อาชญากรรม

แก๊งคอลฯ หลอกป้าวัย 64 บอกเป็นลูกสาว "เปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วนะ" ให้โอนเงินหมื่น

โดย olan_l

13 ก.ค. 2567

420 views

เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการแชร์ภาพหญิงสูงอายุ วัย 64 ปี ชาว จ.สระแก้ว เดินทางไปที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อยืนยันจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยโอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะเชื่อว่า เป็นลูกสาวตัวเอง ที่กำลังเดือดร้อนต้องการให้โอนเงินไปให้อย่างเร่งด่วน กระทั่ง มาทราบภายหลังว่า ไม่ใช่ลูกตนเอง ก็ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสูญเสียเงินไปจำนวน 1 หมื่นบาทแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า ผู้เสียหายรายนี้ชื่อว่า นางสมปอง อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม.9 ต.หนองบอน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหา โดยใช้มุขเก่า บอกว่า เปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วนะ ทางคุณป้าสมปองฯ ก็เข้าใจว่า เป็นเสียงลูกสาว จึงถามและพูดชื่อลูกออกไปว่า ลูกกุ้งเหรอ มิจฉาชีพจึงสวมรอยว่า เป็นกุ้งลูกสาวป้า พร้อมบอกว่าเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วนะ ให้บันทึกเบอร์แล้วลบเบอร์เก่าทิ้งไป

จากนั้น ในวันรุ่งขึ้นปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็เริ่มต้นขึ้น โดยโทรมายืมตังค์แม่ก่อน บอกว่า เงินไม่พอซื้อของ แม่ก็พูดไปว่า ต้องซื้อของเข้าร้านเพราะเพิ่งเปิดร้านใหม่ มิจฉาชีพจึงเออออว่า ซื้อของหลายอย่างให้แม่โอนให้ พยายามจะให้ยืมเพื่อนโอนให้หรือไปโอนที่ร้านสะดวกซื้อ หรือถามหาแอปพลิเคชันโอนเงิน ซึ่งป้าสมปองไม่สามารถทำได้เลย นอกจากจดเลขบัญชีแล้วเอาบัตรเอทีเอ็มมาที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสระแก้ว เพื่อขอร้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยโอนให้ ซึ่งก็สามารถโอนได้สำเร็จ จำนวน 1 หมื่นบาท ตามที่ลูกร้องขอ เวลาผ่านไปเพียงแค่ 10 นาทีกว่า มิจฉาชีพซึ่งสวมรอยเป็นลูก ก็โทรมาขอให้แม่โอนให้อีก อ้างว่า โทรศัพท์หาย ถูกกักตัวไว้ที่ร้าน เงินไม่พอจ่ายค่าของอีก 1 หมื่นบาท เร่งเร้าจะให้โอนให้อย่างเร่งด่วน ทางป้าสมปองฯ ก็ต้องมาที่ธนาคารเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่โอนให้อีกครั้ง

คราวนี้ ปรากฏว่า คุณสิริกรณ์ ล่วงเขต และน้องพัช เจ้าหน้าที่่ธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งเป็นผู้ไปช่วยเหลือลูกค้าโอนเงินและอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเวลา รู้ผิดสังเกต เพราะขณะที่จะให้มีการโอนเงินรอบ 2 มีการคุยกันทางโทรศัพท์และมีการถ่ายคลิปการสนทนาต่าง ๆ ไว้ คนที่อ้างว่า เป็นลูกพยายามตัดพ้อ ต่อว่าเชิงน้อยใจแม่ ไม่เชื่่อใจลูก เร่งรัดให้โอน ไม่งั้นจะออกจากร้านไม่ได้ พร้อมมีเสียงข้าง ๆ ว่า ไม่ต้องให้ออกจากร้าน ทำให้คุณป้าสมปองฯ ยิ่งร้อนใจจะโอนให้ได้

กระทั่ง เจ้าหน้าที่มีการพูดคุยกับปลายสายโดยเปิดลำโพง ถามว่าลูกชื่ออะไร กลับถูกต่อว่าว่า ยุ่งอะไรด้วย จึงมีการนำหมายเลขบัญชีไปตรวจสอบ ปรากฏว่า พบการโอนเงินเข้าและโอนเงินออกหลายสิบบัญชีในช่วงเวลา 10 กว่าบัญชี แทบจะหายอดที่คุณป้าสมปองที่เพิ่งโอนไปไม่เจอ จึงแจ้งธนาคารขอให้มีการอายัดบัญชีดังกล่าวทันที แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะมีการโอนต่อ ๆ ไปอีกหลายบัญชี

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำคุณป้าสมปองมาพูดคุย โดยให้โทรไปหาลูกเขยตัวจริง ปรากฏว่า ปลายสายของลูกเขยบอกว่า ไม่ได้มีขอให้โอนเงินแต่อย่างใด ถูกหลอกแล้ว ส่วนลูกสาวคุณป้าฯ ยังนอนพักผ่อนอยู่เลยไม่ได้ไปไหน กระทั่ง ลูกสาวตัวจริง โทรมาพูดคุย ทางคุณป้าสมปองฯ จึงเชื่อเจ้าหน้าที่และระงับการโอนครั้งที่ 2 พร้อมทั้งโทรกลับไปที่เบอร์ที่สวมรอยเป็นลูกสาว ปรากฏว่า ไม่สามารถติดต่อได้อีกแล้ว จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว โดยมี ร.ต.ท.สันติ สมนึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว ร้อยเวรเจ้าของคดี และรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้

ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว พ.ต.อ.สราวุธ เอี่ยมสำอางค์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้สั่งการให้ ร.ต.ท.สันติ สมนึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว พนักงานสอบสวนและทีมสืบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เข้าตรวจสอบและสอบปากคำผู้เสียหาย โดยล่าสุด คดีนี้เจ้าหน้าที่รู้ชื่อเจ้าของบัญชีม้าแล้ว อยู่ระหว่างรอธนาคารอายัด และพนักงานสอบสวน จะดำเนินการออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาแสดงตัว ซึ่งหากไม่มา 2 ครั้ง จะดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว ได้นัดหมายให้คุณป้าสมปองฯ ผู้เสียหาย เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมและสอบปากคำอีกครั้ง ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ค.นี้

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังให้ข้อมูลอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นมา เฉพาะพื้นที่ สภ.เมืองสระแก้ว พบเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดินทางมาแจ้งความทุกวัน รวมกว่า 300 ราย

นางสมปอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กำลังเลี้ยงหลานอยู่ก็มีเบอร์ที่อ้างว่า เป็นลูกสาวโทรมาบอกว่า แม่หนูเปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วนะ เมมเบอร์หนูไว้นะ แล้วก็ลบเบอร์เก่าออก จึงให้น้องชายบันทึกเบอร์ไว้ พอไปทำงานตอนเช้า ก็โทรมาให้รอก็ไม่รอ บอกว่า แม่หนูเดือดร้อน เค้ารู้ได้ยังไงไม่รู้ว่าลูกสาวเปิดร้านใหม่ เอาของเข้าร้านแล้วไม่มีเงินจ่าย ไม่มีทำไมไม่ขอต่อ เค้าก็บอกต่อไม่มี จะโทรไปหาลูกจริง ๆ ก็โทรไม่ได้เพราะลบไปแล้ว นึกว่าเบอร์ลูกจริง ๆ เพื่อนที่ทำงานบอกว่า เผื่อลูกเดือดร้อนก็รีบไปโอนซิ ก็ไปที่ธนาคาร เราโอนไม่เป็นก็เลยบอกให้ธนาคารโอนให้ 1 หมื่นแล้วกลับมาทำงาน ซักพักก็โทรมาอีก บอกว่า แม่มันไม่พอ บอกว่าโทรศัพท์หาย แล้วมีเสียงผู้ชายอีกคนพูดแทรกมาว่า อย่าให้เค้าไปนะ ให้เค้าจ่ายก่อน ใจคิดว่า เป็นห่วงลูก สงสัยลูกเดือดร้อน พูดอีกว่า หนูไม่เคยขอแม่เลยนะ ซึ่งก็จริง แล้วก็ยังจี้อีกนะ ให้เร็ว ๆ ก็บอกไปว่า แม่จอดรถตรงนี้ข้ามถนนรถชนแม่ตายหรอก เร่งอะไรกับแม่

