อาชญากรรม
ลูกหนี้หัวร้อน ทำร้ายเจ้าหนี้ ใช้กุญแจปักหัวเลือดอาบ
โดย attayuth_b
25 มี.ค. 2566
214 views
เจ้าหนี้คือหญิงเสื้อดำ ตามทวงเงินลูกหนี้สาวที่ใส่เสื้อลายสก๊อต ทั้งคู่ปะทะคารมกันได้สักพัก ฝ่ายลูกหนี้ก็เปิดฉากชกเจ้าหนี้ก่อน ทำให้ทั้งคู่ตบตีกันกลางถนน ระหว่างนั้นหลานสาวเจ้าหนี้พยายามตะโกนบอกให้คนช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่ไม่มีใครฟัง ขณะที่เพื่อนชายลูกหนี้ถือปืนมาคุมเชิงแล้วห้ามคนช่วย ก่อนจะเข้าไปช่วยลูกหนี้แล้วปัดโดนกล้อง แล้วภาพก็ดับไป
เพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 นำคลิปนี้มาโพสต์ พร้อมภาพเจ้าหนี้สาวเลือดอาบหน้า พร้อมระบุว่า ลูกหนี้โหด หลังบ่นดอกโหด ไม่พอใจคว้ากุญแจปักคาหัวเจ้าหนี้ เหตุเกิดขณะเจ้าหนี้ขับรถมาบังเอิญเจอลูกหนี้กับแฟนหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาพอดี จึงจอดรถทวงเงิน จนบานปลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาท แฟนหนุ่มของลูกหนี้เข้ามาช่วย โดยใช้กุญแจที่อยู่ในมือเสียบที่หัวของเจ้าหนี้จนเลือดอาบ
ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เจ้าหนี้ อายุ 41 ปี เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 22 มีนาคม วันนั้นบังเอิญเจอลูกหนี้เก่ากลางทาง จึงจอดรถทวงหนี้ แต่เขาโวยวายหาว่าดอกแพง ตนตั้งใจจะคุยดี ๆ ไม่ได้ดอกก็ขอต้นคืน แต่เขาจับแก้วน้ำพลาสติก แล้วขว้างใส่หน้าเราเลย เราก็สวนกลับ แล้วก็ตีกันสู้กัน แล้วเขาก็เอาของแข็งในมือแทงขมับจนเลือดออก หลานสาวจะเข้ามาช่วย ยังถูกผู้ชายทั้งผลักทั้งถีบจนล้ม แล้วยังเอากระเป๋ามาทุบหน้า และท้ายทอยจนช้ำไปหมด
หนี้ที่ทวงเป็นหนี้เก่าเป็นปีแล้ว ตั้งแต่ที่เขาเคยทำงานกับเรา ยอดไม่เยอะแค่ประมาณ 3,000 บาท หลังเกิดเหตุไปหาหมอ หน้าผากเย็บไป 3 เข็ม วันต่อมาก็ไปแจ้งความ อยากให้เขาเข้ามาขอโทษ ส่วนหนี้ที่ค้างอยู่ ก็แค่อยากได้แค่ต้นคืน ไม่ใช่ติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังลูกหนี้คู่กรณี ชื่อ คุณดา อายุ 31 ปี เปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปที่เห็น แต่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ตนถูกเจ้าหนี้ทำร้ายก่อน โดยดึงตัวเข้าไปแล้วจับกดหัว เอาเข่ากดที่คอ จังหวะนั้นในมือกำกุญแจรถอยู่ และพยามจะดิ้นให้หลุด จึงทุบไปทั่ว จนกุญแจไปแทงถูกที่ขมับ ทั้งนี้ตนยอมรับผิด และไม่ได้ว่า เขาเรียกดอกเบี้ยแพง แต่ตนไม่มีเงินจะจ่าย เพราะตกงาน หลังจากไปกู้มา 500 บาท เมื่อปลายเดือนธันวา จนถึงตอนนี้ทบต้นทบดอก รวมเป็นเงินเกือบ 4 พันบาท ส่วนผู้ชายที่อยู่กับตนวันเกิดเหตุก็ไม่ใช่สามี และก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ด้านตำรวจ สภ.หนองหญ้าไซ อยู่ระหว่างรอเอกสารการตรวจร่างกายของผู้เสียหาย จากโรงพยาบาล จากนั้นจะเรียกคู่กรณีมาสอบสวน เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
