เตรียมคุมตัวหนุ่มฆ่าหมกคอนโด ฝากขังพรุ่งนี้ เจ้าตัวรับสารภาพ-สำนึกผิด

ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาฆ่าปาดคอนักธุรกิจหมกคอนโด ฝากขังพรุ่งนี้พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก เบื้องต้นผู้ต้องหารับก่อเหตุจริงและยอมสำนึกผิด ขณะที่เพื่อนสนิทคนตาย ยันผู้ต้องหาพูดโกหก และไม่ได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับคนตาย



นี่เป็นวินาทีที่ตำรวจ เข้าจับกุมภูริณัฐ หรือโฟโต้ ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอนักธุรกิจอายุ 54 ปี เสียชีวิตที่คอนโด ในจังหวัดนนทบุรี โดยจับได้ขณะที่ผู้ต้องหานอนพักผ่อน อยู่ที่บ้านพักในจังหวัดชุมพร พร้อมกับยึดทองแท่ง ที่ผู้ต้องหาใช้เงินและบัตรเครดิตของผู้ตายไปซื้อที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว



จากนั้นตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปที่ในสวน ซึ่งเป็นจุดที่ผุ้ต้องหานำเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุไปเผาทำลายหลักฐาน



โดยตั้งแต่ช่วงเช้านายพรชัย พ่อของผู้ต้องหาได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ซึ่งที่ สภ.เมืองนนทบุรี หลังผู้ต้องหาถูกคุมตัวมาจากจังหวัดชุมพรตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยบอกว่าลูกชายมีอาการเครียด แต่หากทำผิดก็ต้องยอมรับ



ส่วนประเด็นเรื่องที่ลูกชายบอกว่าถูกคนตายโกงงาน 5 ล้านบาท จากการทำธุรกิจ ตนไม่รู้รายละเอียด แต่ปกติลูกชายจะทำธุรกิจส่งออกผลไม้ เพราะภรรยามีสวนผลไม้ที่จังหวัดชุมพร



ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง ส่วนเรื่องสภาพจิตใจตนไม่ทราบ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ลูกชายขี่มอเตอร์ไซด์แล้วถูกเฉี่ยวชนที่จังหวัดเชียงใหม่จนกระดูกคอหัก 3 ท่อน ซึ่งหากสังเกตุลูกชายจะเดินก้มคอตลอดเวลา



เรื่องที่เกิดขึ้นตนเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ถ้ามีโอกาสตนตั้งใจจะไปงานศพเพื่อขอขมาผู้เสียชีวิต ตนในฐานะพ่อขอกราบขอโทษกับสิ่งที่ลูกทำลงไป ขอโทษตำรวจที่ต้องเหนื่อยกับคดีนี้ ตอนนี้ลูกของตนได้รับโทษแล้ว



ทั้งนี้ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาได้เดินทางมาเข้าห้องน้ำ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่าสำนึกผิดและต้องการขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผู้ต้องหาไม่พูดแต่ได้พยักหน้า 3 ครั้ง



พลตำรวจโทจิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวปิดคดีนี้อย่างเป็นทางการ พลตำรวจโทจิรสันต์ เปิดเผยว่าผู้ต้องหายอมรับว่าฆ่าผู้ตาย โดยเบื้องต้นบอกว่ามาจากปัญหาการประกอบธุรกิจด้านสินค้านำเข้าร่วมกัน ส่วนจะเป็นจำนวน 5 ล้านบาท ตามที่มีข่าวออกมาหรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวน



ทั้งนี้ผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปหลายที่เพื่อประวิงเวลา แต่เป้าหมายสุดท้ายคือต้องการกลับบ้านที่จังหวัดชุมพร โดยของกลางที่ยึดได้จากผู้ต้องหา มีทองคำแท่งน้ำหนัก 28 บาท นอกจากนี้ยังเจอบัตรเครดิตและบัตรประชาชนของคนอื่นด้วย



ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุอยู่ระหว่างการค้นหา ส่วนที่ผู้ตายมีบาดแผลถึง 15 แผลนั้น มาจากที่ผู้ตายต่อสู้กับผู้ต้องหา



ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่ามีอาการเครียด และมีท่าทางสำนึกผิด โดยพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้ต้องหาในประเด็นต่าง ๆ ให้ครบถ้วนต่อไป เบื้องต้นดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และจำนำตัวฝากขังต่อศาลวันพรุ่งนี้



ขณะที่พ่อของผู้ต้องหาซึ่งร่วมแถลงข่าวด้วย ได้ยกมือไหว้ขอโทษผ่านสื่อมวลชน และบอกว่าลูกชายสำนึกผิด และตนพร้อมเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต



ล่าสุดทีมข่าวอาชญากรรม ได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนสนิทของผู้ตาย โดยได้รับคำยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ร่วมลงทุนทำธุรกิจกับผุ้ตายอย่างที่ผู้ตายอ้าง โดยผู้ตายมีคนที่จะนำเงินมาลงทุนด้วยเพียง 2 คน คือตนและเพื่อนอีกคนเท่านั้น



ส่วนที่ผู้ต้องหารู้เรื่องเงิน 5 ล้านที่ผู้ตายทำธุรกิจ เชื่อว่าอาจจะได้ยินผู้ตายพูดกับกลุ่มเพื่อน แล้วเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างเพื่อต่อสู้คดี ที่สำคัญผุ้ตายมีนิสัยเกรงใจคน ไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร จึงไม่เชื่อว่าผู้ตายจะบีบคอผู้ต้องหาอย่างที่ผู้ต้องหาพูด

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/9cnDO7xqKQ4