รวบพ่อค้ายา ซุกยาในถังข้าวสาร สารภาพซื้อเม็ดละ 9 บาท ขายต่อ 20 บาท

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง (ชุดไกรสีห์) จังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำบลดอนโพธิ์ทอง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมจำหน่ายยาเสพติดขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบด้านหลังบ้านต้องสะพรึงเมื่อเจอรั้วลวดมีสายไฟเชื่อต่อเพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้า ล้อมหลังบ้านเอาไว้ตรวจในบ้านพบยาบ้าซ่อนใต้ที่นอน ในกระเป๋าสตางค์ พบกระดาษเขียนคาบังกายซุกอยู่

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ออกลาดตระเวนกวดขันจับกุมแก๊งลับลอบขายยาเสพติดเนื่องจากมีการแพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้ ขณะกำลังออกลาดตระเวนชายต้องสงสัยเดินอยู่ข้างทางเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวแสดงอาการมีพิรุธ จึงสอบถามชายคนดังกล่าวเพิ่งเสพยาบ้าซึ่งซื้อมาจากนายสมศักดิ์ อายุ 41 ปี หรือ ตี๋ ดอนมะขาม บ้านอยู่ หมู่ 5 ตำบลดอนโพธิ์ทอง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านพบนาย ตี๋ เจ้าของบ้านนั่งอยู่จึงขอตรวจค้นในบ้านและในห้องนอนพบปืนบีบีกันและ ยาบ้าอยู่ในซองสีฟ้า จำนวน120 เม็ดซ่อนอยู่ใต้ที่นอน และในบ้านยังพบอุปกรณ์การเสพยาอีกจำนวนหนึ่งจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ไปตรวจค้นด้านหลังบ้านเพื่อค้นหาสิ่งของผิดกฎหมายซึ่งมีรั้วเป็นลวดหนามล้อมเอาไว้ และพบกับสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวหากไม่ทันสังเกตและไปโดนอาจถึงกับเสียชีวิต เพราะสิ่งนั้นคือเส้นลวด 2 เส้นขึงไว้คู่กันมีสายไฟผูกเชื่อต่อเอาไว้ ทำเป็นรั้วป้องกันการบุกรุกของศัตรูอีกชั้นหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงต้องถอยออกมาก่อน

จากการสอบสวนนายสมศักดิ์ ซึ่งอยู่ในอาการเบลอๆมึนๆเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าและปืนบีบีกันเป็นของตน โดยยาบ้าเป็นของเอเย่นต์รายหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กันให้เด็กเอามาส่งตนจำไม่ได้ว่าเหลือเท่าไหร่ตนซื้อมาราคาเม็ดละ 20 บาทส่วนรั้วลวดหนามตนขึงไว้ทำรั้วไฟฟ้าเตรียมซื้อวัวมาเลี้ยงแต่วัวยังไม่ได้ซื้อ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อคำให้การของนายตี๋ เพราะรั้วเส้นลวดที่มีสายไฟเชื่อต่อนั้นก็ทำไว้ป้องกันเจ้าหน้าที่บุกจับกุม ซึ่งประวัติของนายตี๋ นั้นเคยถูกจับคดีอาวุธปืน ส่วนคดียาเสพติดนั้นยังไม่เคยถูกจับแต่มีชื่อเป็นที่กล่าวขานกันในวงการยาเสพติดกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมได้ดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลสนามคลี อำเภอเมืองสุพรรณบุรี มีนายสามารถ อายุ 54 ปีเป็นเจ้าของ หลังขยายผลจากผู้เสพยาเสพติดรายหนึ่งให้การว่ามีการมั่วสุมและลักลอบขายยาเสพติดเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงคนในบ้านจำนวนหนึ่งพากันวิ่งหนีออกทางหลังบ้านเจ้าหน้าที่พยายามวิ่งตามไล่จับแต่ไม่ทันเนื่องจากด้านหลังเป็นป่าหญ้าและบ่อน้ำ ตรวจค้นในบ้านพบเพียงเจ้าของบ้าน ทราบชื่อนายสามารถ ตรวจค้นในบ้านพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวนหนึ่งตรวจค้นในห้องนอนพบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกใส จำนวน 70 เม็ดอยู่ในถังข้าวสาร จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายสามารถให้การตนประกอบอาชีพรับทำเอฟเฟ็กซ์งานพิธีต่างๆ ในชื่อมาเฟีย เอฟเฟ็กซ์ ซึ่งลูกชายเป็นคนตั้งชื่อให้ และยาบ้าดังกล่าวตนซื้อมาราคาเม็ดละ 9 บาทจากเอเย่นต์ในพื้นที่ และขายให้ลูกค้าทั่วไปเม็ดละ 20 บาทตนจะสั่งยาบ้ามาขายครั้งละประมาณ 100 เม็ดและตนก็เสพยาบ้าด้วยวันละ 2-3 เม็ด บางส่วนก็แบ่งให้ลูกน้องทีมงานไว้เสพจะได้มีแรง เพราะต้องใช้แรงงานส่วนตนเคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดแต่ไม่เคยติดคุกกระทั่งสุดท้ายไม่รอดถูกจับได้พร้อมของกลาง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเล่าว่าประวัตินายสามารถ นั้นไม่ธรรมดา มีประวัติเกี่ยวกับการขายยาเสพติดมาอย่างโชกโชนนานนับ 10 ปีจนได้ฉายาป๋ามาต วัดจำปา เป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมากแต่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นไม่เคยเจอของกลางก็เลยยังลอยนวลอยู่ได้ กระทั่งมาวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับการชี้เบาะแสจากพลเมืองดีว่ากำลังมีการมั่วสุมลักลอบขายาเสพติดในบ้านจึงเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลาง

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเล่าต่ออีกว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นอยู่ในบ้านได้มีวัยรุ่นซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันและเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎกมายพากันมาดูเจ้าหน้าที่พร้อมตะโกนถามเจ้าหน้าที่ว่ามาทำอะไร เจ้าหน้าที่จึงบอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และบอกให้กลุ่มชายวัยให้ออกไปเมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มวัยรุ่นแสดงความไม่พอใจและเดินออกไปจากนั้นได้รีบโทรศัพท์ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งข่าวให้พวกรีบซ่อนของผิดกฎหมาย ถ้าช้าอาจโดนจับ หลังตรวจค้นเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมของกลางไปทำบันทึกจับกุมก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ สภ.สระแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป