อาชญากรรม

เปิดไทม์ไลน์ฆาตกรโหด ฆ่าชิงรถใช้ปล้นทอง ตระเวนขาย แต่ไม่มีร้านกล้ารับซื้อ

9 ก.ค. 2567

2K views

ก่อนเกิดเหตุนายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง อายุ 26 ประสบปัญหาทางด้านการเงินเนื่องจากไม่ได้มีงานทำเป้นหลักแหล่ง การเงินของทางบ้านมีปัญหา ประกอบกับส่วนตัวเป็นคนชอบเล่นเกมส์ และมีพฤติกรรมติดเกมส์ โดยเฉพาะเกมส์ประเภทที่มีการใช้ความรุนแรงลักษณะของการวางแผนต่อสู้ฆ่าฟัน ใช้อาวุธต่างๆ ในการฆ่าฟันต่อสู้ ส่วนหนึ่งทำให้เกิดมีพฤติกรรมที่ลอกเลียบแบบความรุนแรง อย่างการวางแผนก่อเหตุเป็นขั้นเป็นตอน

ก่อนก่อเหตุมีการวางแผน ทั้งการไปดูร้านทองเป้าหมายหลายวันต่อเนื่อง การวางแผนเส้นทางหลบหนี การวางแผนหาอุปกรณ์ และเครื่องมือในการก่อเหตุ มีการซื้อปืนเตรียมไว้ วางแผนเรื่องของขั้นตอนการหารถเพื่อใช้หลบหนี ศึกษาและสำรวจเส้นทางเดินป่าของดอยสุเทพ เพื่ออำพราง


โดยเริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ก.ค. ขับรถเก๋งส่วนตัว ไปจอดไว้ที่เส้นทางเดินป่าใกล้อ่างเก็บน้ำกาแล แล้วเดินเท้าเข้าป่าใช้เส้นทางที่จะเดินป่าลัดมาออกที่วัดผาลาด และเดินออกมายังถนนห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ ไปยังน้ำตกผาลาด ซึ่งอยู่ริมถนน หลังจากนั้นสุ่มเรียกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นหนึ่ง เพื่อให้ขึ้นมารับโดยไม่สนว่าจะเป็นใครขับรถ พอขึ้นมารับก็เปิดประตูเข้าไป นั่งที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังคนขับหลังจากนั้นก็ชักปืนที่เตรียมไว้จ่อยิงที่ท้ายทอยทันที


หลังจากนั้นลากศพของผู้ตายมาไว้ด้านหลัง และเปลี่ยนไปขับรถลงจากจุดที่เรียกรถไปไม่ไกล และช่วงที่ก่อเหตุนั้นยังเป็นช่วงเช้ามืดยังไม่ค่อยมีคนใช้ถนนผ่านไปมา หลังจากนั้นนะรถมาจอดที่ศาลาที่พักริมทาง ช่วงก่อนที่จะขึ้นมาถึงวัดผาลาดด้านหลังศาลาเป็นป่ารก และลาดชัน หลังจากนั้นก็ลากศพลงไปทิ้งอำพรางในป่า ห่างจากศาลาลงไปประมาณ 50 เมตร


ก่อนที่จะใช้รถของผู้ตายขับออกไป และเปลี่ยนชุดเป็นชุดของไรเดอร์ และปิดบังอำพรางใบหน้า ขับรถไปที่ห้างเข้าไปก่อเหตุในช่วงที่ห้างเปิดเวลาประมาณ 11.30 น. ซึ่งช่วงเปิดจะยังไม่มีคนเข้าไปใช้บริการมากนักโดยมีการพกอาวุธปืนไว้ที่เอว แต่ช่วงเช้าไปชิงทองไม่ได้ชักออกมาข่มขู่เนื่องจากไม่มีใครขัดขืน หลังจากนั้นก็หลบหนีออกมาที่ลานจอดรถ และขับรถผู้ตายหนีช่วงนั้นรีบร้อนทำให้รถเกิดเฉี่ยวชนกับเสาอาคารจอดรถ


หลังจากนั้นก็ได้นำรถของผู้ตายชับมาขึ้นดอยสุเทพอีกครั้ง และนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณจุดที่เคยเรียกรถให้มารับ และเดินกลับเข้ามาตามเส้นทางป่า เพื่อลงมาเอารถของตนเองที่กาแล ก่อที่จะขับกลับเข้ามาในเมือง เปลี่ยนชุด และตระเวนนำทองไปเดินขายตามร้านทองย่านตลาดวโรรสหรือกาดหลวง 3 ร้าน แต่ไม่มีร้านไหนรับซื้อเนื่องจากทองทุกเส้นมีสัญลักษณ์ของห้างทองที่ถูกชิงทอง และมีการแจ้งข่าวกันในกลุ่มร้านทอง


จึงได้ขับรถไปยังพื้นที่อำเภอสันกำแพงเพื่อขายทอง 1 เส้นหนัก 2 บาท และไปขายร้านทองที่อำเภอดอยสะเก็ดอีก 1 เส้นหนัก 2 บาท ก่อนที่จะกลับบ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด ก่อนที่ตำรวจจะแกะรอยและติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักในที่สุดพร้อมของกลางทองที่เหลืออีก 70 บาท

คุณอาจสนใจ