2 พ่อลูกขับรถเที่ยวเขื่อน ไม่มีเงินซื้อเหล้า เพราะเติมน้ำมันหมด ควงบีบีกัน จี้เหล้าขาวร้านชำ

พ.ต.อ.ศุภชัย วิบูรณ์สุขสันต์ ผกก.สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมือวันที่ 5 กรกฎาคม.67 เวลา 18.41 น. พ.ต.ต.วีระศักดิ์ อ่างศิลป์ สว.(สอบสวน)สภ.หนองสาหร่าย ได้รับแจ้งเหตุ จากผู้เสียหาย ร้านขายของชำ ชื่อร้านน้องนุ่น ริมถนนนิคมลำตะคอง บ้านคลองทราย ม.19 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่ามีชายอายุประมาณ 20 กว่า ปี แต่งกายเสื้อกันหนาวแขนยาว สีเทา กางเกงยีนส์ เข้ามาในร้านได้บอกขอซื้อบุหรี่ SMS แดง 1 ซอง ราคา 80 บาท และเหล้าขาวตะวันแดง 1 ขวด ราคา 130 บาท และต่อมาชายดังกล่าวได้หยิบเอาสิ่งของคล้ายอาวุธปืนออกมาจากด้านหลังแล้วหันปากกระบอกปืนมาทางเจ้าของร้าน แล้วขู่ว่า “ให้มั๊ย” หลังจากนั้นได้หยิบบุหรี่และเหล้าที่วางที่โต๊ะ ขายของออกไปและวิ่งขึ้นรถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลัง หลบหนีไปทางสะพานต่างระดับหนองสาหร่ายมุ่งหน้าไปทางวังน้ำเขียว

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ. หนองสาหร่าย ใช้เวลา 4 วัน ติดตามภาพทางกล้องวงจรปิด ทั้งในเขต อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ไปจนถึงเขต อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี จนกลางดึกเมื่อคืนนี้ ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่เขตรอยต่อระหว่าง อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี และเขต อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา จึงได้ควบคุมตัว นายสุชิน อายุ 54 ปี และนายชาตรี อายุ 34 ปี เป็นพ่อและลูกกัน พร้อมตรวจยึดของกลาง 3 รายการดังนี้ ของกลางรายการที่1 รถยนต์(เก๋ง) ยี่ห้อ NISSAN รุ่น ALMERA สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กข 2904 สระบุรี ปืนบีบีกันสิ่งเที่ยมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก และเสื้อกันหนาวสีเทา จำนวน 1 ตัว ที่สวมใส่ก่อเหตุ และป้ายทะเบียนปลอม ควบคุมตัวมาสอบสวน โดยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ และมีผู้เสียหายตามมาชี้ตัวที่ สภ.หนองสาหร่าย

จากการสอบสวน นายตั้ม ผู้ต้องหาให้การว่า เป็นช่างเชื่อมทำงานที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พักอยู่ที่กลางดง ได้ชวนกันจะไปนั่งดื่มเหล้าชมวิวริมเขื่อนลำตะคอง กับนายสุชิน ซึ่งเป็นพ่อและเป็นคนขับรถ มีเงินไป 1,000 บาท เติมน้ำมันรถหมด แต่ไม่มีเงินซื้อเหล้าพอเห็นร้านขายของชำจะไปหาเหล้า เป็นร้านที่ปลอดคน ตนจึงลงรถเข้าไปในร้าน และพบว่ามีผู้หญิงอยู่ในร้านเพียงลำพังคนเดียว และไม่มีเงินซื้อ จึงชักปืนบีบีกันที่พกติดตัวออกมาขู่ เพื่อชิงเอาเหล้าและบุหรี่ แล้วขึ้นรถหลบหนีไป พนักงานสอบสวน จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และมียานพาหนะ

หลังจากนำผู้ต้องหาทั้ง 2 มาให้ผู้เสียหายชี้ตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเพิ่มเติม และผู้ต้องหาเจอหน้าผู้เสียหายได้ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมร้องไว้ บอกว่าผิดไปแล้ว ขอโทษด้วย