำนวน 10 มัด (2 หมื่นเม็ด) และอาวุธปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่จำนวน 5 กระบอก รวมถึงโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง (ของเจ้าหน้าที่) โดยทิ้งจ่าเอกไพรัชและพวกไว้ที่ข้างทาง จนมีตำรวจ สภ.รัตภูมิเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้
ต่อมา พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมแนวทางการสืบสวนคดีนี้ และนำตัวนายธนกร มาสอบสวนเพิ่ม เพราะมั่นใจว่าน่าจะรู้จักกับกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุ
ส่วนแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้ายนั้น ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องจรปิดตามเส้นทางทั้งหมด โดยแยกเป็น 4 เส้นทาง คือ เส้นทาง ท่าชะมวง-หาดใหญ่ เส้นทาง ท่าชะมวง-สตูล เส้นทาง รัตภูมิ-คูหา และเส้นทางเข้าบ้าน นิคมร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่สามารถแยกไปได้อีกหลายเส้นทาง
โดยตำรวจ รู้แล้วว่า กลุ่มคนร้ายเป็นแก๊งยาเสพติดซึ่งเป็นเครือข่ายค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และพอรู้เบาะแสแล้วว่า รถเก๋ง ยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียน กจ-5064 กทม. ซึ่งเป็นของจ่าเอกไพรัช รองปลัดที่เป็นหัวหน้าชุดแล้ว ว่าน่าจะไปซ่อนไว้ในพื้นที่ใด ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลจังหวัดสงขลา เพื่อออกหมายจับได้บางส่วนในเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จะเข้ามาร่วมคลี่คลายคดีนี้ ร่วมกับชุดสืบสวนของ ภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และ ชุดสืบสวน สภ.รัตภูมิ
แท็กที่เกี่ยวข้อง จังหวัดสงขลา ,ล่อซื้อยาบ้า ,แก๊งยาเสพติด ,คนร้ายชิงยาบ้า ,ชิงยาบ้า