พอไปที่่ธนาคาร เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า ป้าโอนให้ใคร ก็บอกโอนให้เจ้าหน้าที่ที่เอาของมาส่งที่ร้านลูก ซึ่งไม่ใช่ชื่อลูกสาว เลขบัญชีใครก็ไม่รู้ เค้าให้มาโอน โดยเพื่อนที่รับสายเขียนให้ตอนมาโอนครั้งแรก เจ้าหน้าที่ธนาคารเค้าก็สงสัย บอกว่า ป้าอยู่ตรงนี้เดี๋ยวเดียวนะ แล้วเค้าก็ขึ้นไปตรวจสอบดูบัญชี เค้าก็มาบอกว่า ถูกหลอก ตอนนั้นยังไม่เชื่อเค้าเลย เถียงเค้าอยู่นั่นล่ะ จะโอนให้ลูกให้ได้ เค้าอ้างว่า แม่ไม่เชื่อใจหนูเหรอ คนที่อ้างเป็นลูกพูด คราวนี้ก็บอกว่า ถ้าแม่โอนธนาคารไม่ได้ก็ไปเซเว่นฯ ให้ไปโอน จนท.ธนาคารก็ดี๊ดี บอกป้าใจเย็น ๆ เดี๋ยวก่อน สักพัก เค้าก็ขอเบอร์โทรหาต่อ(ลูกเขย) แล้วเปิดเสียง เค้าบอกว่า กุ้งไม่เคยยืมเงินแม่หรอกนะ แม่โดนหรอกแล้ว กุ้งยังไม่ตื่นเลย เพราะเค้าเปิดร้านใหม่ กลายเป็นคนที่เราคุยไม่ใช่ลูก จึงเชื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารและแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ

ส่วนเบอร์ที่อ้างเป็นลูกติดต่อไม่ได้อีกเลย" ป้าสมปองกล่าว ขณะเดียวกัน ป้าสมปอง ยังนำเบอร์โทรศัพท์ที่สวมรอยเป็นลูกสาวมาเปิดให้ดูและลองโทรกลับไป ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย ซึ่งเธอบอกว่า หากเจ้าหน้าที่่ธนาคารไม่ช่วยไว้ คงต้องเสียเงินอีก 1 หมื่นบาทแน่นอน เพราะมีทั้งหมดอยู่ประมาณ 2 หมื่นบาท ทั้งบัญชี ซึ่งเพื่อนบอกว่า มี 2 หมื่น สงสัยได้ยินจึงพยายามที่จะโทรมาให้โอนเงินที่เหลือให้ได้ ซึ่งไม่ธรรมดา จึงอยากจะเตือนคนสูงอายุ หรือคนทั่วไปว่า ปกติเราไม่ได้คิดอะไร เหมือนลูกไม่เคยขอเงินแล้วจู่ ๆ มาขอ เราเป็นแม่ก็อยากจะช่วยเหลือลูก แม่คิดว่า เค้าจะทำกันแบบนี้ ซึ่งเสียงเหมือนลูกมาก รู้ดีด้วยว่า เปิดร้านใหม่อีก ซึ่งอาจจะได้ยินเสียงตอนโทรมาครั้งแรกคล้ายเสียงลูก ก็เลยบอกว่า กุ้งเหรอ จึงถูกสวมรอยว่า เป็นกุ้งไปเลย

อย่างไรก็ตาม ป้าสมปอง จึงอยากเตือนคนสูงอายุว่า ถ้ามีเบอร์โทรศัพท์ที่แปลก ๆ โทรมา ไม่ต้องไปคุย ซึ่งตอนนี้ใครที่โทรมาแล้วเป็นเบอร์แปลก ๆ ตอนนี้ป้าสมปองไม่กล้ารับเลย มีโทรมาก็เขี่ยไม่รับอีกเลย ขนาดธนาคารโทรมายังไม่กล้ารับเลย สำหรับเงิน 1 หมื่นบาทที่ถูกหลอกให้โอนไปนั้น คิดว่า คงจะไม่ได้คืน เพราะเห็นเค้าพูด ๆ กัน ตอนไปทำฟันปลอม คุณหมอพูดว่า เพื่อนเค้าเสียไป 1 แสน เหมือนกันเลย เราก็เลยโล่งไป เสียแค่หมื่นบาท ถ้าเป็นแสนจะหาเงินที่ไหนมาให้ เพราะตอนแรกเค้าพูดเหมือนจะให้ไปยืมคนอื่นมาอีกด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แก๊งคอลฯ ,หลอกป้า

คุณอาจสนใจ

Related News