อาชญากรรม
ดส.บุกรังขอทานกัมพูชา ค้นห้องเจอทั้งเงิน-ทอง บอกคนไทยใจดี รายได้วันละ 800-1,000 บาท
โดย olan_l
6 ก.ย. 2567
145 views
เจ้าหน้าที่ดส. บุกซอยรามอินทรา 73 จับแก๊งขอทานกัมพูชา หลังมาเปิดห้องพักอยู่รวมกัน สุดท้ายจับได้กว่า 10 คน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่
วันนี้ (6 ก.ย.) พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 2 พบเบาะแส มีสามี ภรรยา ชาวกัมพูชา กำลังเดินในซอยรามอินทรา 73 จึงได้ไปสอบถามข้อมูล ทำให้ทราบว่า ทั้ง 2 มีชื่อว่า นางเล้ง กับ นายเม้ง กำลังกลับมาจากขอทาน ย่านลาดกระบัง พร้อมกับ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วย
โดยนางเล้ง กล่าวว่า ตนมาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยประมาณ 20 ปีแล้วโดยตอนแรกทำอาชีพเป็นลูกจ้างธรรมดาทั่วไปแต่กระทั่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็ผันตัวมาทำอาชีพขอทาน และได้คบหากับสามีมา 8 ปี โดยสามี ก็ทำอาชีพขอทานเหมือนกันและมีลูกด้วยกัน 1 คน
สาเหตุที่มาทำอาชีพขอทานเพราะไปรู้จักกับเพื่อนเพื่อนชาวกัมพูชาแล้วเค้าชักชวนให้มาทำอาชีพนี้และก็ได้มาอยู่ในซอย รามอินทรา 73 เหมือนกัน วันนึง ก็ได้เงิน 100 - 800 บาท เท่านั้น โดยตน มีภาระที่ต้องทำงานส่งเงินกลับไปบ้าน ที่ประเทศกัมพูชาเพราะไปกู้เงินมาสร้างบ้านกว่า 400,000 บาท ต้องจ่ายเดือนละ 8,000 บาท
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอค้นบ้านของสองสามีภรรยาคู่นี้แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดไปเจอกับชาวกัมพูชาคนนึง ที่อุ้มลูก หลบอยู่ด้านหลังของห้องเช่า ขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวได้เปิดโซเชียลดูไลฟ์สดของกันจอมพลังที่ กำลังตามหาชาวกัมพูชาอยู่ด้วย ซึ่งในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเคาะบ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่พบว่ามีการล็อคประตูเอาไว้จากด้านหน้า จึงคาดว่าไม่มีคนอยู่ แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าทางด้านหลังบ้าน กลับเจออีกหลายครอบครัว
จากนั้น ก็ได้เจอกับชาวกัมพูชาเป็นเพศหญิง ที่ใบหน้าเละ หลบอยู่ภายในห้องพักกับลูกชาย 1 คน ซึ่งจากการตรวจสอบห้องพักก็พบว่ามีไพ่อยู่ในกระเป๋า และพบแอลกอฮอล์ตั้งอยู่หน้าห้อง เจ้าตัวอ้างว่า เอามาให้ลูกเล่น
โดย นางเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ที่ใบหน้าเละแบบนี้เพราะเกิดจากเหตุการณ์แก๊สระเบิดเมื่อ 19 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น จึงตัดสินใจมาประเทศไทย โดยมีรถตู้ไปรับที่ชายแดนกัมพูชา คิดค่ารถ 3,000 บาท ยอมรับว่า ตอนนี้ ตนเองไม่ได้มีพาสปอร์ตเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฏหมายและทราบว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าไปทำอาชีพอะไร เพราะว่าอยู่ที่ประเทศกัมพูชาก็ไม่มีรายได้ แต่อยู่ที่นี่ มีรายได้ดีจากการขอทาน เพราะคนคนไทยเป็นคนใจดี โดยตน ได้รายได้ต่อวัน เป็นเงิน 800-1,000 บาท
ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าข้างห้อง ก็ทำอาชีพแบบเดียวกันด้วย บอกว่า “ไปจับห้องนั่นหรือยัง” เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เปิดห้องดังกล่าว จากข้างหลัง ก็ได้พบว่า มีชายชาวกัมพูชาหน้าเละอาศัยอยู่ภายในห้องมาตลอด ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจสอบ
มีช่วงนึงเจ้าหน้าที่ให้โทรหาภรรยาเพื่อมาไขกุญแจด้านหน้า แต่ในระหว่างนั้น พบว่าชายคนนี้แอบลบเบอร์แปลกหน้าในโทรศัพท์ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเอาโทรศัพท์มาตรวจสอบ ก่อนจะให้โทรเรียกหาภรรยาของตัวเองอีกครั้ง และต่อมา ภรรยาได้อุ้มลูกน้อย 1 คน มาแสดงตัว ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นห้อง ก็พบว่ามีเงินสดเกือบ 3 หมื่น และมีทองที่ใส่อยู่ในตัวด้วย
โดย นายบี (นามสมมติ) อ้างว่า ตนมาอาศัยอยู่ที่ไทยประมาณ 5-6 ปี จะไปๆมา ๆ เนื่องจากว่าอยู่บ้านที่ประเทศกัมพูชาแล้วก็ไม่มีรายได้ไม่รู้จะทำอาชีพอะไร เนื่องจากว่า 19 ปีที่ผ่านมา ตนทะเลาะกับเพื่อนแล้วถูกเพื่อนนำน้ำกรดมาสาดหน้าที่กัมพูชา จึงทำให้ต้องมาขอทานที่ประเทศไทย เพราะ คนไทยใจดี เวลาเห็นคนพิการก็จะให้เงินตลอด ซึ่งตนก็ได้เงินบางวัน 1,500 บาท ก็เอามาให้ภรรยาเก็บ
ขณะที่ นางซี (นามสมมติ) ภรรยา กล่าวว่า ตนไม่ได้ต่อพาสปอร์ต เพราะไม่มีเงิน เนื่องจากตนมีลูกน้อยไม่สามารถทำงานได้จึงให้สามีออกไปขอทานข้างนอกและตนเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวชาวกัมพูชา 10 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป